นายเกริกไกร จีระแพทย์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงสถานการณ์มันสำปะหลังปี 2543/2544 ว่า เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบจากการที่น้ำท่วมมากนัก มีเพียงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดยโสธรเท่านั้นที่ได้รับความเสียหายเพียงบางส่วน ขณะที่ผลการตรวจสอบสต๊อกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอัดเม็ดที่อยู่ในครอบครองของผู้ส่งออกประจำเดือนกันยายน 2543 มีปริมาณทั้งสิ้น 2.75 แสนตัน
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ผู้ส่งออกมีมันสำปะหลังอัดเม็ดที่จะส่งไปต่างประเทศได้ไม่เกินกลางเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น หลังจากนั้นผู้ส่งออกคงต้องซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันในเดือนกันยายนนี้ ผู้ส่งออกจะสามารถระบายมันสำปะหลังอัดเม็ดไปประเทศโปรตุเกส และอิสราเอล ซึ่งเป็นตลาดเก่านอกสหภาพยุโรปที่หยุดซื้อไปนานได้อีกกว่าหนึ่งแสนตัน จึงเป็นโอกาสดีที่มันสำปะหลังของไทยซึ่งขณะนี้มีราคาถูกจะเป็นที่สนใจของตลาดนอกสหภาพยุโรปให้หันกลับมาซื้อมันอัดเม็ดจากไทยอีกครั้ง เป็นการช่วยลดการพึ่งพาตลาดสหภาพยุโรปเพียงตลาดเดียวได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับผลผลิตมันสำปะหลังของเกษตรกรในฤดูกาลใหม่ที่จะออกมานั้น คาดว่าความต้องการใช้ภายในประเทศในการผลิตมันเส้น มันอัดเม็ด แป้งมันสำปะหลัง และสารความหวานและการส่งออกไปตลาดต่างประเทศจะเพิ่มมากขึ้น แต่จากการประมาณการเบื้องต้นที่ผลผลิตหัวมันสดในปีนี้จะมีถึง 20 ล้านตัน และพร้อมที่จะออกสู่ตลาดภายหลังจากฝนหยุดตกและมีแสงแดดเพียงพอที่จะตากมันได้ จึงอาจทำให้มีผลกระทบในด้านราคาหัวมันสดได้ ดังนั้นเกษตรกรจะต้องไม่เร่งขุดมันสำปะหลังออกสู่ตลาดพร้อม ๆ กัน ควรจะทะยอยขุดมันสำปะหลังให้พอดีกับความต้องการของตลาดในขณะนั้น ซึ่งจะทำให้สามารถขายหัวมันสดได้ราคาที่ดีขึ้น และจะทำให้การส่งออกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
--กรมการค้าต่างประเทศ กันยายน 2543--
-อน-
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ผู้ส่งออกมีมันสำปะหลังอัดเม็ดที่จะส่งไปต่างประเทศได้ไม่เกินกลางเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น หลังจากนั้นผู้ส่งออกคงต้องซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันในเดือนกันยายนนี้ ผู้ส่งออกจะสามารถระบายมันสำปะหลังอัดเม็ดไปประเทศโปรตุเกส และอิสราเอล ซึ่งเป็นตลาดเก่านอกสหภาพยุโรปที่หยุดซื้อไปนานได้อีกกว่าหนึ่งแสนตัน จึงเป็นโอกาสดีที่มันสำปะหลังของไทยซึ่งขณะนี้มีราคาถูกจะเป็นที่สนใจของตลาดนอกสหภาพยุโรปให้หันกลับมาซื้อมันอัดเม็ดจากไทยอีกครั้ง เป็นการช่วยลดการพึ่งพาตลาดสหภาพยุโรปเพียงตลาดเดียวได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับผลผลิตมันสำปะหลังของเกษตรกรในฤดูกาลใหม่ที่จะออกมานั้น คาดว่าความต้องการใช้ภายในประเทศในการผลิตมันเส้น มันอัดเม็ด แป้งมันสำปะหลัง และสารความหวานและการส่งออกไปตลาดต่างประเทศจะเพิ่มมากขึ้น แต่จากการประมาณการเบื้องต้นที่ผลผลิตหัวมันสดในปีนี้จะมีถึง 20 ล้านตัน และพร้อมที่จะออกสู่ตลาดภายหลังจากฝนหยุดตกและมีแสงแดดเพียงพอที่จะตากมันได้ จึงอาจทำให้มีผลกระทบในด้านราคาหัวมันสดได้ ดังนั้นเกษตรกรจะต้องไม่เร่งขุดมันสำปะหลังออกสู่ตลาดพร้อม ๆ กัน ควรจะทะยอยขุดมันสำปะหลังให้พอดีกับความต้องการของตลาดในขณะนั้น ซึ่งจะทำให้สามารถขายหัวมันสดได้ราคาที่ดีขึ้น และจะทำให้การส่งออกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
--กรมการค้าต่างประเทศ กันยายน 2543--
-อน-