นายเกริกไกร จีระแพทย์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยภายหลังการเดินทางไปเจรจากับจีนเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคการส่งออกสินค้าข้าว พืชผัก ผลไม้และสัตว์น้ำ จากไทยไปจีนในระหว่างวันที่ 21 — 23 สิงหาคม 2543 ว่า จีนมีความสนใจอย่างมากในการร่วมกับไทยและเวียดนาม เพื่อขายข้าวคุณภาพต่ำร่วมกัน หรือที่เรียกว่ากองทุนรวมข้าว Rice pool โดยจีนกำลังศึกษาในรายละอียดเพื่อนำมาร่วมหารือสามฝ่ายที่ไทยในช่วงปลายเดือนกันยายน หรือต้นเดือนตุลาคม ศกนี้ นอกจากนี้ จีนให้ความสนใจในความคืบหน้าการจัดตั้งตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (Future Market) ของไทย ซึ่งจะเป็นกลไกอันหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำได้
สำหรับการนำเข้าข้าวไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2543 (มกราคม — กรกฎาคม) มีปริมาณลดต่ำลง เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยฝ่ายจีนแจ้งว่าข้าวที่นำเข้าจากไทยเกือบทั้งหมดเป็นข้าวหอม และขณะนี้ราคาข้าวดังกล่าวได้สูงขึ้นมาก ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคของจีนซึ่งไม่สามารถซื้อมาบริโภคได้ การนำเข้าข้าวทั้งหมดของจีนดำเนินการโดยบรรษัทนำเข้าและส่งออกธัญพืช พืชน้ำมัน และอาหารแห่งชาติจีน (COFCO) ซึ่งแต่ละปีการตลาด (เมษายน — มีนาคม ปีถัดไป) จะมีการกำหนดปริมาณนำเข้า โดยจัดสรรให้ COFCO ที่ประจำแต่ละมณฑลเป็นผู้นำเข้าและหากไม่สามารถนำเข้าได้ครบตามที่ได้รับจัดสรรไว้ ก็สามารถยกไปนำเข้าได้ในปีต่อไปได้ การกำหนดปริมาณนำเข้าข้าว (โควตานำเข้า) ของแต่ละปีเป็นเพียงภาพรวมปริมาณการนำเข้าจริงขึ้นอยู่กับภาวะความต้องการของตลาดข้าวในจีนด้วย
ส่วนปัญหาเกี่ยวกับเอกสารแสดงเพื่อขอการนำเข้าสินค้าประเภทพืชผัก ผลไม้ และสัตว์น้ำจากไทย จีนมีความเข้าใจในประเด็นที่ไทยมีหลายหน่วยงานที่ออกใบรับรองสุขอนามัย และเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทางฝ่ายจีนจะแจ้งชื่อหน่วยงานของไทยที่มีหน้าที่ออกใบรับรองสุขอนามัยทั้งสามหน่วยงาน ซึ่งได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนทราบต่อไป จึงคาดว่าคงจะไม่มีปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับการแสดงใบรับรองสุขอนามัยสำหรับการนำเข้าสินค้าพืช ผักผลไม้ และสัตว์ จากไทยต่อไป พร้อมนี้ฝ่ายไทยได้เสนอให้จีนจัดคณะผู้แทนเดินทางมาเยี่ยมชมและตรวจสอบคุณภาพสุขอนามัยโรงงานส่งออกของไทยในแต่ละสินค้า อาทิ กุ้งแช่แข็ง อาหารทะเล มันสำปะหลัง เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ และให้โรงงานดังกล่าวสามารถออกใบรับรองสุขอนามัยในการส่งออกได้เองโดยไม่ต้องขอจากหน่วยงานราชการของไทย ซึ่งจะทำให้สะดวกในการส่งออกและสามารถลดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ในกรณีมันสำปะหลัง ปกติจีนนำเข้าเพื่อผลิตแอลกอฮอล์เท่านั้น และมีการเก็บภาษีค่อนข้างสูง ในขณะที่ยังมิได้มีการนำเข้าเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารอาหารสัตว์ โดยอ้างว่ายังไม่คุ้นเคย ฝ่ายไทยจึงได้เจรจาผลักดันให้จีนมีการนำเข้าเพื่อผลิตเป็นอาหารสัตว์ และขอให้ลดภาษีลงมาเท่ากับวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์อื่น ๆ โดยแจ้งว่าจะมีคณะผู้แทนมันสำปะหลังเดินทางมาเยือนจีนในเร็ว ๆ นี้ และผู้แทนคณะนี้สามารถจะให้ความช่วยเหลือและความกระจ่างได้มากเกี่ยวกับการใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์และใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ
