ในปี 2543 ผลิตภัณฑ์บะหมี่สำเร็จรูปมีอัตราการขยายตัวเร็วที่สุดในตลาดผลิตภัณฑ์อาหารของรัสเซีย โดยมียอดจำหน่ายรวม 1.7 พันล้านรูเบิล หรือ 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่ายอดขายจำหน่ายของซอสมะเขือเทศที่มีมูลค่า 40.1 ล้านรูเบิล หรือ 1.3 ล้านเหรียญฯ
นักวิเคราะห์บางรายให้ความเห็นว่า ตลาดบะหมี่สำเร็จรูปค่อนข้างจะอิ่มตัวแล้ว แต่ยังคงมีศักยภาพที่สูงมาก เห็นได้จากการที่ยอดจำหน่ายในปี 2543 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30-50 ซึ่งยอดขายเฉลี่ยของแต่ละบริษัทเท่ากับ 4 ล้านเหรียญฯ ทั้งนี้ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แม้ว่าบริษัทผู้ผลิตบะหมี่สำเร็จรูปรายใหญ่ที่สุดของรัสเซียจะดำเนินการผลิตอย่างเต็มที่แล้วก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้
ปัจจุบันมีบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดบะหมี่สำเร็จรูปของรัสเซีย ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดร่วมกันร้อยละ 50 จำนวน 4 บริษัท โดยทุกบริษัทมีฐานการผลิตที่มีประสิทธิภาพและเครือข่ายการจำหน่ายทั่วรัสเซีย นอกจากนี้ ยังมีบริษัทผู้นำด้านอาหารกลางวันสำเร็จรูปของรัสเซียรายหนึ่งซึ่งจำหน่ายเฉพาะบะหมี่สำเร็จรูปนำเข้าจากเกาหลี โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 20% ในขณะที่ผู้ผลิตรายย่อยอีกหลายรายมีส่วนแบ่งการตลาดที่เหลืออีก 30%
เนื่องจากขณะนี้รัสเซียมีฐานการผลิตบะหมี่สำเร็จรูปขนาดใหญ่เพียงหนึ่งแห่ง จากจำนวน 5 แห่ง ซึ่งมีตั้งอยู่นอกเขตกรุงมอสโก หรือนครเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั่วรัสเซียจึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากในการขนส่ง ทำให้บริษัท King Lion ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกตลาดอาหารสำเร็จรูปในรัสเซียรายแรกด้วยการนำเข้าบะหมี่สำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ อีกหลายชนิดจากเวียดนาม และปัจจุบันเป็นผู้ผลิตบะหมี่สำเร็จรูปรายใหญ่ที่สุดในรัสเซียกำลังพิจารณาซื้อฐานการผลิตที่เหมาะสมนอกกรุงมอสโก รวมถึงรัฐ Ural ตลอดจนการพัฒนาระบบการจัดจำหน่ายในภูมิภาคเพื่อลดต้นทุนการผลิต และทำให้การจำหน่ายสินค้าปลีกมีราคาไม่สูงเกินไป
นักวิเคราะห์ด้านการตลาดเสนอแนะว่า ในการเจาะตลาดอาหารสำเร็จรูปซึ่งค่อนข้างอิ่มตัวแล้วนี้จะต้องหาทิศทางใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นการผลิตสินค้าอาหารสำเร็จรูปชนิดอื่น เช่น มันสำปะหลังบด ซุปหรือเครื่องปรุงและส่วนผสมอาหารต่างๆ ดังเช่นที่บริษัท Nestle ดำเนินการอยู่ ทั้งนี้แม้ว่าจะมีการวิจารณ์จากคนรัสเซียว่าการบริโภคอาหารดังกล่าวอาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ แต่ปริมาณความต้องการก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สถานเอกอัครราชทูตฯ มีความเห็นว่า เนื่องจากความต้องการในการบริโภคอาหารสำเร็จรูปและบะหมี่สำเร็จรูปในรัสเซียยังคงมีอยู่ในระดับสูง จึงเป็นลู่ทางสำหรับนักธุรกิจไทยในการส่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปจำหน่ายในรัสเซีย เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของไทยมีราคาถูก มีรสชาดหลากหลาย รวมถึงมีกระบวนการเพิ่มคุณค่าทางอาหารอีกด้วย ทั้งนี้หากบริษัทเอกชนของไทยสนใจจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์บะหมี่สำเร็จรูปในรัสเซีย ก็สามารถขอใบอนุญาตจากหน่วยงานของรัสเซียในการออกใบรับรองได้
(ที่มา : สถานเอกอัครราชทูตฯ ณ กรุงมอสโก)
--วารสาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประจำเดือนตุลาคม 2544--
-อน-
นักวิเคราะห์บางรายให้ความเห็นว่า ตลาดบะหมี่สำเร็จรูปค่อนข้างจะอิ่มตัวแล้ว แต่ยังคงมีศักยภาพที่สูงมาก เห็นได้จากการที่ยอดจำหน่ายในปี 2543 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30-50 ซึ่งยอดขายเฉลี่ยของแต่ละบริษัทเท่ากับ 4 ล้านเหรียญฯ ทั้งนี้ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แม้ว่าบริษัทผู้ผลิตบะหมี่สำเร็จรูปรายใหญ่ที่สุดของรัสเซียจะดำเนินการผลิตอย่างเต็มที่แล้วก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้
ปัจจุบันมีบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดบะหมี่สำเร็จรูปของรัสเซีย ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดร่วมกันร้อยละ 50 จำนวน 4 บริษัท โดยทุกบริษัทมีฐานการผลิตที่มีประสิทธิภาพและเครือข่ายการจำหน่ายทั่วรัสเซีย นอกจากนี้ ยังมีบริษัทผู้นำด้านอาหารกลางวันสำเร็จรูปของรัสเซียรายหนึ่งซึ่งจำหน่ายเฉพาะบะหมี่สำเร็จรูปนำเข้าจากเกาหลี โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 20% ในขณะที่ผู้ผลิตรายย่อยอีกหลายรายมีส่วนแบ่งการตลาดที่เหลืออีก 30%
เนื่องจากขณะนี้รัสเซียมีฐานการผลิตบะหมี่สำเร็จรูปขนาดใหญ่เพียงหนึ่งแห่ง จากจำนวน 5 แห่ง ซึ่งมีตั้งอยู่นอกเขตกรุงมอสโก หรือนครเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั่วรัสเซียจึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากในการขนส่ง ทำให้บริษัท King Lion ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกตลาดอาหารสำเร็จรูปในรัสเซียรายแรกด้วยการนำเข้าบะหมี่สำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ อีกหลายชนิดจากเวียดนาม และปัจจุบันเป็นผู้ผลิตบะหมี่สำเร็จรูปรายใหญ่ที่สุดในรัสเซียกำลังพิจารณาซื้อฐานการผลิตที่เหมาะสมนอกกรุงมอสโก รวมถึงรัฐ Ural ตลอดจนการพัฒนาระบบการจัดจำหน่ายในภูมิภาคเพื่อลดต้นทุนการผลิต และทำให้การจำหน่ายสินค้าปลีกมีราคาไม่สูงเกินไป
นักวิเคราะห์ด้านการตลาดเสนอแนะว่า ในการเจาะตลาดอาหารสำเร็จรูปซึ่งค่อนข้างอิ่มตัวแล้วนี้จะต้องหาทิศทางใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นการผลิตสินค้าอาหารสำเร็จรูปชนิดอื่น เช่น มันสำปะหลังบด ซุปหรือเครื่องปรุงและส่วนผสมอาหารต่างๆ ดังเช่นที่บริษัท Nestle ดำเนินการอยู่ ทั้งนี้แม้ว่าจะมีการวิจารณ์จากคนรัสเซียว่าการบริโภคอาหารดังกล่าวอาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ แต่ปริมาณความต้องการก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สถานเอกอัครราชทูตฯ มีความเห็นว่า เนื่องจากความต้องการในการบริโภคอาหารสำเร็จรูปและบะหมี่สำเร็จรูปในรัสเซียยังคงมีอยู่ในระดับสูง จึงเป็นลู่ทางสำหรับนักธุรกิจไทยในการส่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปจำหน่ายในรัสเซีย เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของไทยมีราคาถูก มีรสชาดหลากหลาย รวมถึงมีกระบวนการเพิ่มคุณค่าทางอาหารอีกด้วย ทั้งนี้หากบริษัทเอกชนของไทยสนใจจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์บะหมี่สำเร็จรูปในรัสเซีย ก็สามารถขอใบอนุญาตจากหน่วยงานของรัสเซียในการออกใบรับรองได้
(ที่มา : สถานเอกอัครราชทูตฯ ณ กรุงมอสโก)
--วารสาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประจำเดือนตุลาคม 2544--
-อน-