แท็ก
อินเตอร์เน็ต
ในช่วงเวลาที่การทำธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องดังเช่นในปัจจุบันนี้ ปรากฎว่าบริษัทผู้ให้บริการระบบการชำระเงินทั้งหลายต่างเร่งพัฒนาระบบการชำระเงินแบบใหม่ขึ้นมามากมาย เช่น บัตรชำระเงินล่วงหน้า (Prepaid value cards) และ Web currency เป็นต้น ซึ่งวิธีการเหล่านี้ถูกเรียกรวม ๆ ว่า วิธีการชำระเงินแนวใหม่ (alternative payment methods) อย่างไรก็ตามขณะนี้การชำระเงินด้วยบัตรเครคิต ยังคงเป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากผู้ใช้บริการ (98.5% ของการทำธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตชำระเงินกันโดยใช้บัตรเครดิต)
เหตุผลสำคัญที่บัตรเครดิตยังคงได้รับความนิยมมากในทุกวันนี้คือ ผู้ใช้มีความคุ้นเคยและมั่นใจในการใช้บัตรเครดิต นอกจากนี้ปัญหาต่าง ๆ ของวิธีการชำระเงินแนวใหม่ในหลายกรณี กลับเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนยังคงนิยมใช้บัตรเครดิตอยู่ เช่น วิธีการเดบิตจากบัญชีกระแสรายวันของลูกค้าที่มาซื้อสินค้านั้น ลูกค้าต้องมอบข้อมูลส่วนตัวจำนวนมากให้กับ Web site ที่อาจจะยังไม่ได้รับความเชื่อถือ อีกทั้งวิธีนี้ยังเปิดโอกาสให้ร้านค้าโกงเงินผู้ซื้อได้ง่าย โดยการถอนเงินเกินกว่าราคาสินค้าได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลูกค้าเกิดความไม่มั่นใจในการใช้ ส่วนวิธีการใช้บัตรชำระเงินล่วงหน้า ยังมีอุปสรรคในการใช้อยู่ คือมีข้อจำกัดที่ว่าผู้ใช้ต้องมีบัตรเครดิตก่อน อีกทั้งในการใช้บัตรชำระเงินล่วงหน้านั้น ผู้ใช้ยังต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวให้กับร้านค้าออนไลน์อย่างน้อยหนึ่งร้านเช่นกัน
ปัจจุบันผู้ให้บริการชำระเงินแนวใหม่ทั้งหลาย ต่างกำลังพัฒนาระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาและจุดอ่อนในวิธีการชำระเงินของตนอยู่ ตัวอย่างเช่น American Express CobaltCard ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการบัตรชำระเงินล่วงหน้า ได้พัฒนาให้การชำระเงินด้วยวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องอาศัยบัตรเครดิตอีกต่อไป โดยจะใช้วิธีออนไลน์ผ่านบัญชีกระแสรายวันแทน นอกจากนี้ทาง American Express ยังมีโครงการที่จะขยายการให้บริการบัตรชำระเงินล่วงหน้าไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในอนาคตด้วย แม้ว่าในหลายประเทศจะมีปริมาณธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตน้อยกว่าในสหรัฐฯ มาก แต่ประเทศเหล่านั้นก็พร้อมที่จะยอมรับและพัฒนาวิธีการชำระเงินทางเลือกใหม่มากกว่า โดยเฉพาะในแถบทวีปเอเชียและอเมริกาใต้ ซึ่งยังมีปริมาณการใช้บัตรเครดิตไม่มากนัก
การทำธุรกรรมผ่านทางอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันส่วนใหญ่ ยังคงอาศัยระบบการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต แต่วิธีการชำระเงินใหม่ ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา กำลังมีบทบาทเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน จากรายงานของ ActivMedia แจ้งว่าปริมาณการชำระเงินในการทำธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตด้วยบัตรเครดิตจะลดลงจาก 98.5 % เหลือเป็นประมาณ 90% ในปีนี้ ในขณะที่มูลค่าของการใช้ smart cards และ e-wallet มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น จาก 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2543 เป็น 5.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2544 และจะเพิ่มเป็นประมาณ 20 พันล้านดอลล่าร์ในปี 2545 ดังนั้นในอนาคตวิธีการชำระเงินแนวใหม่นี้ อาจจะสามารถก้าวเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดของบัตรเครดิตก็ได้
