ปัจจุบันชาวอเมริกันส่วนใหญ่หันมาบริโภคอาหารทะเลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกุ้งเป็นอาหารทะเลที่ชาวอเมริกันนิยมบริโภคมาก ในแต่ละปีชาวอเมริกันบริโภคกุ้งมากถึงเกือบ 400 ล้านกิโลกรัม ทำให้สหรัฐฯ ต้องนำเข้ากุ้งจากต่างประเทศสูงถึง 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2543 เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.7 จากปี 2542 เนื่องจากการผลิตกุ้งในประเทศไม่เพียงพอกับความต้องการบริโภค ประเทศที่ครองส่วนแบ่งตลาดกุ้งในสหรัฐฯ มากที่สุด คือ ไทย รองลงมา คือ เม็กซิโก อินเดีย เอกวาดอร์ และจีน ตามลำดับ
ในปี 2543 ไทยส่งออกกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง กุ้งแห้ง กุ้งต้มสุกแช่เย็น และกุ้งกระป๋องไปยังสหรัฐฯ รวมทั้งสิ้น 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.6 จากปีก่อน หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 36.8 ของมูลค่าการนำเข้ากุ้งทั้งหมดของสหรัฐฯ ปัจจัยสำคัญที่เกื้อหนุนให้ไทยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดกุ้งในสหรัฐฯ ได้ในสัดส่วนที่สูง ได้แก่
- การขยายพื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้ง ไทยสามารถเพาะเลี้ยงกุ้งได้มากที่สุดในโลก เนื่องจากรัฐบาลไทยให้การส่งเสริมการเพาะเลี้ยงกุ้ง ประกอบกับในปีที่ผ่านมาราคากุ้งในตลาดโลกอยู่ในระดับสูง จูงใจให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งขยายพื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้ง ทำให้ผลผลิตกุ้งในปี 2543 มีจำนวนเพิ่มขึ้นและสามารถส่งออกได้เพิ่มขึ้น
- คู่แข่งสินค้ากุ้งในตลาดสหรัฐฯ เผชิญปัญหาโรคกุ้งระบาด โดยเฉพาะเอกวาดอร์ซึ่งเคยครองส่วนแบ่งตลาดกุ้งในสหรัฐฯ มากเป็นอันดับ 2 ต้องเผชิญปัญหาโรคระบาดในกุ้งตั้งแต่ปลายปี 2542 ทำให้ปริมาณการผลิตและการส่งออกกุ้งของเอกวาดอร์ในปี 2543 ลดน้อยลง ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดกุ้งของเอกวาดอร์ในสหรัฐฯ ลดลงมาอยู่อันดับ 4 ในปัจจุบัน
- โรงงานแปรรูปกุ้งของไทยทันสมัยและได้มาตรฐานสากล ทำให้กุ้งที่ส่งออกสามารถผ่านการตรวจสอบคุณภาพสินค้าตามมาตรฐานที่ประเทศผู้นำเข้ากำหนด
ข้อมูลสำคัญที่ผู้ส่งออกควรทราบก่อนการส่งออกกุ้งไปตลาดสหรัฐฯ ตลอดจนผู้ส่งออกเดิมที่ต้องการขยายตลาดหรือรักษาส่วนแบ่งตลาดกุ้งในสหรัฐฯ สรุปได้ดังนี้
1. การนำเข้ากุ้งในตลาดสหรัฐฯ ปัจจุบันสหรัฐฯ อนุญาตให้นำเข้ากุ้งได้อย่างเสรี โดยยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้ากุ้งทุกชนิด
2. มาตรฐานของกุ้งที่นำเข้า กุ้งที่สหรัฐฯ อนุญาตให้นำเข้าต้องผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานต่างๆ ของสหรัฐฯ อาทิ
- ระบบการจัดการผลิตอาหาร (Hazard Analysis Critical Control Point: HACCP) ซึ่งองค์การอาหารและยา (Food and Drug Administration: FDA) ของสหรัฐฯ นำมาใช้เป็นมาตรฐานควบคุมการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทุกประเภท รวมถึงปศุสัตว์ ผัก และผลไม้ด้วย โดยกำหนดให้โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ควบคุมและตรวจสอบขั้นตอนการผลิต การแปรรูป การเก็บรักษา ตลอดจนการขนส่ง เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าอาหารที่ผลิตได้มีความปลอดภัย
