กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ตามที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านยาเสพติด ครั้งที่ 22 ระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน 2544 ณ เวียงจันทน์ กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งสรุปผลการประชุมดังนี้
อาเซียนจะเป็นเขตปลอดยาเสพติดได้ภายในปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ตามที่ได้ประกาศเจตนารมย์ไปแล้วหรือไม่ คำถามนี้ยังสร้างความกังวลใจให้กับประเทศสมาชิก ซึ่งต่างต้องเร่งดำเนินมาตรการการปราบปรามและแผนงานต่าง ๆ ในการต่อต้านยาเสพติดภายใน ประเทศของตน ตลอดจนภายในภูมิภาคเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
เมื่อวันที่ 3-5 เมษายน 2544 ได้มีการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้าน ยาเสพติด (ASEAN Senior Officials on Drug Matters — ASOD) ครั้งที่ 22 ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) การประชุม ASOD เป็นการประชุมประจำปีด้านยาเสพติดของประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อแสวงหามาตรการต่าง ๆ ร่วมกันในด้านการปราบปราม การป้องกันยาเสพติด การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ ตลอดจนการวิจัยเพื่อต่อต้านการใช้ยา ในทางที่ผิด การประชุมครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมของประเทศสมาชิกมาจากหน่วยงานด้านป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและป่าไม้ และกระทรวงการต่างประเทศ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติให้ผู้แทนของสำนักงานโครงการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ (United Nations International Drug Control Programme — UNDCP) เจ้าหน้าที่ตำรวจของ นิวซีแลนด์ และเจ้าหน้าที่ของ NGOs ซึ่งปฏิบัติงานด้านยาเสพติดเข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ด้วย
นายสุบัน สริดทิราด รัฐมนตรีประจำสำนักงานประธานประเทศ และประธานคณะ กรรมการควบคุมและตรวจสอบด้านยาเสพติดแห่งชาติลาว เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม พร้อมทั้งได้กล่าวถ้อยแถลงโดยสรุปว่า สารกระตุ้นจิตประสาท (Amphetamine - Type Stimulants — ATS) เริ่มปรากฏใน สปป. ลาวเมื่อปี ค.ศ. 1996 และตั้งแต่นั้นมา สปป. ลาวจะเป็นทางผ่านของการ ลักลอบค้าสาร ATS ดังกล่าว รัฐบาลลาวพยายามที่จะขจัดปัญหาการลักลอบนี้แต่ยังขาดเงินสนับสนุนและความชำนาญการ ซึ่งปัจจุบันสปป. ลาวมีผู้ติดฝิ่นอยู่ประมาณ 63,000 คน นับว่าเป็นภาระให้แก่ครอบครัวและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รัฐบาลลาวจึงร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและประชาคมระหว่างประเทศในการต่อต้านยาเสพติด โดยร่วมมือกับ UNDCP จัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อขจัดการปลูกฝิ่นภายในปี ค.ศ. 2006 พร้อมทั้งประกาศมาตรการต่าง ๆ ภายในประเทศเพื่อต่อต้านการปลูก การนำไปใช้ในทางที่ผิด การผลิตและการลักลอบค้ายาเสพติดทุกประเภท รัฐบาลลาวเห็นว่าปัญหายาเสพติดนี้เป็นปัญหาระหว่างประเทศซึ่งสมควรได้รับการแก้ไขโดยประชาคมระหว่างประเทศและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการประสานความร่วมมือระหว่างกันอย่างแข็งขันด้วย
ที่ประชุมได้ติดตามผลการดำเนินงานตามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการปลอดยาเสพติด ภายในปี ค.ศ. 2015 โดยประเทศสมาชิกได้จัดทำแบบรายงานความคืบหน้าซึ่งระบุมาตรการต่าง ๆ แผนการดำเนินงาน และสถานะของการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติด ตลอดจนผลสำเร็จของการต่อต้านยาเสพติดในประเทศของตน
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบผลการประชุม International Congress : In Pursuit of a Drug Free ASEAN โดยกระทรวงการต่างประเทศ กับ UNDCP ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม 2543 ณ กรุงเทพฯ ซึ่งได้มีการลงนามรับรองแถลงการณ์ทางการเมือง และเอกสาร ACCORD PLUS (ASEAN and China Cooperative Operations in Response to Dangerous Drugs) เพื่อให้อาเซียนเป็นเขตปลอดยาเสพติดภายในปี ค.ศ. 2015 โดยที่ประชุมครั้งนี้รับทราบความคืบหน้าว่าจะมีการประชุมเตรียมการในระดับคณะทำงานเพื่อหารือระหว่างอาเซียนและ UNDCP เกี่ยวกับการจัดทำแผนดำเนินงานภายในกรอบ ACCORD PLUS ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในวันที่ 12 เมษายน 2544
