ไทย - อิหร่าน เห็นพ้องกันในการร่วมลงทุนและส่งเสริมทางด้านการค้า
นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร และ
นายคามาล คาราซี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน มี
ความเห็นร่วมกันที่จะร่วมลงทุนกับไทย
วันที่ 23 เมษายน 2544 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ ห้องรับรอง 1 ชั้น 2 อาคาร
รัฐสภา 1 นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร และนางศิริลักษณ์ ปั้นบำรุงกิจ
เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมให้การรับรองนายคามาล คาราซี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ทั้งนี้รัฐสภาไทยและรัฐสภาอิหร่านมี ความสัมพันธ์กันทั้งทางด้านวัฒนธรรม การเมือง
เศรษฐกิจ ซึ่งนายคามาลได้กล่าวว่า ประเทศ อิหร่านมีความสนใจที่จะร่วมลงทุนกับไทยในกิจการต่าง ๆ
เช่น กิจการข้าว กิจการฟาร์มเลี้ยงกุ้ง และอาหารกุ้ง เป็นต้น ทั้งสองประเทศมีความเห็นพ้องกันว่า
ควรจะเพิ่มพูนและส่งเสริมด้านการค้าให้มากยิ่งขึ้น
หลังจากนั้นประธานรัฐสภาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
อิหร่านได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) มีการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพ
เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านรัฐสภา การเมือง เศรษฐกิจ วิชาการ และวัฒนธรรม ต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ประธานรัฐสภาเชื่อมั่นว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเอเชียกลางไปสู่ยุโรปได้
และมีแนวคิดที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อไป
------------------------------------------------
กองการประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร และ
นายคามาล คาราซี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน มี
ความเห็นร่วมกันที่จะร่วมลงทุนกับไทย
วันที่ 23 เมษายน 2544 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ ห้องรับรอง 1 ชั้น 2 อาคาร
รัฐสภา 1 นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร และนางศิริลักษณ์ ปั้นบำรุงกิจ
เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมให้การรับรองนายคามาล คาราซี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ทั้งนี้รัฐสภาไทยและรัฐสภาอิหร่านมี ความสัมพันธ์กันทั้งทางด้านวัฒนธรรม การเมือง
เศรษฐกิจ ซึ่งนายคามาลได้กล่าวว่า ประเทศ อิหร่านมีความสนใจที่จะร่วมลงทุนกับไทยในกิจการต่าง ๆ
เช่น กิจการข้าว กิจการฟาร์มเลี้ยงกุ้ง และอาหารกุ้ง เป็นต้น ทั้งสองประเทศมีความเห็นพ้องกันว่า
ควรจะเพิ่มพูนและส่งเสริมด้านการค้าให้มากยิ่งขึ้น
หลังจากนั้นประธานรัฐสภาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
อิหร่านได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) มีการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพ
เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านรัฐสภา การเมือง เศรษฐกิจ วิชาการ และวัฒนธรรม ต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ประธานรัฐสภาเชื่อมั่นว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเอเชียกลางไปสู่ยุโรปได้
และมีแนวคิดที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อไป
------------------------------------------------
กองการประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร