แท็ก
ก๊าซธรรมชาติ
แผนงานที่ 5 แผนงานพัฒนากลไกการบริหารงานด้านพลังงาน
1. หลักการและเหตุผล
เนื่องจากกิจการไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ จะมีการปรับโครงสร้างและแปรรูป ให้มีการแข่งขันกันมากขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุน และผู้ใช้บริการ จึงจำเป็นต้องมีการจัดตั้งองค์กรกำกับดูแลอิสระ กิจการทางด้านพลังงาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ลงทุนและผู้ใช้บริการ รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทางด้านพลังงาน หลายฉบับในปัจจุบัน มีความล้าสมัย ไม่เหมาะสมต่อสภาพการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงให้เหมาะสม และสามารถบังคับใช้ได้อย่างจริงจัง
นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายและมาตรการด้านพลังงาน ในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่เปิดโอกาสให้ประชาชน เข้ามามีส่วนร่วม และรับรู้การกำหนดนโยบาย และมาตรการด้านพลังงานมากเท่าที่ควร โดยเฉพาะโครงการพัฒนาด้านพลังงาน มักจะมีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น และก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับกรอบนโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องจัดให้มีกลไกในการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของประชาชนให้มากขึ้น เพื่อให้นโยบายและมาตรการทางด้านพลังงาน สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน
2. วัตถุประสงค์
เพื่อให้การบริหารงานด้านพลังงานมีเอกภาพ มีประสิทธิภาพ และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุนเอกชน ในขณะเดียวกันก็ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ใช้บริการ รวมทั้ง ให้การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
3. กลยุทธ์
3.1 เร่งดำเนินการออกกฎระเบียบในการกำกับดูแลกิจการพลังงานและการจัดตั้งกลไกกำกับดูแล กิจการด้านพลังงานที่มีความเป็นอิสระ รวมทั้ง การออกกฎหมายรองรับการจัดตั้งองค์กรกำกับดูแลกิจการพลังงาน เพื่อสร้างความมั่นใจ
3.2 ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารและพัฒนาพลังงาน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต
3.3 สร้างกลไกการบริหารงานด้านพลังงานเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารนโยบาย โครงการพัฒนา หรือกิจกรรมใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
4. กิจกรรมระดับงาน
1. งานติดตามเร่งรัดการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2521
2. งานจัดตั้งองค์กรกำกับดูแลอิสระกิจการไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ
3. งานเสริมสร้างความเข้าใจและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนด้านพลังงาน
แผนงานที่ 6 แผนงานบริหารการพัฒนาพลังงาน
1. หลักการและเหตุผล
ด้วย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) มีภารกิจหลักตามบทบัญญัติแห่ง พระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. 2535 โดยปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสำนักเลขานุการ ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการเสนอแนะนโยบาย และมาตรการทางด้านพลังงานของประเทศ ต่อคณะรัฐมนตรี ตลอดจน ติดตาม ดูแล ประสาน สนับสนุน และเร่งรัดการดำเนินงานของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องด้านพลังงาน นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการ ของคณะกรรมการพิจารณานโยบายพลังงาน (กพง.) ซึ่งมีหน้าที่ช่วยกลั่นกรองงาน ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารและพัฒนาพลังงาน ก่อนนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
นอกจากภารกิจตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว สพช. ยังมีภารกิจหลักตามกฎหมายอื่นอีก 2 ฉบับ คือ พระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 และพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 โดยในส่วนของการปฏิบัติตามพระราชกำหนด ดังกล่าว สพช. มีหน้าที่โดยตรงในการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และในการกำหนดนโยบาย และมาตรการเกี่ยวกับราคาน้ำมัน และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานนั้น สพช. ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ของคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยทำหน้าที่บริหารงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานอย่างประหยัด และมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง เพื่อส่งเสริมด้านการศึกษา วิจัย และพัฒนาด้านการอนุรักษ์พลังงาน นอกจากนี้ ยังมีภารกิจในการบริหารงาน กองทุนเงินอุดหนุนจากสัญญาโรงกลั่นปิโตรเลียม ซึ่งได้รับจาก บริษัท เอสโซ่แสตนดาร์ดประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ตามสัญญาโรงกลั่นน้ำมันมาใช้ประโยชน์ในการส่งเสริม และสนับสนุนงานด้านพลังงานและปิโตรเลียม โดยมีระเบียบคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ว่าด้วยการบริหารกองทุนเงินอุดหนุน จากสัญญาโรงกลั่นปิโตรเลียม พ.ศ. 2535 เป็นกรอบในการบริหารงานกองทุนฯ
2. วัตถุประสงค์
เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. 2535 พระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 และพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535
