ข่าวในประเทศ
1. ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลงเหลือร้อยละ 1.5-2.0 ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ได้พิจารณาปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยลงเหลือระดับร้อยละ 1.5-2.0 จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ระดับร้อยละ 2.0-2.5 เนื่องจากประเมินว่า ภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าของไทย โดยเฉพาะ สรอ. และประเทศในภูมิภาคยังคงมีแนวโน้มอ่อนตัวลง ทำให้การส่งออกของไทยที่ชะลอลงตามยังไม่แสดงทิศทางที่จะฟื้นตัวขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยลบที่ยังคงกดดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย อย่างไรก็ตาม แรงกระตุ้นจากภาคการคลังของรัฐบาลคาดว่าจะผ่อนคลายผลกระทบดังกล่าวได้ โดยจะต้องมีความต่อเนื่องและเพียงพอที่จะเพิ่มอุปสงค์ภายในประเทศ นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนระยะ 14 วันไว้ในอัตราร้อยละ 2.5 ต่อปี ต่อไป เนื่องจากเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำเพียงพอที่จะเกื้อหนุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแล้ว (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน 30)
2. ธปท.เตรียมเซ็นสัญญากู้ยืมเงิน Currency Swap กับ ธ.กลางจีน รมว.คลังเปิดเผยภายหลังเดินทางเยือนประเทศจีนว่า รัฐบาลจีนตกลงจะสนับสนุนวงเงินกู้ฉุกเฉินในกรณีที่เกิดวิกฤติเงินทุนสำรอง (Currency Swap) ให้กับไทยวงเงิน 2,000 ล.ดอลลาร์ สรอ. โดยคาดว่าจะมีการลงนามเซ็นสัญญาระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและ ธ.กลางของจีนในการประชุมรัฐมนตรีคลังของเอเปกในเดือน ต.ค.44 นอกจากนี้ จีนได้แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนในไทย ซึ่งขณะนี้มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่น่าสนใจ 3 โครงการ คือ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และการจัดตั้งกองทุนร่วมทุน(แมชชิ่งฟันต์) (ผู้จัดการรายวัน, เดลินิวส์ 30)
3. สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือทางธุรกิจ ปลัด ก.คลัง เปิดเผยว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 6 แห่ง ประกอบด้วย ธ.ออมสิน ธ.อาคารสงเคราะห์ ธ.เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ได้ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือเพื่อเกื้อกูลการดำเนินธุรกิจ โดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและทรัพยากรร่วมกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด (มติชน, 30)
4. ก.คลังประสานงานกับ กบข. และ ธ.กรุงไทยเพื่อเตรียมจัดตั้งกองทุนร่วมทุน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในเบื้องต้น รมว.คลัง ได้ขอความร่วมมือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และ ธ.กรุงไทย ให้เข้าร่วมลงทุนในกองทุนร่วมทุน (แมชชิ่ง ฟันด์) ในส่วนของเงินลงทุนในประเทศ โดยจะร่วมหารือและเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการต่อไป (โลกวันนี้, ข่าวสด 30)
5. ดัชนีอุตสาหกรรมยังคงทรงตัวในไตรมาสที่ 2 ปี 44 ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ 2 ปี 44 ดัชนีอุตสาหกรรมของไทยโดยรวมยังอยู่ในภาวะทรงตัว ในช่วงครึ่งแรกของปี 44 ภาคอุตสาหกรรมมีการขยายตัวเล็กน้อย โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง (เดลินิวส์ 30)
ข่าวต่างประเทศ
