กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--พรรคประชาธิปัตย์
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย โฆษกพรรคประชาธิปัตย์แถลงภายหลังการประชุม ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ว่าที่ประชุมได้พิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้งโดยที่ประชุมเห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภา ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาใน 3 ประเด็น คือ พรรคจะมีจุดยืนเช่นไร และมีเหตุผลในการพิจารณาร่างของวุฒิสมาชิกที่แก้ไขกลับไป โดยคำนึงที่มาของการแก้ไขร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ซึ่งไม่ได้เกิดจากความประสงค์ของรัฐบาล แต่เป็นความประสงค์ของ กก.ต. รวมทั้งมีข้อเสนอเพิ่มจากสถาบันพระปกเกล้า ดังนั้นเมื่อมีการแก้ไข จึงต้องกลับมาดูว่าประเด็นต่างๆ เป็นไปตามวัตถุประสงค์เดิมหรือไม่
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ได้มีการหยิบยกประเด็นที่ สว.แก้ไข โดยมาตรา 85/1 คือ กรณีที่ กก.ต. ได้แจกใบแดงไปแล้วและต้องฟ้องคดีอาญาทุกคดี ซึ่งวุฒิสภาได้แก้ไขประเด็นดังกล่าวออกไป ซึ่งทางพรรคเห็นว่าประเด็นนี้พอรับได้ ส่วนกรณีที่ 2 คือมาตรา 85/9 กรณีที่ หากมีการกระทำไม่สุจริตและจะเพิกถอนสิทธิ ซึ่งเดิมกำหนดระยะเวลาไว้ 2 ปี แต่วุฒิสภาแก้ไขเหลือ 180 วัน ซึ่งเรื่องนี้ กกต. ต้องการเวลามากกว่า 180 วัน ดังนั้นประเด็นนี้จึงควรมีการแก้ไขตามที่ กก.ต. ต้องการ ส่วนประเด็นที่ 3 คือมาตรา 85/10 คือเรื่องของหมายค้น ซึ่งเดิมทีได้ให้อำนาจ กก.ต.กลางตรวจค้นเคหะสถานโดยไม่ต้องมีหมายศาล แต่ถ้ามอบอำนาจให้ผู้อื่นจะต้องมีหมายค้นจากศาล แต่ทางวันรัฐสภาได้ตัดเรื่องการมีหมายค้นออกไป เรื่องนี้ที่ประชุมเป็นห่วงเกรงว่าอาจจะ มีการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต ยุติธรรม
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ประเด็นสุดท้ายคือ มาตรา 113/1 กรณีรัฐมนตรีที่มาจากส.ส. จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซึ่งเรื่องนี้มีการพิจารณาใน 2 ประเด็น คือ เรื่องนี้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ หรือไม่ และเมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เห็นว่ารัฐธรรมนูญ ไม่ได้มีเจตนาปิดกั้น ส.ส. จากทั้ง 2 ระบบให้เป็นรัฐมนตรี ดังนั้นการเขียนให้ ส.ส. จากระบบใดระบบหนึ่ง ชดใช้ค่าเลือกตั้ง จึงเป็นการเขียนเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญระบุไว้ และต้องยอมรับว่า ประเด็นนี้ได้เกิดจากการถกเถียงกันอย่างมากในสังคม หากย้อนกลับไปสู่การแก้ไขกฎหมายการเลือกตั้งพบว่า กรรมการชุดที่มี นายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธาน เห็นว่าควรตัดประเด็นที่ไม่ตรงกันไป และเอาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับกติกาการเลือกตั้ง ส.ส. ดังนั้นประเด็นนี้เห็นว่าควรมีการแก้ไขภายหลังจะดีกว่า
โฆษกพรรคแถลงต่อไปว่า ทางพรรคได้รับคำยืนยันโดยผ่านการประสานงานของวิปพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับมติของแต่ละพรรค ซึ่งขณะนี้ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการบริหารพรรคชาติไทย แจ้งว่า ทางพรรคชาติไทย มีมติให้ตั้งกรรมาธิการร่วมและมติของทั้งสองพรรค จะนำไปพิจารณาในวิปพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ทราบดีว่าเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน และทางพรรคโดยนายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคยืนยันแล้วว่าจะไม่มีปัญหา หากรัฐมนตรีจะมาจากส.ส.ในพื้นที่ นอกจากนี้ในเรื่องของกรอบเวลาได้มีรัฐมนตรีของพรรค รายงานว่าในที่ประชุมครม.นั้น นายวิษณุ เครืองาม เลขาธิการ ครม. ได้คำนวณระยะเวลาเอาไว้ในทุกกรณีที่อาจเกิดขึ้น และพบว่าทุกกรณีนั้นเวลาจะสามารถลงตัวได้ แม้จะมีการยื่นตีความโดย ส.ว.ก็ตาม
นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับรายชื่อของกรรมาธิการที่ทางพรรคเตรียมไว้ที่จะให้เข้าไปเป็นกรรมาธิการร่วมประกอบด้วย นายมารุต บุนนาค ที่ปรึกษาอาวุโสของพรรคฯ นายปรีชา สุวรรณทัต นายถวิล ไพรสณฑ์ นายทิวา เงินยวง ส.ศ. กทม. และนางอัญชลี วานิช เทพบุตร ส.ส.ภูเก็ต
ทั้งนี้กรรมาธิการร่วมทั้งสองสภา จะมีด้วยกัน 20 คน และยังเชื่อว่ามีโอกาสที่สามารถจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด และเชื่ออีกว่าไม่ต้องมีการขยายการประชุมสภาออกไป.--จบ--
