ข่าวการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๕
ครั้งที่ ๕
วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ เดือนกรกฎาคม ๒๕๔๔
ณ ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น ๓ อาคารรัฐสภา ๓
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
---------------------------------
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยมีการพิจารณากระทรวงพาณิชย์ ในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
และกรมการค้าต่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมการค้าภายใน กรมทะเบียนการค้า
กรมการประกันภัย กรมทรัพย์สินทางปัญญา แลกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้
กระทรวงพาณิชย์
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๔,๘๖๑,๘๑๙,๐๐๐ บาท
สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๗๐๘,๔๓๓,๑๐๐ บาท
มีรายการปรับลด ๙๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ ลดลงจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔
เป็นเงิน ๙๗,๙๒๒,๖๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
๑. คณะกรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี ๒๕๔๔
ซึ่งได้รับการอนุมัติเป็นเงิน ๘๐๖,๓๕๕,๗๐๐ บาท แต่ระยะเวลาจ่ายจริง (๘ เดือน) ใช้จ่ายไป
๓๒๙,๗๘๖,๙๔๑ บาท ระยะเวลาอีก ๔ เดือน ไม่ควรจะใช้จ่ายล่าช้าเพราะมีปัญหาในเรื่องการตรวจแบบ
ในการก่อสร้างอาคารกระทรวงพาณิชย์ และคาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้แต่ต้องจัดไว้เป็นงบประมาณ
ผูกพันธ์
๒. คณะกรรมาธิการได้ซักถามเกี่ยวกับการตรวจสต็อกข้าวของกระทรวงพาณิชย์ว่า
ผลการตรวจเป็นอย่างไร มีการทุจริต คอร์รัปชั่นหรือไม่ ปลัดกระทรวงชี้แจงว่าจากการตรวจของ
เจ้าพนักงานตำรวจ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งเอกสารแจ้งกับปลัดกระทรวงว่าไม่พบว่า
มีการทุจริต ขณะนี้กรณีดังกล่าวอยู่ในระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ หากได้ผลประการใด
จะแจ้งให้คณะกรรมาธิการทราบต่อไป
๓. คณะกรรมาธิการซักถามเกี่ยวกับงบประมาณการจัดซื้อสำนักงานคณะผู้แทนถาวรไทย
ณ นครเจนีวา จำนวนเงิน ๘๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าเดิมเดือนละประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ บาท
ในปัจจุบันเป็นเดือนละประมาณ ๘๐๐,๐๐๐ บาท หากทำการจัดซื้อในระยะยาวจะคุ้มค่ากว่าการเช่า
กรมการค้าต่างประเทศ
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๐๐๒,๑๐๘,๘๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นเงิน
๒๑๑,๕๕๒,๗๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
๑. คณะกรรมาธิการเสนอแนะกรมารค้าต่างประเทศให้ส่งเสริมผู้ส่งออกในเรื่องเกี่ยวกับ
การขนส่ง ผู้ส่งออกควรได้รับความสะดวกรวดเร็ว การดำเนินการต้องทำอย่างต่อเนื่องเป็นระบบ
๒. คณะกรรมาธิกาไรด้ซักถามเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายอื่น จำนวน ๔๗,๒๕๔,๘๐๐ บาท
เป็นค่าจ้างบริษัททนายความ ที่ปรึกษา และกิจกรรมอื่น ๆ เกี่ยวกับการติดต่อกับต่างประเทศ อธิบดี
ได้ชี้แจงว่าเป็นงบประมาณที่มีความจำเป็นเพราะเกี่ยวกับกฎหมายในต่างประเทศ แต่คณะกรรมาธิการ
มีความเห็นว่าคำชี้แจงไม่ตรงประเด็น ขาดรายละเอียดและสถาบันทางกฎหมายเกี่ยวกับกฎหมายต่าง
ประเทศของไทยก็มี จึงมีมติให้สำนักงบประมาณทำการศึกษาในรายละเอียดและทำการปรับลดตาม
ความเหมาะสม
กรมการส่งเสริมการส่งออก
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๘๑๒,๘๑๘,๓๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วมิได้ตั้งข้อสังเกต
กรมการค้าภายใน
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๓๙๔,๖๑๐,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วมิได้ตั้งข้อสังเกต
กรมทะเบียนการค้า
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๔๕๙,๐๘๖,๙๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วมิได้ตั้งข้อสังเกต
กรมการประกันภัย
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑๙๐,๗๘๐,๑๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วมิได้ตั้งข้อสังเกต
กรมทรัพย์สินทางปัญญา
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑๐๐,๖๙๔,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
คณะกรรมาธิการพิจารณาแล้วตั้งข้อสังเกตสรุปได้ดังนี้
คณะกรรมาธิการได้ซักถามถึงปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา ในกรณีของเทป ซีดี
ซึ่งในปัจจุบันมีการละเมิดลิขสิทธิ์กันอย่างเปิดเผยและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองและสร้างความ
เดือดร้อนให้แก่เจ้าของลิขสิทธิ์อย่างมาก ในประเด็นดังกล่าวนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้กล่าวว่า
หน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญามี ๓ อย่างคือ การจดทะเบียนเครื่องหมายทางการค้า
การจดลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร จากปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญานั้น กรมเป็นเพียงหน่วยงานที่คอย
ประสานงานกับส่วนราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อการปฏิบัติงานป้องปรามการละเมิดทรัพย์สิน
ทางปัญญา ตามนโยบายของรัฐบาลเท่านั้น และการละเมิดลิขสิทธิ์ที่เกิดขึ้นนั้นส่วนมากเป็นลิขสิทธิ์ของ
คนไทยเองถึง ๗๐ เปอร์เซ็นต์
คณะกรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาควรจะส่งเสริมให้เกิดจิตสำนึก
ในการเคารพสิทธิของผู้อื่น โดยส่งเสริมให้จัดทำหลักสูตรการศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อเป็นการปลูกจิต
สำนึกที่ดีแก่เยาวชน
กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ ๑๙๓,๒๘๗,๘๐๐ บาท
ก. แผนงานส่งเสริมพาณิชย์ระหว่างประเทศ ๑๙๓,๒๘๗,๘๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วมิได้ตั้งข้งสังเกต
ยอดคงเหลืองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๕
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๐๒๓,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
กระทรวงการคลัง ไม่มีการปรับลด
กระทรวงยุติธรรม มีการปรับลด ๔๖,๖๐๐,๘๐๐ บาท
กระทรวงพาณิชย์ มีการปรับลด ๙๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
คงเหลือ ๑,๐๒๒,๘๖๓,๓๙๙,๒๐๐ บาท
หมายเหตุ ยอด ณ วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๔๔
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๕
ครั้งที่ ๕
วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ เดือนกรกฎาคม ๒๕๔๔
ณ ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น ๓ อาคารรัฐสภา ๓
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
---------------------------------
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยมีการพิจารณากระทรวงพาณิชย์ ในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
และกรมการค้าต่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมการค้าภายใน กรมทะเบียนการค้า
กรมการประกันภัย กรมทรัพย์สินทางปัญญา แลกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้
กระทรวงพาณิชย์
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๔,๘๖๑,๘๑๙,๐๐๐ บาท
สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๗๐๘,๔๓๓,๑๐๐ บาท
มีรายการปรับลด ๙๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ ลดลงจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔
เป็นเงิน ๙๗,๙๒๒,๖๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
๑. คณะกรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี ๒๕๔๔
ซึ่งได้รับการอนุมัติเป็นเงิน ๘๐๖,๓๕๕,๗๐๐ บาท แต่ระยะเวลาจ่ายจริง (๘ เดือน) ใช้จ่ายไป
๓๒๙,๗๘๖,๙๔๑ บาท ระยะเวลาอีก ๔ เดือน ไม่ควรจะใช้จ่ายล่าช้าเพราะมีปัญหาในเรื่องการตรวจแบบ
ในการก่อสร้างอาคารกระทรวงพาณิชย์ และคาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้แต่ต้องจัดไว้เป็นงบประมาณ
ผูกพันธ์
๒. คณะกรรมาธิการได้ซักถามเกี่ยวกับการตรวจสต็อกข้าวของกระทรวงพาณิชย์ว่า
ผลการตรวจเป็นอย่างไร มีการทุจริต คอร์รัปชั่นหรือไม่ ปลัดกระทรวงชี้แจงว่าจากการตรวจของ
เจ้าพนักงานตำรวจ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งเอกสารแจ้งกับปลัดกระทรวงว่าไม่พบว่า
มีการทุจริต ขณะนี้กรณีดังกล่าวอยู่ในระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ หากได้ผลประการใด
จะแจ้งให้คณะกรรมาธิการทราบต่อไป
๓. คณะกรรมาธิการซักถามเกี่ยวกับงบประมาณการจัดซื้อสำนักงานคณะผู้แทนถาวรไทย