ไทยได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ไทยได้นำเสนอร่างข้อมติเกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อต่อต้านยาเสพติดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Cooperation against the drug problem in the region of Asia and the Pacific) ต่อที่ประชุม Commission on Narcotic Drugs ของ United Nations ซึ่งได้จัดประชุมระหว่างวันที่ 20-29 มีนาคม 2544 ณ กรุงเวียนนา ร่างข้อมติดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากหลายประเทศ และได้รับการรับรองจากที่ประชุมของ UN แล้ว ข้อมติดังกล่าวจัดว่าเป็นการดำเนินงานเพื่อให้มีความคืบหน้าในความร่วมมือภายใต้กรอบ ACCORD PLUS ประเทศสมาชิกอาเซียนต่างนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศตน อาทิ นโยบายของรัฐบาล การดำเนินงานด้านกฎหมาย มาตรการการป้องกัน การบำบัดและการฟื้นฟู ผู้ติดยาเสพติด ซึ่งแต่ละประเทศต่างแสดงสถิติข้อมูลเป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน สำหรับความร่วมมือด้านยาเสพติดระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจานั้น ขณะนี้หลายประเทศ อาทิ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย สหภาพยุโรป สหรัฐฯ และปากีสถาน ได้แสดงความสนใจที่จะร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งจะรวมการควบคุมการลักลอบค้ายาเสพติดและปัญหาการฟอกเงิน
การที่อาเซียนประกาศสงครามกับยาเสพติด และจะต้องเผด็จศึกให้ได้ชัยชนะภายใน ปี ค.ศ. 2015 นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องพยายามต่อไป โดยผลักดัน แผนงาน มาตรการทางกฎหมาย การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ติดยาเสพติด รวมทั้ง การวิจัยเพื่อต่อต้านการใช้ยาในทางที่ผิด เพื่อให้ผลสำเร็จออกมาเป็นรูปธรรม
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
ตามที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านยาเสพติด ครั้งที่ 22 ระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน 2544 ณ เวียงจันทน์ กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งสรุปผลการประชุมดังนี้
อาเซียนจะเป็นเขตปลอดยาเสพติดได้ภายในปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ตามที่ได้ประกาศเจตนารมย์ไปแล้วหรือไม่ คำถามนี้ยังสร้างความกังวลใจให้กับประเทศสมาชิก ซึ่งต่างต้องเร่งดำเนินมาตรการการปราบปรามและแผนงานต่าง ๆ ในการต่อต้านยาเสพติดภายใน ประเทศของตน ตลอดจนภายในภูมิภาคเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
เมื่อวันที่ 3-5 เมษายน 2544 ได้มีการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้าน ยาเสพติด (ASEAN Senior Officials on Drug Matters — ASOD) ครั้งที่ 22 ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) การประชุม ASOD เป็นการประชุมประจำปีด้านยาเสพติดของประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อแสวงหามาตรการต่าง ๆ ร่วมกันในด้านการปราบปราม การป้องกันยาเสพติด การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ ตลอดจนการวิจัยเพื่อต่อต้านการใช้ยา ในทางที่ผิด การประชุมครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมของประเทศสมาชิกมาจากหน่วยงานด้านป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและป่าไม้ และกระทรวงการต่างประเทศ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติให้ผู้แทนของสำนักงานโครงการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ (United Nations International Drug Control Programme — UNDCP) เจ้าหน้าที่ตำรวจของ นิวซีแลนด์ และเจ้าหน้าที่ของ NGOs ซึ่งปฏิบัติงานด้านยาเสพติดเข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ด้วย
