ธสน.มั่นใจ ธปท. ยกเลิกวงเงินแพ็คกิ้งเครดิตไม่กระทบผู้ส่งออก

หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เปิดเผยว่าปัจจุบันยอดการใช้วงเงินของบริการแพ็คกิ้งเครดิตผ่านธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินอื่นลดลงมาก ณ สิ้นเดือนกันยายน 2543 ยอดการใช้วงเงินมีเพียง 3,461.4 ล้านบาท เทียบกับ 6,037.2 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ยอดสูงสุดของการใช้วงเงินแพ็คกิ้งเครดิตในเดือนพฤษภาคม 2541 เคยสูงถึง 28,503.8 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากธนาคารพาณิชย์มีสภาพคล่องสูง จึงใช้เงินของตนเองในการให้สินเชื่อแก่ผู้ส่งออกโดยไม่ต้องอาศัยวงเงินแพ็คกิ้งเครดิตที่ได้รับเงินสมทบจากธนาคารแห่งประเทศไทยครึ่งหนึ่ง ดังนั้นแม้ในปี 2545 ธนาคารแห่งประเทศไทยจะยกเลิกบริการแพ็คกิ้งเครดิตตามเงื่อนไขขององค์การการค้าโลก (WTO) ที่ห้ามทางการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ภาคเศรษฐกิจสำคัญโดยเฉพาะภาคการส่งออกก็จะไม่มีผลกระทบต่อผู้ส่งออกเนื่องจากธนาคารพาณิชย์มีวงเงินดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ส่งออกเพียงพออยู่แล้ว
สำหรับผู้ส่งออกที่ใช้วงเงินแพ็คกิ้งเครดิตแบบกู้ตรงกับ ธสน. อยู่นั้น กรรมการผู้จัดการ ธสน.ให้ความมั่นใจว่า เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยยกเลิกการให้วงเงินสมทบครึ่งหนึ่งแก่ ธสน. แล้ว ผู้ส่งออกจะยังได้รับวงเงินเช่นที่เคยได้ตามเดิมทุกประการ เพียงแต่เป็นการโอนไปใช้บริการสินเชื่อเพื่อเตรียมการส่งออก โดยผู้ส่งออกสามารถเลือกกู้ได้ทั้งที่เป็นสกุลเงินบาท ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเยน โดยธสน. จะพยายามหาแหล่งเงินทุนอันตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้ผู้ส่งออกได้ใช้วงเงินในอันตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้ผู้ส่งออกได้ใช้วงเงินในอัตราดอกเบี้ยที่ไม่แตกต่างจากเดิมที่ใช้บริการแพ็คกิ้งเครดิตแบบกู้ตรงมากนัก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับอัตรดอกเบี้ยในตลาดการเงินในขณะนั้นด้วย--จบ--
--Exim News ปีที่ 6 ฉบับที่ 10 ประจำเดือนตุลาคม 2543--
-อน-