กระทรวงการคลังปรับปรุงหลักเกณฑ์การขอเปิดสาขาของธนาคารพาณิชย์เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์สามารถพัฒนารูปแบบสาขาและการให้บริการให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้มีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและประสิทธิภาพการบริหารจัดการของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นประโยชน์โดยรวมต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2544 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การขอเปิดสาขาของธนาคารพาณิชย์ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด สามารถเปิดสาขาได้โดยเสรี โดยเมื่อได้รับอนุญาตในครั้งแรกแล้วไม่ต้องขออนุญาตการเปิดสาขาในแต่ละครั้งอีก ส่วนธนาคารพาณิชย์ที่ยังไม่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์นี้จะต้องขอเปิดสาขาตามหลักเกณฑ์เดิม ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์ปรับปรุงการดำเนินงานให้เข้มแข็ง และเข้าสู่ระบบการจัดการที่ดีต่อไป
สำหรับคุณสมบัติขั้นต่ำที่กำหนดเป็นหลักเกณฑ์ให้ธนาคารพาณิชย์สามารถเปิดสาขาได้โดยเสรี ได้แก่ ความสามารถในการดำรงอัตราเงินกองทุนสุทธิต่อสินทรัพย์เสี่ยงไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ต้องดำรงตามกฎหมาย การมีอัตราส่วนสินทรัพย์ประจำหรืออสังหาริมทรัพย์ต่อเงินกองทุนสุทธิไม่เกินร้อยละ 40 ของเงินกองทุนสุทธิ และข้อกำหนดต่างๆ ในเรื่องกรรมการ เช่น จำนวนกรรมการอิสระและการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เป็นต้น
2. ยกเลิกเงื่อนไขการขอเปิดสาขาที่ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบทางธุรกิจและเป็นอุปสรรคในการแข่งขัน เช่น เงื่อนไขที่ให้ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่และขนาดกลางที่ขอเปิดสาขาในเขตพื้นที่หนาแน่นจะต้องเปิดสาขาในอำเภอรอบนอกตามอัตราส่วน หรือเงื่อนไขการกำหนดระยะห่างระหว่างสาขาเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ตัดสินใจเลือกที่ตั้งได้อิสระมากขึ้น
3. กำหนดให้การขออนุญาตเปิดสาขาทุกประเภทอยู่ในหลักเกณฑ์ใหม่นี้ เว้นแต่การเปิดให้บริการเครื่อง ATM การให้บริการจุดรับส่งเอกสาร (Counter Service) และการให้บริการสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินให้ปฏิบัติตามเกณฑ์เดิม ซึ่งสามารถดำเนินการได้อย่างสะดวกรวดเร็วอยู่แล้ว
4. อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถกำหนดขอบเขตการประกอบธุรกิจของสาขาได้ตามความเหมาะสม โดยอาจจะเปิดเป็นสาขาเต็มรูปแบบ แต่มิได้ประกอบธุรกิจครบทุกประเภทหรือบางสาขาอาจจะทำธุรกิจไม่ครบทุกประเภทก็ได้ เพื่อสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันในธุรกิจ
5. อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจของสาขาย่อยหรือสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันได้ โดยให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เดียวกับการขอเปิดสาขาใหม่
--ข่าวกระทรวงการคลัง กองกลาง สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 59/2544 30 สิงหาคม 2544--
-อน-
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2544 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การขอเปิดสาขาของธนาคารพาณิชย์ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด สามารถเปิดสาขาได้โดยเสรี โดยเมื่อได้รับอนุญาตในครั้งแรกแล้วไม่ต้องขออนุญาตการเปิดสาขาในแต่ละครั้งอีก ส่วนธนาคารพาณิชย์ที่ยังไม่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์นี้จะต้องขอเปิดสาขาตามหลักเกณฑ์เดิม ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์ปรับปรุงการดำเนินงานให้เข้มแข็ง และเข้าสู่ระบบการจัดการที่ดีต่อไป
สำหรับคุณสมบัติขั้นต่ำที่กำหนดเป็นหลักเกณฑ์ให้ธนาคารพาณิชย์สามารถเปิดสาขาได้โดยเสรี ได้แก่ ความสามารถในการดำรงอัตราเงินกองทุนสุทธิต่อสินทรัพย์เสี่ยงไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ต้องดำรงตามกฎหมาย การมีอัตราส่วนสินทรัพย์ประจำหรืออสังหาริมทรัพย์ต่อเงินกองทุนสุทธิไม่เกินร้อยละ 40 ของเงินกองทุนสุทธิ และข้อกำหนดต่างๆ ในเรื่องกรรมการ เช่น จำนวนกรรมการอิสระและการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เป็นต้น
2. ยกเลิกเงื่อนไขการขอเปิดสาขาที่ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบทางธุรกิจและเป็นอุปสรรคในการแข่งขัน เช่น เงื่อนไขที่ให้ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่และขนาดกลางที่ขอเปิดสาขาในเขตพื้นที่หนาแน่นจะต้องเปิดสาขาในอำเภอรอบนอกตามอัตราส่วน หรือเงื่อนไขการกำหนดระยะห่างระหว่างสาขาเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ตัดสินใจเลือกที่ตั้งได้อิสระมากขึ้น
3. กำหนดให้การขออนุญาตเปิดสาขาทุกประเภทอยู่ในหลักเกณฑ์ใหม่นี้ เว้นแต่การเปิดให้บริการเครื่อง ATM การให้บริการจุดรับส่งเอกสาร (Counter Service) และการให้บริการสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินให้ปฏิบัติตามเกณฑ์เดิม ซึ่งสามารถดำเนินการได้อย่างสะดวกรวดเร็วอยู่แล้ว
4. อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถกำหนดขอบเขตการประกอบธุรกิจของสาขาได้ตามความเหมาะสม โดยอาจจะเปิดเป็นสาขาเต็มรูปแบบ แต่มิได้ประกอบธุรกิจครบทุกประเภทหรือบางสาขาอาจจะทำธุรกิจไม่ครบทุกประเภทก็ได้ เพื่อสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันในธุรกิจ
5. อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจของสาขาย่อยหรือสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันได้ โดยให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เดียวกับการขอเปิดสาขาใหม่
--ข่าวกระทรวงการคลัง กองกลาง สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 59/2544 30 สิงหาคม 2544--
-อน-