--จุลสารระบบการชำระเงิน/พฤษภาคม 2544--
-ยก-
เหตุผลสำคัญที่บัตรเครดิตยังคงได้รับความนิยมมากในทุกวันนี้คือ ผู้ใช้มีความคุ้นเคยและมั่นใจในการใช้บัตรเครดิต นอกจากนี้ปัญหาต่าง ๆ ของวิธีการชำระเงินแนวใหม่ในหลายกรณี กลับเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนยังคงนิยมใช้บัตรเครดิตอยู่ เช่น วิธีการเดบิตจากบัญชีกระแสรายวันของลูกค้าที่มาซื้อสินค้านั้น ลูกค้าต้องมอบข้อมูลส่วนตัวจำนวนมากให้กับ Web site ที่อาจจะยังไม่ได้รับความเชื่อถือ อีกทั้งวิธีนี้ยังเปิดโอกาสให้ร้านค้าโกงเงินผู้ซื้อได้ง่าย โดยการถอนเงินเกินกว่าราคาสินค้าได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลูกค้าเกิดความไม่มั่นใจในการใช้ ส่วนวิธีการใช้บัตรชำระเงินล่วงหน้า ยังมีอุปสรรคในการใช้อยู่ คือมีข้อจำกัดที่ว่าผู้ใช้ต้องมีบัตรเครดิตก่อน อีกทั้งในการใช้บัตรชำระเงินล่วงหน้านั้น ผู้ใช้ยังต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวให้กับร้านค้าออนไลน์อย่างน้อยหนึ่งร้านเช่นกัน
ปัจจุบันผู้ให้บริการชำระเงินแนวใหม่ทั้งหลาย ต่างกำลังพัฒนาระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาและจุดอ่อนในวิธีการชำระเงินของตนอยู่ ตัวอย่างเช่น American Express CobaltCard ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการบัตรชำระเงินล่วงหน้า ได้พัฒนาให้การชำระเงินด้วยวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องอาศัยบัตรเครดิตอีกต่อไป โดยจะใช้วิธีออนไลน์ผ่านบัญชีกระแสรายวันแทน นอกจากนี้ทาง American Express ยังมีโครงการที่จะขยายการให้บริการบัตรชำระเงินล่วงหน้าไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในอนาคตด้วย แม้ว่าในหลายประเทศจะมีปริมาณธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตน้อยกว่าในสหรัฐฯ มาก แต่ประเทศเหล่านั้นก็พร้อมที่จะยอมรับและพัฒนาวิธีการชำระเงินทางเลือกใหม่มากกว่า โดยเฉพาะในแถบทวีปเอเชียและอเมริกาใต้ ซึ่งยังมีปริมาณการใช้บัตรเครดิตไม่มากนัก
การทำธุรกรรมผ่านทางอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันส่วนใหญ่ ยังคงอาศัยระบบการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต แต่วิธีการชำระเงินใหม่ ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมา กำลังมีบทบาทเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน จากรายงานของ ActivMedia แจ้งว่าปริมาณการชำระเงินในการทำธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตด้วยบัตรเครดิตจะลดลงจาก 98.5 % เหลือเป็นประมาณ 90% ในปีนี้ ในขณะที่มูลค่าของการใช้ smart cards และ e-wallet มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น จาก 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2543 เป็น 5.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2544 และจะเพิ่มเป็นประมาณ 20 พันล้านดอลล่าร์ในปี 2545 ดังนั้นในอนาคตวิธีการชำระเงินแนวใหม่นี้ อาจจะสามารถก้าวเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดของบัตรเครดิตก็ได้
--จุลสารระบบการชำระเงิน/พฤษภาคม 2544--
-ยก-