ณ สิ้นเดือนกันยายน 2543 มีสาขาธนาคารพาณิชย์ 508 สำนักงาน (รวมสาขาย่อย 54 สำนักงาน) เท่ากับเดือนก่อน เงินฝากคงค้างในภาคฯ 241,230.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.7 ส่วนสินเชื่อคงค้าง 197,271.3 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13.0 ทำให้อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากลดลงจากร้อยละ 94.4 ในเดือนก่อนเหลือร้อยละ 81.8
อัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ปรับลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.25-0.50 ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ลดลงร้อยละ 0.25 ต่อปี อยู่ระหว่างร้อยละ 2.25-3.00 ต่อปี ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ MLR และอัตราดอกเบี้ย MOR ลดลงร้อยละ 0.50 ต่อปี อยู่ระหว่างร้อยละ 7.50-9.00 ต่อปี และอยู่ระหว่างร้อยละ 8.00-9.50 ต่อปี ตามลำดับ
เงินโอนกลับภูมิลำเนาจากแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนนี้รวม 2,661.3 ล้านบาท จากการที่แรงงานไทยยังเดินทางไปทำงานต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปริมาณการใช้เช็คผ่านสำนักหักบัญชีในภาคฯ เดือนนี้จำนวนทั้งสิ้น 308,894 ฉบับ เป็นเงิน 25,806.9 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 11.5 และร้อยละ 6.9 ตามลำดับ ปริมาณเช็คคืนเพราะไม่มีเงิน 5,852 ฉบับ เป็นเงิน 288.1 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 12.1 และร้อยละ 16.0 ตามลำดับ
การจัดเก็บภาษีอากรในภาคฯ รวม 1,041.4 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 8.6 เนื่องจากการจัดเก็บภาษีสรรพากรและภาษีศุลกากรลดลงเป็นสำคัญ
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนกันยายน สูงขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.4 จากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มร้อยละ 0.6 และราคาสินค้าหมวดอื่น ๆ ที่มิใช่อาหารร้อยละ 0.4 ดัชนีราคาผู้บริโภครายได้น้อยเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.2 ดัชนีราคาผู้บริโภคเขตชนบทเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 และดัชนีราคาขายส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1
ราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ทรงตัวในระดับต่ำยกเว้นข้าวเปลือกที่ราคาปรับสูงขึ้นเล็กน้อย
โครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมลงทุนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนนี้รวม 8 โครงการ เท่ากับเดือนก่อน แต่เป็นเงินลงทุน 559.8 ล้านบาท เพิ่มจากเดือนก่อนถึงร้อยละ 79.0
ส่วนจำนวนธุรกรรมการซื้อขายที่ดินในภาคฯ และพื้นที่ขอรับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลนครและเมืองลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 10.8 และร้อยละ 2.2 ตามลำดับ
การค้าชายแดนไทย-ลาวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีมูลค่าการค้า 1,229.8 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 19.0 เป็นการส่งออก 976.3 ล้านบาท และการนำเข้า 253.5 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 16.9 และร้อยละ 26.0 ตามลำดับ ทั้งนี้ไทยยังคงได้เปรียบดุลการค้า 722.8 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13.1 จากเดือนก่อนที่ได้เปรียบดุลการค้า 831.4 ล้านบาท โดยด่านหนองคายมีมูลค่าการค้าสูงสุด 618.4 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 50.3 ของมูลค่าการค้ารวมทั้งภาคฯ) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.1
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
อัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ปรับลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.25-0.50 ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ลดลงร้อยละ 0.25 ต่อปี อยู่ระหว่างร้อยละ 2.25-3.00 ต่อปี ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ MLR และอัตราดอกเบี้ย MOR ลดลงร้อยละ 0.50 ต่อปี อยู่ระหว่างร้อยละ 7.50-9.00 ต่อปี และอยู่ระหว่างร้อยละ 8.00-9.50 ต่อปี ตามลำดับ
เงินโอนกลับภูมิลำเนาจากแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนนี้รวม 2,661.3 ล้านบาท จากการที่แรงงานไทยยังเดินทางไปทำงานต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปริมาณการใช้เช็คผ่านสำนักหักบัญชีในภาคฯ เดือนนี้จำนวนทั้งสิ้น 308,894 ฉบับ เป็นเงิน 25,806.9 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 11.5 และร้อยละ 6.9 ตามลำดับ ปริมาณเช็คคืนเพราะไม่มีเงิน 5,852 ฉบับ เป็นเงิน 288.1 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 12.1 และร้อยละ 16.0 ตามลำดับ
การจัดเก็บภาษีอากรในภาคฯ รวม 1,041.4 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 8.6 เนื่องจากการจัดเก็บภาษีสรรพากรและภาษีศุลกากรลดลงเป็นสำคัญ
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนกันยายน สูงขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.4 จากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มร้อยละ 0.6 และราคาสินค้าหมวดอื่น ๆ ที่มิใช่อาหารร้อยละ 0.4 ดัชนีราคาผู้บริโภครายได้น้อยเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.2 ดัชนีราคาผู้บริโภคเขตชนบทเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 และดัชนีราคาขายส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1
ราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ทรงตัวในระดับต่ำยกเว้นข้าวเปลือกที่ราคาปรับสูงขึ้นเล็กน้อย
โครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมลงทุนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนนี้รวม 8 โครงการ เท่ากับเดือนก่อน แต่เป็นเงินลงทุน 559.8 ล้านบาท เพิ่มจากเดือนก่อนถึงร้อยละ 79.0
ส่วนจำนวนธุรกรรมการซื้อขายที่ดินในภาคฯ และพื้นที่ขอรับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลนครและเมืองลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 10.8 และร้อยละ 2.2 ตามลำดับ
การค้าชายแดนไทย-ลาวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีมูลค่าการค้า 1,229.8 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 19.0 เป็นการส่งออก 976.3 ล้านบาท และการนำเข้า 253.5 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 16.9 และร้อยละ 26.0 ตามลำดับ ทั้งนี้ไทยยังคงได้เปรียบดุลการค้า 722.8 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13.1 จากเดือนก่อนที่ได้เปรียบดุลการค้า 831.4 ล้านบาท โดยด่านหนองคายมีมูลค่าการค้าสูงสุด 618.4 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 50.3 ของมูลค่าการค้ารวมทั้งภาคฯ) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.1
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-