นายสุบัน สริดทิราด รัฐมนตรีประจำสำนักงานประธานประเทศ และประธานคณะ กรรมการควบคุมและตรวจสอบด้านยาเสพติดแห่งชาติลาว เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม พร้อมทั้งได้กล่าวถ้อยแถลงโดยสรุปว่า สารกระตุ้นจิตประสาท (Amphetamine - Type Stimulants — ATS) เริ่มปรากฏใน สปป. ลาวเมื่อปี ค.ศ. 1996 และตั้งแต่นั้นมา สปป. ลาวจะเป็นทางผ่านของการ ลักลอบค้าสาร ATS ดังกล่าว รัฐบาลลาวพยายามที่จะขจัดปัญหาการลักลอบนี้แต่ยังขาดเงินสนับสนุนและความชำนาญการ ซึ่งปัจจุบันสปป. ลาวมีผู้ติดฝิ่นอยู่ประมาณ 63,000 คน นับว่าเป็นภาระให้แก่ครอบครัวและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รัฐบาลลาวจึงร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและประชาคมระหว่างประเทศในการต่อต้านยาเสพติด โดยร่วมมือกับ UNDCP จัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อขจัดการปลูกฝิ่นภายในปี ค.ศ. 2006 พร้อมทั้งประกาศมาตรการต่าง ๆ ภายในประเทศเพื่อต่อต้านการปลูก การนำไปใช้ในทางที่ผิด การผลิตและการลักลอบค้ายาเสพติดทุกประเภท รัฐบาลลาวเห็นว่าปัญหายาเสพติดนี้เป็นปัญหาระหว่างประเทศซึ่งสมควรได้รับการแก้ไขโดยประชาคมระหว่างประเทศและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการประสานความร่วมมือระหว่างกันอย่างแข็งขันด้วย
ที่ประชุมได้ติดตามผลการดำเนินงานตามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการปลอดยาเสพติด ภายในปี ค.ศ. 2015 โดยประเทศสมาชิกได้จัดทำแบบรายงานความคืบหน้าซึ่งระบุมาตรการต่าง ๆ แผนการดำเนินงาน และสถานะของการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติด ตลอดจนผลสำเร็จของการต่อต้านยาเสพติดในประเทศของตน
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบผลการประชุม International Congress : In Pursuit of a Drug Free ASEAN โดยกระทรวงการต่างประเทศ กับ UNDCP ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม 2543 ณ กรุงเทพฯ ซึ่งได้มีการลงนามรับรองแถลงการณ์ทางการเมือง และเอกสาร ACCORD PLUS (ASEAN and China Cooperative Operations in Response to Dangerous Drugs) เพื่อให้อาเซียนเป็นเขตปลอดยาเสพติดภายในปี ค.ศ. 2015 โดยที่ประชุมครั้งนี้รับทราบความคืบหน้าว่าจะมีการประชุมเตรียมการในระดับคณะทำงานเพื่อหารือระหว่างอาเซียนและ UNDCP เกี่ยวกับการจัดทำแผนดำเนินงานภายในกรอบ ACCORD PLUS ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในวันที่ 12 เมษายน 2544
ไทยได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ไทยได้นำเสนอร่างข้อมติเกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อต่อต้านยาเสพติดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Cooperation against the drug problem in the region of Asia and the Pacific) ต่อที่ประชุม Commission on Narcotic Drugs ของ United Nations ซึ่งได้จัดประชุมระหว่างวันที่ 20-29 มีนาคม 2544 ณ กรุงเวียนนา ร่างข้อมติดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากหลายประเทศ และได้รับการรับรองจากที่ประชุมของ UN แล้ว ข้อมติดังกล่าวจัดว่าเป็นการดำเนินงานเพื่อให้มีความคืบหน้าในความร่วมมือภายใต้กรอบ ACCORD PLUS ประเทศสมาชิกอาเซียนต่างนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศตน อาทิ นโยบายของรัฐบาล การดำเนินงานด้านกฎหมาย มาตรการการป้องกัน การบำบัดและการฟื้นฟู ผู้ติดยาเสพติด ซึ่งแต่ละประเทศต่างแสดงสถิติข้อมูลเป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน สำหรับความร่วมมือด้านยาเสพติดระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจานั้น ขณะนี้หลายประเทศ อาทิ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย สหภาพยุโรป สหรัฐฯ และปากีสถาน ได้แสดงความสนใจที่จะร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งจะรวมการควบคุมการลักลอบค้ายาเสพติดและปัญหาการฟอกเงิน
การที่อาเซียนประกาศสงครามกับยาเสพติด และจะต้องเผด็จศึกให้ได้ชัยชนะภายใน ปี ค.ศ. 2015 นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องพยายามต่อไป โดยผลักดัน แผนงาน มาตรการทางกฎหมาย การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ติดยาเสพติด รวมทั้ง การวิจัยเพื่อต่อต้านการใช้ยาในทางที่ผิด เพื่อให้ผลสำเร็จออกมาเป็นรูปธรรม
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-