ในการเดินทางไปเยือนและเจรจาครั้งนี้ ประสบผลสำเร็จและได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากจีน ในการที่จะร่วมมือกันต่อสู้ในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจรจากับประเทศผู้นำเข้าในยุโรปและอเมริกาเกี่ยวกับการกำหนดมาตรฐานสากลสารตกค้างในอาหาร ซึ่งประเทศพัฒนาแล้วเหล่านี้มักจะนำมาเป็นข้ออ้างในการกีดกันการนำเข้า สินค้าอาหารจากประเทศกำลังพัฒนา
--กรมการค้าต่างประเทศ กันยายน 2543--
-อน-
สำหรับการนำเข้าข้าวไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2543 (มกราคม — กรกฎาคม) มีปริมาณลดต่ำลง เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยฝ่ายจีนแจ้งว่าข้าวที่นำเข้าจากไทยเกือบทั้งหมดเป็นข้าวหอม และขณะนี้ราคาข้าวดังกล่าวได้สูงขึ้นมาก ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคของจีนซึ่งไม่สามารถซื้อมาบริโภคได้ การนำเข้าข้าวทั้งหมดของจีนดำเนินการโดยบรรษัทนำเข้าและส่งออกธัญพืช พืชน้ำมัน และอาหารแห่งชาติจีน (COFCO) ซึ่งแต่ละปีการตลาด (เมษายน — มีนาคม ปีถัดไป) จะมีการกำหนดปริมาณนำเข้า โดยจัดสรรให้ COFCO ที่ประจำแต่ละมณฑลเป็นผู้นำเข้าและหากไม่สามารถนำเข้าได้ครบตามที่ได้รับจัดสรรไว้ ก็สามารถยกไปนำเข้าได้ในปีต่อไปได้ การกำหนดปริมาณนำเข้าข้าว (โควตานำเข้า) ของแต่ละปีเป็นเพียงภาพรวมปริมาณการนำเข้าจริงขึ้นอยู่กับภาวะความต้องการของตลาดข้าวในจีนด้วย
ส่วนปัญหาเกี่ยวกับเอกสารแสดงเพื่อขอการนำเข้าสินค้าประเภทพืชผัก ผลไม้ และสัตว์น้ำจากไทย จีนมีความเข้าใจในประเด็นที่ไทยมีหลายหน่วยงานที่ออกใบรับรองสุขอนามัย และเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทางฝ่ายจีนจะแจ้งชื่อหน่วยงานของไทยที่มีหน้าที่ออกใบรับรองสุขอนามัยทั้งสามหน่วยงาน ซึ่งได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนทราบต่อไป จึงคาดว่าคงจะไม่มีปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับการแสดงใบรับรองสุขอนามัยสำหรับการนำเข้าสินค้าพืช ผักผลไม้ และสัตว์ จากไทยต่อไป พร้อมนี้ฝ่ายไทยได้เสนอให้จีนจัดคณะผู้แทนเดินทางมาเยี่ยมชมและตรวจสอบคุณภาพสุขอนามัยโรงงานส่งออกของไทยในแต่ละสินค้า อาทิ กุ้งแช่แข็ง อาหารทะเล มันสำปะหลัง เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ และให้โรงงานดังกล่าวสามารถออกใบรับรองสุขอนามัยในการส่งออกได้เองโดยไม่ต้องขอจากหน่วยงานราชการของไทย ซึ่งจะทำให้สะดวกในการส่งออกและสามารถลดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ในกรณีมันสำปะหลัง ปกติจีนนำเข้าเพื่อผลิตแอลกอฮอล์เท่านั้น และมีการเก็บภาษีค่อนข้างสูง ในขณะที่ยังมิได้มีการนำเข้าเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารอาหารสัตว์ โดยอ้างว่ายังไม่คุ้นเคย ฝ่ายไทยจึงได้เจรจาผลักดันให้จีนมีการนำเข้าเพื่อผลิตเป็นอาหารสัตว์ และขอให้ลดภาษีลงมาเท่ากับวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์อื่น ๆ โดยแจ้งว่าจะมีคณะผู้แทนมันสำปะหลังเดินทางมาเยือนจีนในเร็ว ๆ นี้ และผู้แทนคณะนี้สามารถจะให้ความช่วยเหลือและความกระจ่างได้มากเกี่ยวกับการใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์และใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ
ในการเดินทางไปเยือนและเจรจาครั้งนี้ ประสบผลสำเร็จและได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากจีน ในการที่จะร่วมมือกันต่อสู้ในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจรจากับประเทศผู้นำเข้าในยุโรปและอเมริกาเกี่ยวกับการกำหนดมาตรฐานสากลสารตกค้างในอาหาร ซึ่งประเทศพัฒนาแล้วเหล่านี้มักจะนำมาเป็นข้ออ้างในการกีดกันการนำเข้า สินค้าอาหารจากประเทศกำลังพัฒนา
--กรมการค้าต่างประเทศ กันยายน 2543--
-อน-