คต. เตือนผู้ประกอบการไทยระมัดระวังและหลีกเลี่ยง การใช้สารตกค้าง Fluoroquinolones ในอาหารทะเลส่งออก
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า รัฐหลุยส์เซียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย State Agriculture Commissioner ออกประกาศฉุกเฉินเรื่อง “ สารตกค้าง ” Fluoruquinolones ในอาหารทะเล และจัดทำกฎระเบียบในการตรวจสอบสารตกค้าง Fluoroquinolones ในอาหารทะเลโดยเฉพาะปลาบาซา (Basa) ที่นำเข้าจากเวียดนาม และวางจำหน่ายในรัฐหลุยส์เซียน่า โดยกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 12 สิงหาคม 2548
กฎหมายเรื่องสารตกค้าง Fluoroquinolones ประกาศห้ามการถือครอง นำเสนอเพื่อจำหน่าย จำหน่ายอาหารทะเลที่มีสารตกค้างดังกล่าว หรือนำสารนี้มาเป็นส่วนผสมในอาหารใด ๆ เพื่อจำหน่ายในรัฐหลุยส์เซียน่า โดย Commissioner จะประกาศพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่มีการใช้ Fluoroquinolones หรือพบสารตกค้างดังกล่าวในสัตว์ที่ใช้เพื่อการบริโภคหรือในผลิตภัณฑ์จากสัตว์นั้น ๆ ซึ่งต้องอยู่บน พื้นฐานของข้อมูลข่าวสารที่เชื่อได้ว่าสารนี้ถูกนำมาใช้จริงในพื้นที่นั้นๆ โดยปัจจุบันเวียดนามถูกประกาศเป็นพื้นที่ที่มีการใช้สารดังกล่าว และเวียดนามจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้ในเรื่องการสุ่มตัวอย่าง การทดสอบ การเก็บบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับการกระจายสินค้า การซื้อและการขายสินค้าอาหารทะเลที่มาจากเวียดนามเป็นเวลา 2 ปี และต้องพร้อมที่จะให้ Department of Agriculture and Forestry เรียกตรวจสอบได้
อนึ่ง ขณะนี้ประกาศฉุกเฉินดังกล่าวของรัฐหลุยส์เซียน่าได้ขยายวงกว้างเป็นเรื่องระดับประเทศ หลายรัฐในสหรัฐฯ ได้ดำเนินการตามรัฐหลุยส์เซียน่า โดยประกาศเตือนผู้บริโภคถึงสารตกค้าง Fluroquinolone ในปลาบาซาที่นำเข้าจากต่างประเทศ และออกกฎระเบียบห้ามการถือครองเพื่อจำหน่ายสินค้าเนื้อปลาบาซาจากเวียดนาม พร้อมทั้งออกตรวจค้นและเก็บสินค้าจากแหล่งที่คาดว่าจะมีสินค้าดังกล่าว นอกจากนี้ ขณะนี้ USFDA อยู่ระหว่างการพิจารณาตัดสินใจจัดทำการเตือนภัยการนำเข้าหรือ “ Import Alert ” สินค้าปลาบาซาจากเวียดนามและห้ามจำหน่ายทั่วสหรัฐฯ
อธิบดี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน Commissioner ประกาศระบุพื้นที่อันตรายเฉพาะประเทศเวียดนาม แต่ในอนาคตอาจรวมถึงประเทศอื่นๆ และประเทศไทยด้วย เนื่องจากกฎระเบียบในเรื่องสารตกค้าง Fluoroquinolones ครอบคลุมอาหารทะเลทุกชนิด ดังนั้น อาหารทะเลอื่นๆ นอกเหนือจากปลาบาซาจากประเทศอื่น ๆ ที่นำเข้าไปสหรัฐฯ อาจถูกสงสัยและมีการตรวจสอบหรือกักกันสินค้า ในส่วนของประเทศไทย ผู้ประกอบการหรือผู้ส่งออกควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการใช้สาร Fluoroquinolones ในอาหารทะเลที่ส่งออก โดยในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2548 ไทยส่งออกอาหารทะเลกระป๋องไปสหรัฐฯ มูลค่า 6,125 ล้านบาท อาหารทะเลแปรรูปมูลค่า 10,188 ล้านบาท อัตราการเปลี่ยนแปลงร้อยละ 1.9 และ -2.5 ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า รัฐหลุยส์เซียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย State Agriculture Commissioner ออกประกาศฉุกเฉินเรื่อง “ สารตกค้าง ” Fluoruquinolones ในอาหารทะเล และจัดทำกฎระเบียบในการตรวจสอบสารตกค้าง Fluoroquinolones ในอาหารทะเลโดยเฉพาะปลาบาซา (Basa) ที่นำเข้าจากเวียดนาม และวางจำหน่ายในรัฐหลุยส์เซียน่า โดยกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 12 สิงหาคม 2548
กฎหมายเรื่องสารตกค้าง Fluoroquinolones ประกาศห้ามการถือครอง นำเสนอเพื่อจำหน่าย จำหน่ายอาหารทะเลที่มีสารตกค้างดังกล่าว หรือนำสารนี้มาเป็นส่วนผสมในอาหารใด ๆ เพื่อจำหน่ายในรัฐหลุยส์เซียน่า โดย Commissioner จะประกาศพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่มีการใช้ Fluoroquinolones หรือพบสารตกค้างดังกล่าวในสัตว์ที่ใช้เพื่อการบริโภคหรือในผลิตภัณฑ์จากสัตว์นั้น ๆ ซึ่งต้องอยู่บน พื้นฐานของข้อมูลข่าวสารที่เชื่อได้ว่าสารนี้ถูกนำมาใช้จริงในพื้นที่นั้นๆ โดยปัจจุบันเวียดนามถูกประกาศเป็นพื้นที่ที่มีการใช้สารดังกล่าว และเวียดนามจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้ในเรื่องการสุ่มตัวอย่าง การทดสอบ การเก็บบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับการกระจายสินค้า การซื้อและการขายสินค้าอาหารทะเลที่มาจากเวียดนามเป็นเวลา 2 ปี และต้องพร้อมที่จะให้ Department of Agriculture and Forestry เรียกตรวจสอบได้
อนึ่ง ขณะนี้ประกาศฉุกเฉินดังกล่าวของรัฐหลุยส์เซียน่าได้ขยายวงกว้างเป็นเรื่องระดับประเทศ หลายรัฐในสหรัฐฯ ได้ดำเนินการตามรัฐหลุยส์เซียน่า โดยประกาศเตือนผู้บริโภคถึงสารตกค้าง Fluroquinolone ในปลาบาซาที่นำเข้าจากต่างประเทศ และออกกฎระเบียบห้ามการถือครองเพื่อจำหน่ายสินค้าเนื้อปลาบาซาจากเวียดนาม พร้อมทั้งออกตรวจค้นและเก็บสินค้าจากแหล่งที่คาดว่าจะมีสินค้าดังกล่าว นอกจากนี้ ขณะนี้ USFDA อยู่ระหว่างการพิจารณาตัดสินใจจัดทำการเตือนภัยการนำเข้าหรือ “ Import Alert ” สินค้าปลาบาซาจากเวียดนามและห้ามจำหน่ายทั่วสหรัฐฯ
อธิบดี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน Commissioner ประกาศระบุพื้นที่อันตรายเฉพาะประเทศเวียดนาม แต่ในอนาคตอาจรวมถึงประเทศอื่นๆ และประเทศไทยด้วย เนื่องจากกฎระเบียบในเรื่องสารตกค้าง Fluoroquinolones ครอบคลุมอาหารทะเลทุกชนิด ดังนั้น อาหารทะเลอื่นๆ นอกเหนือจากปลาบาซาจากประเทศอื่น ๆ ที่นำเข้าไปสหรัฐฯ อาจถูกสงสัยและมีการตรวจสอบหรือกักกันสินค้า ในส่วนของประเทศไทย ผู้ประกอบการหรือผู้ส่งออกควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการใช้สาร Fluoroquinolones ในอาหารทะเลที่ส่งออก โดยในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2548 ไทยส่งออกอาหารทะเลกระป๋องไปสหรัฐฯ มูลค่า 6,125 ล้านบาท อาหารทะเลแปรรูปมูลค่า 10,188 ล้านบาท อัตราการเปลี่ยนแปลงร้อยละ 1.9 และ -2.5 ตามลำดับเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2547
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-