ณ นครเจนีวา จำนวนเงิน ๘๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าเดิมเดือนละประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ บาท
ในปัจจุบันเป็นเดือนละประมาณ ๘๐๐,๐๐๐ บาท หากทำการจัดซื้อในระยะยาวจะคุ้มค่ากว่าการเช่า
กรมการค้าต่างประเทศ
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๐๐๒,๑๐๘,๘๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๔ เป็นเงิน
๒๑๑,๕๕๒,๗๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
๑. คณะกรรมาธิการเสนอแนะกรมารค้าต่างประเทศให้ส่งเสริมผู้ส่งออกในเรื่องเกี่ยวกับ
การขนส่ง ผู้ส่งออกควรได้รับความสะดวกรวดเร็ว การดำเนินการต้องทำอย่างต่อเนื่องเป็นระบบ
๒. คณะกรรมาธิกาไรด้ซักถามเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายอื่น จำนวน ๔๗,๒๕๔,๘๐๐ บาท
เป็นค่าจ้างบริษัททนายความ ที่ปรึกษา และกิจกรรมอื่น ๆ เกี่ยวกับการติดต่อกับต่างประเทศ อธิบดี
ได้ชี้แจงว่าเป็นงบประมาณที่มีความจำเป็นเพราะเกี่ยวกับกฎหมายในต่างประเทศ แต่คณะกรรมาธิการ
มีความเห็นว่าคำชี้แจงไม่ตรงประเด็น ขาดรายละเอียดและสถาบันทางกฎหมายเกี่ยวกับกฎหมายต่าง
ประเทศของไทยก็มี จึงมีมติให้สำนักงบประมาณทำการศึกษาในรายละเอียดและทำการปรับลดตาม
ความเหมาะสม
กรมการส่งเสริมการส่งออก
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๘๑๒,๘๑๘,๓๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วมิได้ตั้งข้อสังเกต
กรมการค้าภายใน
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๓๙๔,๖๑๐,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วมิได้ตั้งข้อสังเกต
กรมทะเบียนการค้า
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๔๕๙,๐๘๖,๙๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วมิได้ตั้งข้อสังเกต
กรมการประกันภัย
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑๙๐,๗๘๐,๑๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วมิได้ตั้งข้อสังเกต
กรมทรัพย์สินทางปัญญา
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑๐๐,๖๙๔,๐๐๐ บาท
ไม่มีรายการปรับลด
คณะกรรมาธิการพิจารณาแล้วตั้งข้อสังเกตสรุปได้ดังนี้
คณะกรรมาธิการได้ซักถามถึงปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา ในกรณีของเทป ซีดี
ซึ่งในปัจจุบันมีการละเมิดลิขสิทธิ์กันอย่างเปิดเผยและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองและสร้างความ
เดือดร้อนให้แก่เจ้าของลิขสิทธิ์อย่างมาก ในประเด็นดังกล่าวนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้กล่าวว่า
หน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญามี ๓ อย่างคือ การจดทะเบียนเครื่องหมายทางการค้า
การจดลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร จากปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญานั้น กรมเป็นเพียงหน่วยงานที่คอย
ประสานงานกับส่วนราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อการปฏิบัติงานป้องปรามการละเมิดทรัพย์สิน
ทางปัญญา ตามนโยบายของรัฐบาลเท่านั้น และการละเมิดลิขสิทธิ์ที่เกิดขึ้นนั้นส่วนมากเป็นลิขสิทธิ์ของ
คนไทยเองถึง ๗๐ เปอร์เซ็นต์
คณะกรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาควรจะส่งเสริมให้เกิดจิตสำนึก
ในการเคารพสิทธิของผู้อื่น โดยส่งเสริมให้จัดทำหลักสูตรการศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อเป็นการปลูกจิต
สำนึกที่ดีแก่เยาวชน
กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์
งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๔๕ ๑๙๓,๒๘๗,๘๐๐ บาท
ก. แผนงานส่งเสริมพาณิชย์ระหว่างประเทศ ๑๙๓,๒๘๗,๘๐๐ บาท
คณะกรรมาธิการได้พิจารณาแล้วมิได้ตั้งข้งสังเกต
ยอดคงเหลืองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๕
งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ๑,๐๒๓,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
กระทรวงการคลัง ไม่มีการปรับลด
กระทรวงยุติธรรม มีการปรับลด ๔๖,๖๐๐,๘๐๐ บาท
กระทรวงพาณิชย์ มีการปรับลด ๙๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
คงเหลือ ๑,๐๒๒,๘๖๓,๓๙๙,๒๐๐ บาท
หมายเหตุ ยอด ณ วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๔๔