1. จีดีพีของ สรอ. หลังปรับตัวเลขขยายตัวเพียงร้อยละ 0.2 ในไตรมาสที่ 2 ปี 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 29 ส.ค. 44 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) หลังปรับฤดูกาล เติบโตเพียงร้อยละ 0.2 จากตัวเลขก่อนปรับที่เติบโตร้อยละ 0.7 และชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกปี 44 ที่เติบโตร้อยละ 1.3 นับเป็นอัตราการเติบโตรายไตรมาสที่ต่ำสุดในรอบ 8 ปีตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 36 ที่จีดีพีหดตัวลงร้อยละ 0.1 ทั้งนี้ การที่จีดีพีชะลอตัวลงอีกในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอลง ขณะที่ยอดขายสินค้าคงคลังของบริษัทต่างๆลดลงอย่างรุนแรง รวมทั้งการใช้จ่ายลงทุนของธุรกิจก็ลดลงอย่างมากจากไตรมาสก่อน ส่งผลให้นักวิเคราะห์สงสัยว่าเศรษฐกิจ สรอ. ที่ชะลอตัวลงติดต่อกันยาวนานเป็นปีอาจจะดำเนินต่อไปอีกและกระตุ้นให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (รอยเตอร์29)
2. ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 2.8 ในเดือน ก.ค.44 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 30 ส.ค.44 ก.การค้าและอุตสาหกรรม (METI) เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมในเดือน ก.ค.44 ซึ่งเป็นตัวเลขหลังปรับฤดูกาล ลดลงร้อยละ 2.8 เทียบต่อเดือน หลังจากลดลงร้อยละ 0.8 ในเดือน มิ.ย.44 และลดลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์จำนวน 13 คน คาดไว้ว่าจะลดลงเฉลี่ย (median) ร้อยละ 2.4 ก่อนหน้านี้ METI ปรับลดตัวเลขผลผลิตฯ ในเดือน มิ.ย.เป็นลดลงร้อยละ 0.8 จากประมาณการเบื้องต้นที่ลดลงร้อยละ 0.7 นั้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าคงเหลือ ทำให้ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด สำหรับตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิตในเดือน ส.ค.44 METI คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เทียบต่อเดือน และจะลดลงร้อยละ 3.0 ในเดือน ก.ย.44 (รอยเตอร์ 30)
3. ยอดการค้าปลีกของญี่ปุ่นเดือน ก.ค.44 ลดลงร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบปีต่อปี รายงานจากโตเกียว เมื่อ 30 ส.ค.44 ก. เศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เดือน ก.ค.44 การค้าปลีกโดยรวมของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบปีต่อปี หลังจากเดือน มิ.ย.44 ลดลงร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบปีต่อปี นับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยยอดการค้าปลีกของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งอ่อนไหวง่ายต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลงร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบปีต่อปี หลังจากที่เดือน มิ.ย.44 ลดลงร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบปีต่อปี (รอยเตอร์ 30)
4. จีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสกุลเงินตราต่างประเทศที่สำคัญ รายงานจากปักกิ่งเมื่อ 29 ส.ค.44 สำนักงานข่าวซินหัวรายงานว่า ธ.กลางจีนจะปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากที่เป็นเงินสกุลดอลลาร์ สรอ.และสกุลเงินอื่นๆ คือ เงินปอนด์, ยูโร, ดอลลาร์ฮ่องกง, ดอลลาร์แคนาดา และฟรังก์สวิส โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสกุลดอลลาร์ สรอ. ระยะ 1 ปี เหลือร้อยละ 2.3125 ขณะที่เงินปอนด์ เหลือร้อยละ 3.4375 ดอลลาร์ฮ่องกง เหลือร้อยละ 2.4375 อย่างไรก็ตาม ธ.กลางมิได้เปิดเผยอัตราการปรับลดดอกเบี้ยสำหรับเงินสกุลอื่น ก่อนหน้านี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสกุลดอลลาร์ อยู่ที่ร้อยละ 2.5 (รอยเตอร์ 29)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 29 ส.ค. 44 44.258 (44.214)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 29 ส.