กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2544) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนภายหลังการประชุมระดับ รัฐมนตรี 4 ฝ่าย (ไทย-ลาว-เวียดนาม-ญี่ปุ่น) เพื่อการใช้ประโยชน์จากสะพานข้าม แม่น้ำโขง-ไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) และการพัฒนาพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแนวพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดมุกดาหาร สรุปได้ดังนี้
โครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ลาว เวียดนาม และไทย โดยเฉพาะประเทศไทยในภาคอีสานที่จะมีทางออกสู่ทะเลเป็นอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งจะทำให้สามารถพัฒนาด้านการท่องเที่ยว การขนส่งสินค้าและการเป็นแหล่งผลิตร่วมกัน สำหรับประเทศลาวนั้นก็จะเป็นเส้นทางออกสู่ทะเลอีกทางหนึ่งด้วย ในส่วนประเทศเวียดนามก็จะมีผลประโยชน์เช่นเดียวกัน โครงการนี้อยู่ภายใต้ East-West Economic Corridor ซึ่งจะเชื่อมตะวันออกและตะวันตก โดยเฉพาะเส้นทางจากกรุงย่างกุ้งที่จะเข้าสู่อำเภอแม่สอดและ ผ่านประเทศไทย โดยเชื่อมกับเส้นทางระหว่างจังหวัดมุกดาหาร-สะหวันนะเขตและดานัง ซึ่งจังหวัดมุกดาหารมีความพร้อมที่จะรองรับโครงการนี้
ดร.สุรเกียรติ์ฯ ชี้แจงต่อไปว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะนำ ไปสู่การพัฒนาโอกาสทางธุรกิจต่อไป ดังนั้นจึงได้ประสานไปยังหอการค้าไทยทุกจังหวัด ในภาคอีสานให้ระดมความคิดเห็นเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับนักธุรกิจลาวและ เวียดนามต่อไป
โครงการนี้จะทำให้ความร่วมมือในลุ่มแม่น้ำโขงเป็นไปอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อขยายโอกาสทางเศรษฐกิจและธุรกิจและแสดงให้โลกเห็นว่า ความร่วมมือภายในสมาชิกอาเซียนสามารถมีผลเป็นรูปธรรมได้จริง การลดช่องว่างระหว่างประเทศสมาชิก อาเซียนเก่าและใหม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง นอกจากนั้น เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ นานาประเทศหันกลับมาให้ความสนใจภูมิภาคอาเซียนอีกครั้งหนึ่งด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2544) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนภายหลังการประชุมระดับ รัฐมนตรี 4 ฝ่าย (ไทย-ลาว-เวียดนาม-ญี่ปุ่น) เพื่อการใช้ประโยชน์จากสะพานข้าม แม่น้ำโขง-ไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) และการพัฒนาพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแนวพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดมุกดาหาร สรุปได้ดังนี้
โครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ลาว เวียดนาม และไทย โดยเฉพาะประเทศไทยในภาคอีสานที่จะมีทางออกสู่ทะเลเป็นอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งจะทำให้สามารถพัฒนาด้านการท่องเที่ยว การขนส่งสินค้าและการเป็นแหล่งผลิตร่วมกัน สำหรับประเทศลาวนั้นก็จะเป็นเส้นทางออกสู่ทะเลอีกทางหนึ่งด้วย ในส่วนประเทศเวียดนามก็จะมีผลประโยชน์เช่นเดียวกัน โครงการนี้อยู่ภายใต้ East-West Economic Corridor ซึ่งจะเชื่อมตะวันออกและตะวันตก โดยเฉพาะเส้นทางจากกรุงย่างกุ้งที่จะเข้าสู่อำเภอแม่สอดและ ผ่านประเทศไทย โดยเชื่อมกับเส้นทางระหว่างจังหวัดมุกดาหาร-สะหวันนะเขตและดานัง ซึ่งจังหวัดมุกดาหารมีความพร้อมที่จะรองรับโครงการนี้
ดร.สุรเกียรติ์ฯ ชี้แจงต่อไปว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะนำ ไปสู่การพัฒนาโอกาสทางธุรกิจต่อไป ดังนั้นจึงได้ประสานไปยังหอการค้าไทยทุกจังหวัด ในภาคอีสานให้ระดมความคิดเห็นเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับนักธุรกิจลาวและ เวียดนามต่อไป
โครงการนี้จะทำให้ความร่วมมือในลุ่มแม่น้ำโขงเป็นไปอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อขยายโอกาสทางเศรษฐกิจและธุรกิจและแสดงให้โลกเห็นว่า ความร่วมมือภายในสมาชิกอาเซียนสามารถมีผลเป็นรูปธรรมได้จริง การลดช่องว่างระหว่างประเทศสมาชิก อาเซียนเก่าและใหม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง นอกจากนั้น เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ นานาประเทศหันกลับมาให้ความสนใจภูมิภาคอาเซียนอีกครั้งหนึ่งด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-