ข่าวในประเทศ
1. ธปท. ติดตามสถานการณ์ดอกเบี้ยอย่างใกล้ชิดภายหลัง ธ.กลาง สรอ. ลดอัตราดอกเบี้ย ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่ ธ.กลาง สรอ. (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกร้อยละ 0.5 ว่า ขณะนี้ ธปท. ได้ติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลต่ออัตราดอกเบี้ยไลบอร์เพื่อกำหนดท่าทีดอกเบี้ยของไทยในระยะต่อไป นอกจากนี้ ธปท. ยังได้กำชับให้ผู้บริหาร ธพ. ของรัฐทั้ง 4 แห่งเตรียมรับสถานการณ์หากมีภาวะสงคราม และให้ปล่อยสินเชื่อตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศไม่ให้ชะลอตัวลงมากกว่านี้ ด้าน รองผู้ว่าการ (เสถียรภาพการเงิน) ธปท. กล่าวว่า การลดอัตราดอกเบี้ยของ ธ.กลาง สรอ. เป็นเรื่องจำเป็นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย สรอ. ต้องคลี่คลายและลดความตื่นตระหนกในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าจะไม่ส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนมากนัก เพราะอัตราการผลิตส่วนเกินใน สรอ. ยังมีมาก ส่วนที่จะมีผลต่ออัตราดอกเบี้ยไทยคือ ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยในและต่างประเทศแคบลง (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการ, โลกวันนี้, ไทยโพสต์ 19)
2. ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการประกอบการของเอสเอ็มอี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการประกอบการของผู้ประกอบการรายย่อย (เอสเอ็มอี) ทุกประเภท โดยการใช้ มาตรการทางภาษี และการสนับสนุนสินเชื่อผ่านบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม (บอย.) สำหรับ มาตรการทางภาษีได้แก่ การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับผู้ประกอบการที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่เกิน 5 ล.บาท โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ กำไรไม่เกิน 1 ล.บาท เสียภาษีร้อยละ 20, กำไร 1 ล.บาทแต่ไม่เกิน 3 ล.บาท เสียภาษีร้อยละ 25 และกำไรเกินกว่า 3 ล.บาท เสียภาษีร้อยละ 30 ซึ่งมาตรการนี้ครอบคลุมผู้ประกอบการถึงร้อยละ 85 ของผู้ประกอบการที่ยื่นแบบเสียภาษีในปัจจุบัน ในส่วนของการสนับสนุนสินเชื่อ บอย. จะให้การสนับสนุนระยะแรกแก่เอสเอ็มอีจำนวน 6,000 ล.บาท แก่กลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจส่งออก 3,000 ล.บาท การค้าปลีกและค้าส่ง 2,000 ล.บาท และวิสาหกิจชุมชน 1,000 ล.บาท (เดลินิวส์, โลกวันนี้ 19)
3. กรมสรรพากรเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้เข้าระบบภาษีเสียภาษีให้ถูกต้อง อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมฯ มีนโยบายบริหารการจัดเก็บภาษีให้ได้ตามเป้าหมายใหม่ โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้เข้าระบบภาษี หรืออยู่ในระบบภาษีแล้วแต่เสียภาษีไม่ถูกต้อง รวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ระบบการเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะไม่ถือเอาการเข้าสู่ระบบดังกล่าวเป็นเหตุในการตรวจสอบภาษีย้อนหลัง ซึ่งอาจทำให้กรมฯ สูญเสียรายได้บางส่วนที่เกิดขึ้นในอดีต แต่จะทำให้ฐานภาษีในอนาคตเพิ่มขึ้นและมีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง (โลกวันนี้ 19)
ข่าวต่างประเทศ
1. ธ. กลางญี่ปุ่นปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงเหลือร้อยละ 0.10 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 18 ก.ย.44 ธ. กลางญี่ปุ่นได้ผ่อนคลายนโยบายการเงินโดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (Discount rate) ลงเหลือร้อยละ 0.10 จากเดิมร้อยละ 0.25 เพื่อป้องกันการถดถอยของเศรษฐกิจและเพื่อความมีเสถียรภาพของตลาดเงิน ที่เป็นผลกระทบจากก่อวินาศกรรมใน สรอ. นอกจากนี้ยังเพิ่มการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบธนาคาร โดยเพิ่มระดับทุนสำรองของ ธพ.ที่ฝากไว้กับ ธ.กลาง เป็น 8 ล้านล้านเยน หรือมากกว่า จากระดับปัจจุบันที่กำหนดไว้ที่ 6 ล้านล้านเยน ซึ่งผู้ว่าการ ธ.กลางญี่ปุ่น (Masaru Hayami) กล่าวว่า ธ. กลางจะรักษาระดับเงินฝากฯไว้ที่ระดับดังกล่าวในระยะสั้นเป็นอย่างน้อย (รอยเตอร์ 18)
2. ธ.กลางอังกฤษประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 รายงานจากลอนดอน เมื่อ 18 ก.ย.44 ธ.กลางอังกฤษรายงานว่า วันที่ 18 ก.ย.44 ธ.กลางอังกฤษได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ( benchmark repurchase rate) ลงร้อยละ 0.25 มาอยู่ที่ร้อยละ4.75 นับเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าร้อยละ 5.0 ครั้งล่าสุดนับตั้งแต่ปี 2507 การประกาศตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นการลดอัตราดอกเบี้ยตามธนาคารกลางชั้นนำทั่วโลก ได้แก่ ธ.กลาง สรอ. ธ. กลางยุโรป และธ. กลางญี่ปุ่นซึ่งประกาศลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์หลังจากการเกิดวินาศกรรมใน สรอ. นอกจากนั้น การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ต่าง ๆ จะส่งผลกระทบต่อความความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและเศรษฐกิจของประเทศ (รอยเตอร์ 18)