ค. 44ซื้อ 44.0608 (43.9936) ขาย 44.3628 (44.2916)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,700 (5,650) ขาย 5,800 (5,750)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 24.45 (24.91)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 15.39 (15.39) ดีเซลหมุนเร็ว 13.94 (13.94)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลงเหลือร้อยละ 1.5-2.0 ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ได้พิจารณาปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยลงเหลือระดับร้อยละ 1.5-2.0 จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ระดับร้อยละ 2.0-2.5 เนื่องจากประเมินว่า ภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าของไทย โดยเฉพาะ สรอ. และประเทศในภูมิภาคยังคงมีแนวโน้มอ่อนตัวลง ทำให้การส่งออกของไทยที่ชะลอลงตามยังไม่แสดงทิศทางที่จะฟื้นตัวขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยลบที่ยังคงกดดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย อย่างไรก็ตาม แรงกระตุ้นจากภาคการคลังของรัฐบาลคาดว่าจะผ่อนคลายผลกระทบดังกล่าวได้ โดยจะต้องมีความต่อเนื่องและเพียงพอที่จะเพิ่มอุปสงค์ภายในประเทศ นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนระยะ 14 วันไว้ในอัตราร้อยละ 2.5 ต่อปี ต่อไป เนื่องจากเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำเพียงพอที่จะเกื้อหนุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแล้ว (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน 30)
2. ธปท.เตรียมเซ็นสัญญากู้ยืมเงิน Currency Swap กับ ธ.กลางจีน รมว.คลังเปิดเผยภายหลังเดินทางเยือนประเทศจีนว่า รัฐบาลจีนตกลงจะสนับสนุนวงเงินกู้ฉุกเฉินในกรณีที่เกิดวิกฤติเงินทุนสำรอง (Currency Swap) ให้กับไทยวงเงิน 2,000 ล.ดอลลาร์ สรอ. โดยคาดว่าจะมีการลงนามเซ็นสัญญาระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและ ธ.กลางของจีนในการประชุมรัฐมนตรีคลังของเอเปกในเดือน ต.ค.44 นอกจากนี้ จีนได้แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนในไทย ซึ่งขณะนี้มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่น่าสนใจ 3 โครงการ คือ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และการจัดตั้งกองทุนร่วมทุน(แมชชิ่งฟันต์) (ผู้จัดการรายวัน, เดลินิวส์ 30)
3. สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือทางธุรกิจ ปลัด ก.คลัง เปิดเผยว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 6 แห่ง ประกอบด้วย ธ.ออมสิน ธ.อาคารสงเคราะห์ ธ.เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ได้ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือเพื่อเกื้อกูลการดำเนินธุรกิจ โดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและทรัพยากรร่วมกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด (มติชน, 30)
4. ก.คลังประสานงานกับ กบข. และ ธ.กรุงไทยเพื่อเตรียมจัดตั้งกองทุนร่วมทุน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในเบื้องต้น รมว.คลัง ได้ขอความร่วมมือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และ ธ.กรุงไทย ให้เข้าร่วมลงทุนในกองทุนร่วมทุน (แมชชิ่ง ฟันด์) ในส่วนของเงินลงทุนในประเทศ โดยจะร่วมหารือและเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการต่อไป (โลกวันนี้, ข่าวสด 30)
5. ดัชนีอุตสาหกรรมยังคงทรงตัวในไตรมาสที่ 2 ปี 44 ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ 2 ปี 44 ดัชนีอุตสาหกรรมของไทยโดยรวมยังอยู่ในภาวะทรงตัว ในช่วงครึ่งแรกของปี 44 ภาคอุตสาหกรรมมีการขยายตัวเล็กน้อย โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง (เดลินิวส์ 30)
ข่าวต่างประเทศ