- ข้อกำหนดด้านมาตรฐานสุขอนามัย กุ้งที่นำเข้าจากต่างประเทศต้องผ่านการตรวจสอบจาก FDA ทั้งในห้องปฏิบัติการและตรวจด้วยวิธีประสาทสัมผัส หากตรวจพบเชื้อหรือสารปรุงแต่งที่ไม่ได้รับอนุญาต สินค้าดังกล่าวจะถูกส่งคืน กักกัน ทำลาย โดยห้ามนำเข้าไปในสหรัฐฯ โดยเด็ดขาด
3. กุ้งที่สหรัฐฯ นำเข้าจากต่างประเทศ แบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ
- กุ้งกุลาดำ (Black Tiger Shrimp) สหรัฐฯ นำเข้ากุ้งชนิดนี้ประมาณร้อยละ 60 ของมูลค่าการนำเข้ากุ้งรวมของสหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่นำเข้าจากตลาดในแถบเอเชีย เช่น ไทย อินเดีย บังกลาเทศ อินโดนีเซีย และเวียดนาม
- กุ้งขาว (White Shrimp) สหรัฐฯ นำเข้ากุ้งชนิดนี้ประมาณร้อยละ 30 ของมูลค่าการนำเข้ากุ้งรวมของสหรัฐฯ โดยนำเข้าจากเอกวาดอร์ เม็กซิโก เวเนซุเอล่า ฮอนดูรัส และจีน
- กุ้งสีน้ำตาลและกุ้งสีชมพู (Brown and Pink Shrimp) สหรัฐฯ นำเข้ากุ้งชนิดนี้ประมาณร้อยละ 10 ของมูลค่าการนำเข้ากุ้งรวมของสหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่นำเข้าจากจีน
4. รสนิยมการบริโภคกุ้งของชาวอเมริกัน ปัจจุบันชาวอเมริกันยังคงนิยมบริโภคกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็งมากที่สุด แต่ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา การนำเข้ากุ้งแปรรูปในลักษณะของกุ้งตุ้มสุกแช่เย็น กุ้งกระป๋อง และกุ้งแห้ง มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นมากเนื่องจากมีความสะดวกมากกว่าในการนำไปปรุงอาหาร
5. ราคากุ้งที่จำหน่ายในตลาดสหรัฐฯ กุ้งในตลาดสหรัฐฯ มีราคาจำหน่ายแตกต่างกันขึ้นกับขนาดของกุ้ง และแหล่งผลิตกุ้งนั้นๆ กุ้งที่นำเข้าจากไทยและอินโดนีเซียมีราคาจำหน่ายสูงกว่ากุ้งที่นำเข้าจากอินเดียและบังกลาเทศ เนื่องจากกุ้งไทยและอินโดนีเซียมีรสชาติดีกว่า
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กรกฎาคม 2544--
-อน-
ในปี 2543 ไทยส่งออกกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง กุ้งแห้ง กุ้งต้มสุกแช่เย็น และกุ้งกระป๋องไปยังสหรัฐฯ รวมทั้งสิ้น 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.6 จากปีก่อน หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 36.8 ของมูลค่าการนำเข้ากุ้งทั้งหมดของสหรัฐฯ ปัจจัยสำคัญที่เกื้อหนุนให้ไทยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดกุ้งในสหรัฐฯ ได้ในสัดส่วนที่สูง ได้แก่
- การขยายพื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้ง ไทยสามารถเพาะเลี้ยงกุ้งได้มากที่สุดในโลก เนื่องจากรัฐบาลไทยให้การส่งเสริมการเพาะเลี้ยงกุ้ง ประกอบกับในปีที่ผ่านมาราคากุ้งในตลาดโลกอยู่ในระดับสูง จูงใจให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งขยายพื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้ง ทำให้ผลผลิตกุ้งในปี 2543 มีจำนวนเพิ่มขึ้นและสามารถส่งออกได้เพิ่มขึ้น
- คู่แข่งสินค้ากุ้งในตลาดสหรัฐฯ เผชิญปัญหาโรคกุ้งระบาด โดยเฉพาะเอกวาดอร์ซึ่งเคยครองส่วนแบ่งตลาดกุ้งในสหรัฐฯ มากเป็นอันดับ 2 ต้องเผชิญปัญหาโรคระบาดในกุ้งตั้งแต่ปลายปี 2542 ทำให้ปริมาณการผลิตและการส่งออกกุ้งของเอกวาดอร์ในปี 2543 ลดน้อยลง ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดกุ้งของเอกวาดอร์ในสหรัฐฯ ลดลงมาอยู่อันดับ 4 ในปัจจุบัน
- โรงงานแปรรูปกุ้งของไทยทันสมัยและได้มาตรฐานสากล ทำให้กุ้งที่ส่งออกสามารถผ่านการตรวจสอบคุณภาพสินค้าตามมาตรฐานที่ประเทศผู้นำเข้ากำหนด
ข้อมูลสำคัญที่ผู้ส่งออกควรทราบก่อนการส่งออกกุ้งไปตลาดสหรัฐฯ ตลอดจนผู้ส่งออกเดิมที่ต้องการขยายตลาดหรือรักษาส่วนแบ่งตลาดกุ้งในสหรัฐฯ สรุปได้ดังนี้
1. การนำเข้ากุ้งในตลาดสหรัฐฯ ปัจจุบันสหรัฐฯ อนุญาตให้นำเข้ากุ้งได้อย่างเสรี โดยยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้ากุ้งทุกชนิด
2. มาตรฐานของกุ้งที่นำเข้า กุ้งที่สหรัฐฯ อนุญาตให้นำเข้าต้องผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานต่างๆ ของสหรัฐฯ อาทิ
- ระบบการจัดการผลิตอาหาร (Hazard Analysis Critical Control Point: HACCP) ซึ่งองค์การอาหารและยา (Food and Drug Administration: FDA) ของสหรัฐฯ นำมาใช้เป็นมาตรฐานควบคุมการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทุกประเภท รวมถึงปศุสัตว์ ผัก และผลไม้ด้วย โดยกำหนดให้โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ควบคุมและตรวจสอบขั้นตอนการผลิต การแปรรูป การเก็บรักษา ตลอดจนการขนส่ง เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าอาหารที่ผลิตได้มีความปลอดภัย
- ข้อกำหนดด้านมาตรฐานสุขอนามัย กุ้งที่นำเข้าจากต่างประเทศต้องผ่านการตรวจสอบจาก FDA ทั้งในห้องปฏิบัติการและตรวจด้วยวิธีประสาทสัมผัส หากตรวจพบเชื้อหรือสารปรุงแต่งที่ไม่ได้รับอนุญาต สินค้าดังกล่าวจะถูกส่งคืน กักกัน ทำลาย โดยห้ามนำเข้าไปในสหรัฐฯ โดยเด็ดขาด
3. กุ้งที่สหรัฐฯ นำเข้าจากต่างประเทศ แบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ
- กุ้งกุลาดำ (Black Tiger Shrimp) สหรัฐฯ นำเข้ากุ้งชนิดนี้ประมาณร้อยละ 60 ของมูลค่าการนำเข้ากุ้งรวมของสหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่นำเข้าจากตลาดในแถบเอเชีย เช่น ไทย อินเดีย บังกลาเทศ อินโดนีเซีย และเวียดนาม
- กุ้งขาว (White Shrimp) สหรัฐฯ นำเข้ากุ้งชนิดนี้ประมาณร้อยละ 30 ของมูลค่าการนำเข้ากุ้งรวมของสหรัฐฯ โดยนำเข้าจากเอกวาดอร์ เม็กซิโก เวเนซุเอล่า ฮอนดูรัส และจีน
- กุ้งสีน้ำตาลและกุ้งสีชมพู (Brown and Pink Shrimp) สหรัฐฯ นำเข้ากุ้งชนิดนี้ประมาณร้อยละ 10 ของมูลค่าการนำเข้ากุ้งรวมของสหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่นำเข้าจากจีน
4. รสนิยมการบริโภคกุ้งของชาวอเมริกัน ปัจจุบันชาวอเมริกันยังคงนิยมบริโภคกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็งมากที่สุด แต่ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา การนำเข้ากุ้งแปรรูปในลักษณะของกุ้งตุ้มสุกแช่เย็น กุ้งกระป๋อง และกุ้งแห้ง มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นมากเนื่องจากมีความสะดวกมากกว่าในการนำไปปรุงอาหาร
5. ราคากุ้งที่จำหน่ายในตลาดสหรัฐฯ กุ้งในตลาดสหรัฐฯ มีราคาจำหน่ายแตกต่างกันขึ้นกับขนาดของกุ้ง และแหล่งผลิตกุ้งนั้นๆ กุ้งที่นำเข้าจากไทยและอินโดนีเซียมีราคาจำหน่ายสูงกว่ากุ้งที่นำเข้าจากอินเดียและบังกลาเทศ เนื่องจากกุ้งไทยและอินโดนีเซียมีรสชาติดีกว่า
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กรกฎาคม 2544--
-อน-