กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (8 มีนาคม) นายดอน ปรมัตถ์วินัย อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับความคืบหน้าผลการเดินทางของคณะเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางในการตรวจพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ที่กำลังมีปัญหากรณีฝ่ายกัมพูชาได้ปรับถมตลิ่งตามแนวคลองลึกบริเวณตลาดปอยเปต เพื่อก่อสร้างคาสิโน สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2543 คณะเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง นำโดยนายวีรพันธุ์ วัชราทิตย์ รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ส่วนภูมิภาคที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อแก้ไขปัญหากรณีฝ่ายกัมพูชาได้ปรับถมตลิ่งตามแนวคลองลึกบริเวณตลาดปอยเปต เพื่อก่อสร้างคาสิโน ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า การแก้ปัญหาการปรับถมตลิ่งบริเวณดังกล่าวจะต้องดำเนินการโดยด่วน เนื่องจากหากดำเนินการล่าช้าไปกว่าเดือนพฤษภาคม 2543 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฝนตกมาก จะก่อให้เกิดความเสียหายมากขึ้นและน้ำฝนจะชะดินที่ผู้ประกอบการได้ถมไว้ให้ตกลงมาในคลองลึก ประกอบกับกระแสน้ำที่ไหลบ่าจะกัดเซาะตลิ่งฝั่งไทยให้พังทะลาย มีผลให้แนวตลิ่งเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่สามารถพิสูจน์แนวตลิ่งเดิมได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้กล่าวว่า ได้พยายามดำเนินการแก้ไขปัญหา ดังกล่าวในระดับท้องถิ่น โดยเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้เชิญรองผู้ว่าราชการจังหวัด บันเตียเมียนเจยไปร่วมหารือ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ผู้รับเหมาก่อสร้างยังคงปรับถมพื้นที่ต่อไป ทำให้ พื้นที่ที่ปรับถมนั้นสูงขึ้นกว่าระดับความสูงเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2543
ผู้รับเหมาก่อสร้างคาสิโนแจ้งว่า ได้มีมาตรการป้องกันโดยจะจัดสร้างแนวป้องกันตลิ่งคอนกรีตตลอดแนวคลองลึก ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของไทยเห็นว่า มาตรการดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่จะเป็นการบังคับให้น้ำที่ไหลบ่ามากัดเซาะตลิ่งฝั่งไทยมากขึ้น ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นพ้องดังนี้
1. ให้จังหวัดสระแก้วติดต่อจังหวัดบันเตียเมียนเจย เพื่อให้ฝ่ายกัมพูชายุติการ ก่อสร้างใด ๆ ในบริเวณที่อาจมีผลทำให้เส้นเขตแดนด้านคลองลึกและห้วยพรมโหดเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าปัจจุบัน
2. เสนอให้ทั้งสองฝ่ายจัดตั้งคณะเจ้าหน้าที่เทคนิคร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อสอบหาแนวตลิ่งเดิม
3. เห็นชอบให้มีการก่อสร้างศาลาชมภูมิประเทศฝั่งไทยและทางเดินยกระดับตามแนวตลิ่งฝั่งไทย ซึ่งจะช่วยกำหนดแนวตลิ่งได้ชัดเจนในอนาคต โดยจะขอความร่วมมือจากกรม แผนที่ทหารในการกำหนดแนวตลิ่งและจากกองกำลังบูรพาในการกู้และกำจัดกับระเบิด
4. ขอให้อำเภออรัญประเทศเตรียมแผนการรับน้ำท่วมในปีนี้ ซึ่งสืบเนื่องจากการปรับถมตลิ่งฝั่งกัมพูชาอันอาจทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมฝั่งไทยในหน้าน้ำได้--จบ--
วันนี้ (8 มีนาคม) นายดอน ปรมัตถ์วินัย อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับความคืบหน้าผลการเดินทางของคณะเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางในการตรวจพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ที่กำลังมีปัญหากรณีฝ่ายกัมพูชาได้ปรับถมตลิ่งตามแนวคลองลึกบริเวณตลาดปอยเปต เพื่อก่อสร้างคาสิโน สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2543 คณะเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง นำโดยนายวีรพันธุ์ วัชราทิตย์ รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ส่วนภูมิภาคที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อแก้ไขปัญหากรณีฝ่ายกัมพูชาได้ปรับถมตลิ่งตามแนวคลองลึกบริเวณตลาดปอยเปต เพื่อก่อสร้างคาสิโน ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า การแก้ปัญหาการปรับถมตลิ่งบริเวณดังกล่าวจะต้องดำเนินการโดยด่วน เนื่องจากหากดำเนินการล่าช้าไปกว่าเดือนพฤษภาคม 2543 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฝนตกมาก จะก่อให้เกิดความเสียหายมากขึ้นและน้ำฝนจะชะดินที่ผู้ประกอบการได้ถมไว้ให้ตกลงมาในคลองลึก ประกอบกับกระแสน้ำที่ไหลบ่าจะกัดเซาะตลิ่งฝั่งไทยให้พังทะลาย มีผลให้แนวตลิ่งเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่สามารถพิสูจน์แนวตลิ่งเดิมได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้กล่าวว่า ได้พยายามดำเนินการแก้ไขปัญหา ดังกล่าวในระดับท้องถิ่น โดยเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้เชิญรองผู้ว่าราชการจังหวัด บันเตียเมียนเจยไปร่วมหารือ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ผู้รับเหมาก่อสร้างยังคงปรับถมพื้นที่ต่อไป ทำให้ พื้นที่ที่ปรับถมนั้นสูงขึ้นกว่าระดับความสูงเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2543
ผู้รับเหมาก่อสร้างคาสิโนแจ้งว่า ได้มีมาตรการป้องกันโดยจะจัดสร้างแนวป้องกันตลิ่งคอนกรีตตลอดแนวคลองลึก ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของไทยเห็นว่า มาตรการดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่จะเป็นการบังคับให้น้ำที่ไหลบ่ามากัดเซาะตลิ่งฝั่งไทยมากขึ้น ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นพ้องดังนี้
1. ให้จังหวัดสระแก้วติดต่อจังหวัดบันเตียเมียนเจย เพื่อให้ฝ่ายกัมพูชายุติการ ก่อสร้างใด ๆ ในบริเวณที่อาจมีผลทำให้เส้นเขตแดนด้านคลองลึกและห้วยพรมโหดเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าปัจจุบัน
2. เสนอให้ทั้งสองฝ่ายจัดตั้งคณะเจ้าหน้าที่เทคนิคร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อสอบหาแนวตลิ่งเดิม
3. เห็นชอบให้มีการก่อสร้างศาลาชมภูมิประเทศฝั่งไทยและทางเดินยกระดับตามแนวตลิ่งฝั่งไทย ซึ่งจะช่วยกำหนดแนวตลิ่งได้ชัดเจนในอนาคต โดยจะขอความร่วมมือจากกรม แผนที่ทหารในการกำหนดแนวตลิ่งและจากกองกำลังบูรพาในการกู้และกำจัดกับระเบิด
4. ขอให้อำเภออรัญประเทศเตรียมแผนการรับน้ำท่วมในปีนี้ ซึ่งสืบเนื่องจากการปรับถมตลิ่งฝั่งกัมพูชาอันอาจทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมฝั่งไทยในหน้าน้ำได้--จบ--