1. จีดีพีของ สรอ. หลังปรับตัวเลขขยายตัวเพียงร้อยละ 0.2 ในไตรมาสที่ 2 ปี 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 29 ส.ค. 44 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) หลังปรับฤดูกาล เติบโตเพียงร้อยละ 0.2 จากตัวเลขก่อนปรับที่เติบโตร้อยละ 0.7 และชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกปี 44 ที่เติบโตร้อยละ 1.3 นับเป็นอัตราการเติบโตรายไตรมาสที่ต่ำสุดในรอบ 8 ปีตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 36 ที่จีดีพีหดตัวลงร้อยละ 0.1 ทั้งนี้ การที่จีดีพีชะลอตัวลงอีกในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอลง ขณะที่ยอดขายสินค้าคงคลังของบริษัทต่างๆลดลงอย่างรุนแรง รวมทั้งการใช้จ่ายลงทุนของธุรกิจก็ลดลงอย่างมากจากไตรมาสก่อน ส่งผลให้นักวิเคราะห์สงสัยว่าเศรษฐกิจ สรอ. ที่ชะลอตัวลงติดต่อกันยาวนานเป็นปีอาจจะดำเนินต่อไปอีกและกระตุ้นให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (รอยเตอร์29)
2. ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 2.8 ในเดือน ก.ค.44 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 30 ส.ค.44 ก.การค้าและอุตสาหกรรม (METI) เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมในเดือน ก.ค.44 ซึ่งเป็นตัวเลขหลังปรับฤดูกาล ลดลงร้อยละ 2.8 เทียบต่อเดือน หลังจากลดลงร้อยละ 0.8 ในเดือน มิ.ย.44 และลดลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์จำนวน 13 คน คาดไว้ว่าจะลดลงเฉลี่ย (median) ร้อยละ 2.4 ก่อนหน้านี้ METI ปรับลดตัวเลขผลผลิตฯ ในเดือน มิ.ย.เป็นลดลงร้อยละ 0.8 จากประมาณการเบื้องต้นที่ลดลงร้อยละ 0.7 นั้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าคงเหลือ ทำให้ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด สำหรับตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิตในเดือน ส.ค.44 METI คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เทียบต่อเดือน และจะลดลงร้อยละ 3.0 ในเดือน ก.ย.44 (รอยเตอร์ 30)
3. ยอดการค้าปลีกของญี่ปุ่นเดือน ก.ค.44 ลดลงร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบปีต่อปี รายงานจากโตเกียว เมื่อ 30 ส.ค.44 ก. เศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เดือน ก.ค.44 การค้าปลีกโดยรวมของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบปีต่อปี หลังจากเดือน มิ.ย.44 ลดลงร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบปีต่อปี นับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยยอดการค้าปลีกของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งอ่อนไหวง่ายต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลงร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบปีต่อปี หลังจากที่เดือน มิ.ย.44 ลดลงร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบปีต่อปี (รอยเตอร์ 30)
4. จีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสกุลเงินตราต่างประเทศที่สำคัญ รายงานจากปักกิ่งเมื่อ 29 ส.ค.44 สำนักงานข่าวซินหัวรายงานว่า ธ.กลางจีนจะปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากที่เป็นเงินสกุลดอลลาร์ สรอ.และสกุลเงินอื่นๆ คือ เงินปอนด์, ยูโร, ดอลลาร์ฮ่องกง, ดอลลาร์แคนาดา และฟรังก์สวิส โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสกุลดอลลาร์ สรอ. ระยะ 1 ปี เหลือร้อยละ 2.3125 ขณะที่เงินปอนด์ เหลือร้อยละ 3.4375 ดอลลาร์ฮ่องกง เหลือร้อยละ 2.4375 อย่างไรก็ตาม ธ.กลางมิได้เปิดเผยอัตราการปรับลดดอกเบี้ยสำหรับเงินสกุลอื่น ก่อนหน้านี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสกุลดอลลาร์ อยู่ที่ร้อยละ 2.5 (รอยเตอร์ 29)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 29 ส.ค. 44 44.258 (44.214)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 29 ส.ค. 44ซื้อ 44.0608 (43.9936) ขาย 44.3628 (44.2916)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,700 (5,650) ขาย 5,800 (5,750)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 24.45 (24.91)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 15.39 (15.39) ดีเซลหมุนเร็ว 13.94 (13.94)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-