3. ดัชนีราคาผู้บริโภคของ สรอ. เพิ่มขึ้นในเดือน ส.ค. 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 18 ก.ย. 44 ก.แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)โดยรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ในเดือน ส.ค. 44 เทียบกับที่ลดลงร้อยละ 0.3ในเดือน ก.ค. 44 และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ขณะเดียวกัน เมื่อไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานในเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 สอดคล้องกับที่คาดหมายไว้ หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เช่นกันในเดือน ก.ค. การที่ CPI ในเดือนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากราคาพลังงานลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยลดลงร้อยละ 1.9 หลังจากลดลงร้อยละ 5.6 ในเดือน ก.ค. รายงานครั้งนี้ชี้ถึงเงินเฟ้อของ สรอ. ที่ชะลอตัว และเปิดโอกาสให้ ธ. กลางลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อพยุงเศรษฐกิจที่กำลังอ่อนแอและรักษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคไม่ให้โน้มต่ำลง (รอยเตอร์18)
4. ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหลังปรับตัวเลขลดลงอยู่ที่ระดับ55.6 ในเดือน ก.ค. 44 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 18 ก.ย. 44 รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ หลังปรับตัวเลข ลดลงที่ระดับ 55.6 ในเดือน ก.ค. 44 จากตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 71.4 อย่างไรก็ตาม ดัชนีดังกล่าว นับว่าอยู่เหนือระดับ50 เป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในเดือนต่อไป (รอยเตอร์18)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 18 ก.ย. 44 44.188 (44.029)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 18 ก.ย. 44ซื้อ 43.9777 (43.8121) ขาย 44.2672 (44.1223)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 6,000 (5,950) ขาย 6,100 (6,050)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 24.97 (25.52)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.89 (16.59) ดีเซลหมุนเร็ว 14.54 (14.24)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท. ติดตามสถานการณ์ดอกเบี้ยอย่างใกล้ชิดภายหลัง ธ.กลาง สรอ. ลดอัตราดอกเบี้ย ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่ ธ.กลาง สรอ. (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกร้อยละ 0.5 ว่า ขณะนี้ ธปท. ได้ติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลต่ออัตราดอกเบี้ยไลบอร์เพื่อกำหนดท่าทีดอกเบี้ยของไทยในระยะต่อไป นอกจากนี้ ธปท. ยังได้กำชับให้ผู้บริหาร ธพ. ของรัฐทั้ง 4 แห่งเตรียมรับสถานการณ์หากมีภาวะสงคราม และให้ปล่อยสินเชื่อตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศไม่ให้ชะลอตัวลงมากกว่านี้ ด้าน รองผู้ว่าการ (เสถียรภาพการเงิน) ธปท. กล่าวว่า การลดอัตราดอกเบี้ยของ ธ.กลาง สรอ. เป็นเรื่องจำเป็นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย สรอ. ต้องคลี่คลายและลดความตื่นตระหนกในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าจะไม่ส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนมากนัก เพราะอัตราการผลิตส่วนเกินใน สรอ. ยังมีมาก ส่วนที่จะมีผลต่ออัตราดอกเบี้ยไทยคือ ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยในและต่างประเทศแคบลง (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการ, โลกวันนี้, ไทยโพสต์ 19)
2. ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการประกอบการของเอสเอ็มอี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการประกอบการของผู้ประกอบการรายย่อย (เอสเอ็มอี) ทุกประเภท โดยการใช้ มาตรการทางภาษี และการสนับสนุนสินเชื่อผ่านบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม (บอย.) สำหรับ มาตรการทางภาษีได้แก่ การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับผู้ประกอบการที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่เกิน 5 ล.บาท โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ กำไรไม่เกิน 1 ล.บาท เสียภาษีร้อยละ 20, กำไร 1 ล.บาทแต่ไม่เกิน 3 ล.บาท เสียภาษีร้อยละ 25 และกำไรเกินกว่า 3 ล.บาท เสียภาษีร้อยละ 30 ซึ่งมาตรการนี้ครอบคลุมผู้ประกอบการถึงร้อยละ 85 ของผู้ประกอบการที่ยื่นแบบเสียภาษีในปัจจุบัน ในส่วนของการสนับสนุนสินเชื่อ บอย. จะให้การสนับสนุนระยะแรกแก่เอสเอ็มอีจำนวน 6,000 ล.บาท แก่กลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจส่งออก 3,000 ล.บาท การค้าปลีกและค้าส่ง 2,000 ล.บาท และวิสาหกิจชุมชน 1,000 ล.บาท (เดลินิวส์, โลกวันนี้ 19)
3. กรมสรรพากรเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้เข้าระบบภาษีเสียภาษีให้ถูกต้อง อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมฯ มีนโยบายบริหารการจัดเก็บภาษีให้ได้ตามเป้าหมายใหม่ โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้เข้าระบบภาษี หรืออยู่ในระบบภาษีแล้วแต่เสียภาษีไม่ถูกต้อง รวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ระบบการเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยจะไม่ถือเอาการเข้าสู่ระบบดังกล่าวเป็นเหตุในการตรวจสอบภาษีย้อนหลัง ซึ่งอาจทำให้กรมฯ สูญเสียรายได้บางส่วนที่เกิดขึ้นในอดีต แต่จะทำให้ฐานภาษีในอนาคตเพิ่มขึ้นและมีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง (โลกวันนี้ 19)
ข่าวต่างประเทศ
1. ธ. กลางญี่ปุ่นปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงเหลือร้อยละ 0.10 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 18 ก.ย.44 ธ. กลางญี่ปุ่นได้ผ่อนคลายนโยบายการเงินโดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (Discount rate) ลงเหลือร้อยละ 0.10 จากเดิมร้อยละ 0.25 เพื่อป้องกันการถดถอยของเศรษฐกิจและเพื่อความมีเสถียรภาพของตลาดเงิน ที่เป็นผลกระทบจากก่อวินาศกรรมใน สรอ. นอกจากนี้ยังเพิ่มการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบธนาคาร โดยเพิ่มระดับทุนสำรองของ ธพ.ที่ฝากไว้กับ ธ.กลาง เป็น 8 ล้านล้านเยน หรือมากกว่า จากระดับปัจจุบันที่กำหนดไว้ที่ 6 ล้านล้านเยน ซึ่งผู้ว่าการ ธ.กลางญี่ปุ่น (Masaru Hayami) กล่าวว่า ธ. กลางจะรักษาระดับเงินฝากฯไว้ที่ระดับดังกล่าวในระยะสั้นเป็นอย่างน้อย (รอยเตอร์ 18)
2. ธ.กลางอังกฤษประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 รายงานจากลอนดอน เมื่อ 18 ก.ย.44 ธ.กลางอังกฤษรายงานว่า วันที่ 18 ก.ย.44 ธ.กลางอังกฤษได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ( benchmark repurchase rate) ลงร้อยละ 0.25 มาอยู่ที่ร้อยละ4.75 นับเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าร้อยละ 5.0 ครั้งล่าสุดนับตั้งแต่ปี 2507 การประกาศตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นการลดอัตราดอกเบี้ยตามธนาคารกลางชั้นนำทั่วโลก ได้แก่ ธ.กลาง สรอ. ธ. กลางยุโรป และธ. กลางญี่ปุ่นซึ่งประกาศลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์หลังจากการเกิดวินาศกรรมใน สรอ. นอกจากนั้น การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ต่าง ๆ จะส่งผลกระทบต่อความความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและเศรษฐกิจของประเทศ (รอยเตอร์ 18)
3. ดัชนีราคาผู้บริโภคของ สรอ. เพิ่มขึ้นในเดือน ส.ค. 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 18 ก.ย. 44 ก.แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)โดยรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ในเดือน ส.ค. 44 เทียบกับที่ลดลงร้อยละ 0.3ในเดือน ก.ค. 44 และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ขณะเดียวกัน เมื่อไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานในเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 สอดคล้องกับที่คาดหมายไว้ หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เช่นกันในเดือน ก.ค. การที่ CPI ในเดือนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากราคาพลังงานลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยลดลงร้อยละ 1.9 หลังจากลดลงร้อยละ 5.6 ในเดือน ก.ค. รายงานครั้งนี้ชี้ถึงเงินเฟ้อของ สรอ. ที่ชะลอตัว และเปิดโอกาสให้ ธ. กลางลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพื่อพยุงเศรษฐกิจที่กำลังอ่อนแอและรักษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคไม่ให้โน้มต่ำลง (รอยเตอร์18)
4. ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหลังปรับตัวเลขลดลงอยู่ที่ระดับ55.6 ในเดือน ก.ค. 44 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 18 ก.ย. 44 รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ หลังปรับตัวเลข ลดลงที่ระดับ 55.6 ในเดือน ก.ค. 44 จากตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 71.4 อย่างไรก็ตาม ดัชนีดังกล่าว นับว่าอยู่เหนือระดับ50 เป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในเดือนต่อไป (รอยเตอร์18)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 18 ก.ย. 44 44.188 (44.029)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 18 ก.ย. 44ซื้อ 43.9777 (43.8121) ขาย 44.2672 (44.1223)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 6,000 (5,950) ขาย 6,100 (6,050)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 24.97 (25.52)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.89 (16.59) ดีเซลหมุนเร็ว 14.54 (14.24)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-