-วว-
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย โฆษกพรรคประชาธิปัตย์แถลงภายหลังการประชุม ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ว่าที่ประชุมได้พิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้งโดยที่ประชุมเห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภา ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาใน 3 ประเด็น คือ พรรคจะมีจุดยืนเช่นไร และมีเหตุผลในการพิจารณาร่างของวุฒิสมาชิกที่แก้ไขกลับไป โดยคำนึงที่มาของการแก้ไขร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ซึ่งไม่ได้เกิดจากความประสงค์ของรัฐบาล แต่เป็นความประสงค์ของ กก.ต. รวมทั้งมีข้อเสนอเพิ่มจากสถาบันพระปกเกล้า ดังนั้นเมื่อมีการแก้ไข จึงต้องกลับมาดูว่าประเด็นต่างๆ เป็นไปตามวัตถุประสงค์เดิมหรือไม่
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ได้มีการหยิบยกประเด็นที่ สว.แก้ไข โดยมาตรา 85/1 คือ กรณีที่ กก.ต. ได้แจกใบแดงไปแล้วและต้องฟ้องคดีอาญาทุกคดี ซึ่งวุฒิสภาได้แก้ไขประเด็นดังกล่าวออกไป ซึ่งทางพรรคเห็นว่าประเด็นนี้พอรับได้ ส่วนกรณีที่ 2 คือมาตรา 85/9 กรณีที่ หากมีการกระทำไม่สุจริตและจะเพิกถอนสิทธิ ซึ่งเดิมกำหนดระยะเวลาไว้ 2 ปี แต่วุฒิสภาแก้ไขเหลือ 180 วัน ซึ่งเรื่องนี้ กกต. ต้องการเวลามากกว่า 180 วัน ดังนั้นประเด็นนี้จึงควรมีการแก้ไขตามที่ กก.ต. ต้องการ ส่วนประเด็นที่ 3 คือมาตรา 85/10 คือเรื่องของหมายค้น ซึ่งเดิมทีได้ให้อำนาจ กก.ต.กลางตรวจค้นเคหะสถานโดยไม่ต้องมีหมายศาล แต่ถ้ามอบอำนาจให้ผู้อื่นจะต้องมีหมายค้นจากศาล แต่ทางวันรัฐสภาได้ตัดเรื่องการมีหมายค้นออกไป เรื่องนี้ที่ประชุมเป็นห่วงเกรงว่าอาจจะ มีการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต ยุติธรรม
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ประเด็นสุดท้ายคือ มาตรา 113/1 กรณีรัฐมนตรีที่มาจากส.ส. จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซึ่งเรื่องนี้มีการพิจารณาใน 2 ประเด็น คือ เรื่องนี้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ หรือไม่ และเมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เห็นว่ารัฐธรรมนูญ ไม่ได้มีเจตนาปิดกั้น ส.ส. จากทั้ง 2 ระบบให้เป็นรัฐมนตรี ดังนั้นการเขียนให้ ส.ส. จากระบบใดระบบหนึ่ง ชดใช้ค่าเลือกตั้ง จึงเป็นการเขียนเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญระบุไว้ และต้องยอมรับว่า ประเด็นนี้ได้เกิดจากการถกเถียงกันอย่างมากในสังคม หากย้อนกลับไปสู่การแก้ไขกฎหมายการเลือกตั้งพบว่า กรรมการชุดที่มี นายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธาน เห็นว่าควรตัดประเด็นที่ไม่ตรงกันไป และเอาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับกติกาการเลือกตั้ง ส.ส. ดังนั้นประเด็นนี้เห็นว่าควรมีการแก้ไขภายหลังจะดีกว่า
โฆษกพรรคแถลงต่อไปว่า ทางพรรคได้รับคำยืนยันโดยผ่านการประสานงานของวิปพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับมติของแต่ละพรรค ซึ่งขณะนี้ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการบริหารพรรคชาติไทย แจ้งว่า ทางพรรคชาติไทย มีมติให้ตั้งกรรมาธิการร่วมและมติของทั้งสองพรรค จะนำไปพิจารณาในวิปพรรคร่วมรัฐบาลต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ทราบดีว่าเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน และทางพรรคโดยนายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคยืนยันแล้วว่าจะไม่มีปัญหา หากรัฐมนตรีจะมาจากส.ส.ในพื้นที่ นอกจากนี้ในเรื่องของกรอบเวลาได้มีรัฐมนตรีของพรรค รายงานว่าในที่ประชุมครม.นั้น นายวิษณุ เครืองาม เลขาธิการ ครม. ได้คำนวณระยะเวลาเอาไว้ในทุกกรณีที่อาจเกิดขึ้น และพบว่าทุกกรณีนั้นเวลาจะสามารถลงตัวได้ แม้จะมีการยื่นตีความโดย ส.ว.ก็ตาม
นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับรายชื่อของกรรมาธิการที่ทางพรรคเตรียมไว้ที่จะให้เข้าไปเป็นกรรมาธิการร่วมประกอบด้วย นายมารุต บุนนาค ที่ปรึกษาอาวุโสของพรรคฯ นายปรีชา สุวรรณทัต นายถวิล ไพรสณฑ์ นายทิวา เงินยวง ส.ศ. กทม. และนางอัญชลี วานิช เทพบุตร ส.ส.ภูเก็ต
ทั้งนี้กรรมาธิการร่วมทั้งสองสภา จะมีด้วยกัน 20 คน และยังเชื่อว่ามีโอกาสที่สามารถจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด และเชื่ออีกว่าไม่ต้องมีการขยายการประชุมสภาออกไป.--จบ--
-วว-