3. กลยุทธ์
3.1 เสนอแนะนโยบาย และมาตรการทางด้านพลังงานของประเทศ ต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ รวมทั้ง ติดตาม ประสาน สนับสนุนและเร่งรัดการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบาย และแผนการบริหารและพัฒนาพลังงานของประเทศ
3.2 เสนอแนะนโยบายและมาตรการด้านราคาพลังงาน และกำกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราค่าไฟฟ้า รวมทั้ง การบริหารงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3.3 กำหนดแนวทางการพัฒนาพลังงาน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และทิศทางการพัฒนาพลังงานของประเทศ รวมทั้ง ให้มีการรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบาย และมาตรการทางด้านพลังงานของประเทศ
3.4 จัดเก็บข้อมูลพลังงาน วิเคราะห์ และประมาณการสถานการณ์พลังงาน เพื่อเป็นเครื่องมือในการกำหนดนโยบายพลังงานของประเทศ
3.5 จัดระบบข้อมูลข่าวสารของ สพช. เพื่อการเผยแพร่ และการให้บริการแก่ประชาชน เพื่อให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 รวมทั้ง จัดทำแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศของ สพช. เพื่อพัฒนางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2541
3.6 พิจารณาจัดระเบียบ วางแนวทาง และจัดสรรเงินกองทุนเงินอุดหนุนจากสัญญาโรงกลั่นปิโตรเลียม ในการส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านพลังงาน และปิโตรเลียมให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3.7 ส่งเสริมความร่วมมือกับต่างประเทศในกลุ่มเอเปค อาเซียน และกลุ่มความร่วมมืออื่นๆ เพื่อให้มีการเปิดเสรีทางด้านการค้าพลังงาน และการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการ เกี่ยวกับการพัฒนาพลังงานในสาขาต่างๆ
3.8 ให้มีการติดตาม และประเมินผลงาน ตามนโยบายและแผนงาน และมาตรการด้านพลังงานทุกรอบ 6 เดือน
4. กิจกรรมระดับงาน
งานประจำ
1. งานจัดประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
2. งานจัดประชุมคณะกรรมการพิจารณานโยบายพลังงาน
3. งานจัดประชุมคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน
4. งานพัฒนาระบบข้อมูลสถิติพลังงาน เพื่อการวางแผนและกำหนดนโยบาย
5. งานออกประกาศกำหนดราคา และอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
6. งานติดตามและประชาสัมพันธ์สถานการณ์ราคาน้ำมัน
7. งานบริหารกองทุนเงินอุดหนุนจากสัญญาโรงกลั่นปิโตรเลียม
8. งานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
9. งานความร่วมมือกับต่างประเทศด้านพลังงาน
10.งานติดตามและประเมินผล
11.โครงการพัฒนางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
--สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ--
1. หลักการและเหตุผล
เนื่องจากกิจการไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ จะมีการปรับโครงสร้างและแปรรูป ให้มีการแข่งขันกันมากขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุน และผู้ใช้บริการ จึงจำเป็นต้องมีการจัดตั้งองค์กรกำกับดูแลอิสระ กิจการทางด้านพลังงาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ลงทุนและผู้ใช้บริการ รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทางด้านพลังงาน หลายฉบับในปัจจุบัน มีความล้าสมัย ไม่เหมาะสมต่อสภาพการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงให้เหมาะสม และสามารถบังคับใช้ได้อย่างจริงจัง
นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายและมาตรการด้านพลังงาน ในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่เปิดโอกาสให้ประชาชน เข้ามามีส่วนร่วม และรับรู้การกำหนดนโยบาย และมาตรการด้านพลังงานมากเท่าที่ควร โดยเฉพาะโครงการพัฒนาด้านพลังงาน มักจะมีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น และก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับกรอบนโยบายการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องจัดให้มีกลไกในการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของประชาชนให้มากขึ้น เพื่อให้นโยบายและมาตรการทางด้านพลังงาน สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน
2. วัตถุประสงค์
เพื่อให้การบริหารงานด้านพลังงานมีเอกภาพ มีประสิทธิภาพ และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุนเอกชน ในขณะเดียวกันก็ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ใช้บริการ รวมทั้ง ให้การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
3. กลยุทธ์
3.1 เร่งดำเนินการออกกฎระเบียบในการกำกับดูแลกิจการพลังงานและการจัดตั้งกลไกกำกับดูแล กิจการด้านพลังงานที่มีความเป็นอิสระ รวมทั้ง การออกกฎหมายรองรับการจัดตั้งองค์กรกำกับดูแลกิจการพลังงาน เพื่อสร้างความมั่นใจ
3.2 ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารและพัฒนาพลังงาน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต
3.3 สร้างกลไกการบริหารงานด้านพลังงานเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารนโยบาย โครงการพัฒนา หรือกิจกรรมใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
4. กิจกรรมระดับงาน
1. งานติดตามเร่งรัดการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2521
2. งานจัดตั้งองค์กรกำกับดูแลอิสระกิจการไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ
3. งานเสริมสร้างความเข้าใจและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนด้านพลังงาน
แผนงานที่ 6 แผนงานบริหารการพัฒนาพลังงาน
1. หลักการและเหตุผล
ด้วย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) มีภารกิจหลักตามบทบัญญัติแห่ง พระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. 2535 โดยปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสำนักเลขานุการ ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการเสนอแนะนโยบาย และมาตรการทางด้านพลังงานของประเทศ ต่อคณะรัฐมนตรี ตลอดจน ติดตาม ดูแล ประสาน สนับสนุน และเร่งรัดการดำเนินงานของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องด้านพลังงาน นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการ ของคณะกรรมการพิจารณานโยบายพลังงาน (กพง.) ซึ่งมีหน้าที่ช่วยกลั่นกรองงาน ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารและพัฒนาพลังงาน ก่อนนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
นอกจากภารกิจตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว สพช. ยังมีภารกิจหลักตามกฎหมายอื่นอีก 2 ฉบับ คือ พระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 และพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 โดยในส่วนของการปฏิบัติตามพระราชกำหนด ดังกล่าว สพช. มีหน้าที่โดยตรงในการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และในการกำหนดนโยบาย และมาตรการเกี่ยวกับราคาน้ำมัน และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานนั้น สพช. ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ของคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยทำหน้าที่บริหารงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานอย่างประหยัด และมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง เพื่อส่งเสริมด้านการศึกษา วิจัย และพัฒนาด้านการอนุรักษ์พลังงาน นอกจากนี้ ยังมีภารกิจในการบริหารงาน กองทุนเงินอุดหนุนจากสัญญาโรงกลั่นปิโตรเลียม ซึ่งได้รับจาก บริษัท เอสโซ่แสตนดาร์ดประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ตามสัญญาโรงกลั่นน้ำมันมาใช้ประโยชน์ในการส่งเสริม และสนับสนุนงานด้านพลังงานและปิโตรเลียม โดยมีระเบียบคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ว่าด้วยการบริหารกองทุนเงินอุดหนุน จากสัญญาโรงกลั่นปิโตรเลียม พ.ศ. 2535 เป็นกรอบในการบริหารงานกองทุนฯ
2. วัตถุประสงค์
เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. 2535 พระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 และพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535
3. กลยุทธ์
3.1 เสนอแนะนโยบาย และมาตรการทางด้านพลังงานของประเทศ ต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ รวมทั้ง ติดตาม ประสาน สนับสนุนและเร่งรัดการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบาย และแผนการบริหารและพัฒนาพลังงานของประเทศ
3.2 เสนอแนะนโยบายและมาตรการด้านราคาพลังงาน และกำกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราค่าไฟฟ้า รวมทั้ง การบริหารงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3.3 กำหนดแนวทางการพัฒนาพลังงาน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และทิศทางการพัฒนาพลังงานของประเทศ รวมทั้ง ให้มีการรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบาย และมาตรการทางด้านพลังงานของประเทศ
3.4 จัดเก็บข้อมูลพลังงาน วิเคราะห์ และประมาณการสถานการณ์พลังงาน เพื่อเป็นเครื่องมือในการกำหนดนโยบายพลังงานของประเทศ
3.5 จัดระบบข้อมูลข่าวสารของ สพช. เพื่อการเผยแพร่ และการให้บริการแก่ประชาชน เพื่อให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 รวมทั้ง จัดทำแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศของ สพช. เพื่อพัฒนางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2541
3.6 พิจารณาจัดระเบียบ วางแนวทาง และจัดสรรเงินกองทุนเงินอุดหนุนจากสัญญาโรงกลั่นปิโตรเลียม ในการส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านพลังงาน และปิโตรเลียมให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3.7 ส่งเสริมความร่วมมือกับต่างประเทศในกลุ่มเอเปค อาเซียน และกลุ่มความร่วมมืออื่นๆ เพื่อให้มีการเปิดเสรีทางด้านการค้าพลังงาน และการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการ เกี่ยวกับการพัฒนาพลังงานในสาขาต่างๆ
3.8 ให้มีการติดตาม และประเมินผลงาน ตามนโยบายและแผนงาน และมาตรการด้านพลังงานทุกรอบ 6 เดือน
4. กิจกรรมระดับงาน
งานประจำ
1. งานจัดประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
2. งานจัดประชุมคณะกรรมการพิจารณานโยบายพลังงาน
3. งานจัดประชุมคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน
4. งานพัฒนาระบบข้อมูลสถิติพลังงาน เพื่อการวางแผนและกำหนดนโยบาย
5. งานออกประกาศกำหนดราคา และอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
6. งานติดตามและประชาสัมพันธ์สถานการณ์ราคาน้ำมัน
7. งานบริหารกองทุนเงินอุดหนุนจากสัญญาโรงกลั่นปิโตรเลียม
8. งานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
9. งานความร่วมมือกับต่างประเทศด้านพลังงาน
10.งานติดตามและประเมินผล
11.โครงการพัฒนางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
--สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ--