กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ ขอประกาศให้ทราบเกี่ยวกับการขยายผลบังคับใช้ความ ตกลง Schengen ตามที่ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์กและสถานเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ ประจำประเทศไทย รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม ดังนี้
1.ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2544 เป็นต้นไป ความตกลง Schengen ซึ่งใช้กับประเทศในสหภาพยุโรป จะมีผลบังคับใช้ในประเทศกลุ่มนอร์ดิกด้วย ได้แก่ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน ซึ่งจะมีผลให้ไม่มีการตรวจหนังสือเดินทาง (Passport Control) ในการเดินทางระหว่างประเทศดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บุคคลที่เดินทางระหว่างประเทศดังกล่าวควรนำหนังสือเดินทางติดตัวไว้เสมอ
2.สถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์กและสถานเอกอัครราชทูตของประเทศภาคีความตกลง Schengen ต่างๆ จะทำหน้าที่ตรวจลงตรา ซึ่งใช้ได้กับประเทศต่างๆ ที่อยู่ภายใต้พันธกรณีตามความตกลงดังกล่าว ยกเว้นคนต่างด้าวที่ระบบข้อมูล Schengen ระบุว่าเป็นผู้ควรได้รับการปฏิเสธการตรวจลงตรา
3.สถานกงสุลและสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ของเดนมาร์ก จะไม่มีอำนาจตรวจลงตรา อีกต่อไป
4.ผู้ที่ถือเอกสารและสติกเกอร์ที่ออกโดยทางการเดนมาร์ก สามารถใช้เอกสารหรือ สติกเกอร์นี้เดินทางเข้าประเทศสมาชิกความตกลง Schengen อื่นๆ โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตรา ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและอายุของเอกสารหรือสติกเกอร์ดังกล่าว
การมีผลบังคับใช้ระบบการตรวจลงตราตามเอกสารความตกลง Schengen ดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันมีขอบเขตการบังคับใช้กับประเทศภาคีจากเดิม 7 ประเทศ เพิ่มเป็น 15 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยี่ยม เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน กรีซ ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบอร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปรตุเกส สเปน และสวีเดน
การลงนามความร่วมมือว่าด้วยการตรวจลงตราที่เมือง Schengen ประเทศลักเซมเบอร์ก เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2538 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การเดินทางเข้าดินแดนของประเทศภาคีตามความตกลงดังกล่าวเป็นไปอย่างเสรี โดยในหลักการไม่ต้องมีการตรวจเอกสารการเดินทาง เพื่อให้เกิดบรรทัดฐาน ในการปฏิบัติตามความตกลงดังกล่าว ประเทศภาคีจะใช้ระเบียบการตรวจลงตราเดียวกัน และแลกเปลี่ยน ข้อมูลด้านต่างๆ อาทิ การปลอมแปลงเอกสาร เครือข่ายการหลบหนีเข้าเมืองและปฏิเสธคำร้องขอรับ การตรวจลงตราที่ไม่สุจริต เป็นต้น ความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้ทราบว่ามีบุคคลใดบ้างที่ถูกปฏิเสธ การตรวจลงตราจากประเทศภาคี
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
กระทรวงการต่างประเทศ ขอประกาศให้ทราบเกี่ยวกับการขยายผลบังคับใช้ความ ตกลง Schengen ตามที่ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์กและสถานเอกอัครราชทูตนอร์เวย์ ประจำประเทศไทย รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม ดังนี้
1.ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2544 เป็นต้นไป ความตกลง Schengen ซึ่งใช้กับประเทศในสหภาพยุโรป จะมีผลบังคับใช้ในประเทศกลุ่มนอร์ดิกด้วย ได้แก่ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน ซึ่งจะมีผลให้ไม่มีการตรวจหนังสือเดินทาง (Passport Control) ในการเดินทางระหว่างประเทศดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บุคคลที่เดินทางระหว่างประเทศดังกล่าวควรนำหนังสือเดินทางติดตัวไว้เสมอ
2.สถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์กและสถานเอกอัครราชทูตของประเทศภาคีความตกลง Schengen ต่างๆ จะทำหน้าที่ตรวจลงตรา ซึ่งใช้ได้กับประเทศต่างๆ ที่อยู่ภายใต้พันธกรณีตามความตกลงดังกล่าว ยกเว้นคนต่างด้าวที่ระบบข้อมูล Schengen ระบุว่าเป็นผู้ควรได้รับการปฏิเสธการตรวจลงตรา
3.สถานกงสุลและสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ของเดนมาร์ก จะไม่มีอำนาจตรวจลงตรา อีกต่อไป
4.ผู้ที่ถือเอกสารและสติกเกอร์ที่ออกโดยทางการเดนมาร์ก สามารถใช้เอกสารหรือ สติกเกอร์นี้เดินทางเข้าประเทศสมาชิกความตกลง Schengen อื่นๆ โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตรา ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและอายุของเอกสารหรือสติกเกอร์ดังกล่าว
การมีผลบังคับใช้ระบบการตรวจลงตราตามเอกสารความตกลง Schengen ดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันมีขอบเขตการบังคับใช้กับประเทศภาคีจากเดิม 7 ประเทศ เพิ่มเป็น 15 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยี่ยม เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน กรีซ ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบอร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปรตุเกส สเปน และสวีเดน
การลงนามความร่วมมือว่าด้วยการตรวจลงตราที่เมือง Schengen ประเทศลักเซมเบอร์ก เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2538 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การเดินทางเข้าดินแดนของประเทศภาคีตามความตกลงดังกล่าวเป็นไปอย่างเสรี โดยในหลักการไม่ต้องมีการตรวจเอกสารการเดินทาง เพื่อให้เกิดบรรทัดฐาน ในการปฏิบัติตามความตกลงดังกล่าว ประเทศภาคีจะใช้ระเบียบการตรวจลงตราเดียวกัน และแลกเปลี่ยน ข้อมูลด้านต่างๆ อาทิ การปลอมแปลงเอกสาร เครือข่ายการหลบหนีเข้าเมืองและปฏิเสธคำร้องขอรับ การตรวจลงตราที่ไม่สุจริต เป็นต้น ความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้ทราบว่ามีบุคคลใดบ้างที่ถูกปฏิเสธ การตรวจลงตราจากประเทศภาคี
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-