ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบอุทกภัยในภาคใต้โดยลดอัตราดอกเบี้ยการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน
นายโอบเอื้อ ครุฑานุช ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารมวลชนในฐานะรองโฆษก ธปท. เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้ได้รับเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานอย่างเพียงพอ ธปท. เห็นควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คิดจากสถาบันการเงินในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจากเดิมอัตราร้อยละ 3 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 2 ต่อปี เป็นการชั่วคราวระยะเวลา 1 ปี โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2544 และมีกำหนดให้ใช้เงินช่วยเหลือตามโครงการนี้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในภาคใต้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2543 ธปท. จะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าว โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจออกตั๋วสัญญาใช้เงินไปขายแทนตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับเดิม โดยอัตราดอกเบี้ยที่ระบุในตั๋วสัญญาใช้เงินต้องไม่เกินอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าชั้นดี MLR ของธนาคารพาณิชย์ที่ขายตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นลบด้วยร้อยละ 2.75 ต่อปี และกรณีของสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคารพาณิชย์ให้ใช้อัตราดอกเบี้ย MLR ตามประกาศของธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทยจำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โดยเฉลี่ยลบด้วยร้อยละ 2.75 ต่อปี โดย ธปท.จะเรียกเก็บดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินที่รับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินในอัตราร้อยละ 1 ต่อปีสำหรับจำนวนเงินที่รับซื้อ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/15 มกราคม 2544--
-ยก-
นายโอบเอื้อ ครุฑานุช ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารมวลชนในฐานะรองโฆษก ธปท. เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้ได้รับเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานอย่างเพียงพอ ธปท. เห็นควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คิดจากสถาบันการเงินในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจากเดิมอัตราร้อยละ 3 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 2 ต่อปี เป็นการชั่วคราวระยะเวลา 1 ปี โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2544 และมีกำหนดให้ใช้เงินช่วยเหลือตามโครงการนี้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในภาคใต้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2543 ธปท. จะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าว โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจออกตั๋วสัญญาใช้เงินไปขายแทนตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับเดิม โดยอัตราดอกเบี้ยที่ระบุในตั๋วสัญญาใช้เงินต้องไม่เกินอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าชั้นดี MLR ของธนาคารพาณิชย์ที่ขายตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นลบด้วยร้อยละ 2.75 ต่อปี และกรณีของสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคารพาณิชย์ให้ใช้อัตราดอกเบี้ย MLR ตามประกาศของธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทยจำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โดยเฉลี่ยลบด้วยร้อยละ 2.75 ต่อปี โดย ธปท.จะเรียกเก็บดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินที่รับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินในอัตราร้อยละ 1 ต่อปีสำหรับจำนวนเงินที่รับซื้อ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/15 มกราคม 2544--
-ยก-