1.สถานการณ์สินค้า
1.1 สินค้าที่มีปัญหา
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่มีปัญหา
1.2 สินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
ถั่วเหลือง : หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับผู้นำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองรายใหม่
สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น ครั้งที่ 3/2542 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2542 อนุมัติในหลักการให้ 3 สมาคม คือ สมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อเพื่อการส่งออก สมาคมปศุสัตว์ไทย และสมาคมส่งเสริมผู้ใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ เป็นผู้นำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองเพิ่มเติม โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข คือ เป็นสมาชิกสมาคมที่ได้รับอนุมัติ มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ใบอนุญาตผลิตอาหารสัตว์และหนังสือรับรองการจดทะเบียน และในคราวประชุมคณะกรรมการนโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น ครั้งที่ 1/2543 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2543 ได้อนุมัติให้ 3 สมาคมดังกล่าวเป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองเพิ่มเติมโดยกำหนดให้ สมาคมผู้นำเข้าจะต้องทำสัญญารับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองที่ผลิตภายในประเทศทั้งหมด ต่อกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจะต้องรับซื้อในราคาเป้าหมายไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 10.00 บาท ณ ไร่นา หรือไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 11.00 บาท ณ .โรงงานอาหารสัตว์ตลาดกรุงเทพฯ ซึ่งจะอำนวยประโยชน์ต่อเกษตรกรให้ขายผลผลิตของตนเองได้ในราคายุติธรรม และได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประชาสัมพันธ์ให้สหกรณ์ทราบถึงมาตรการดังกล่าว และประสานงานกับผู้นำเข้าให้ออกไปรับซื้อ ณ แหล่งผลิตของสมาชิกสหกรณ์โดยตรง และขอให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบแหล่งจำหน่ายเมล็ดถั่วเหลืองที่ตลาดทรงวาดว่ารับซื้อมาจากแหล่งใด เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้นำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้ามาใช้ผิดวัตถุประสงค์
กาแฟ : อคส.จำหน่ายเมล็ดกาแฟที่รับจำนำ
ตามที่คณะกรรมการ คชก. ได้มีมติให้ดำเนินการแทรกแซงตลาดเมล็ดกาแฟฤดูการผลิตปี 2542/43 โดยให้ อคส. และ ธกส. รับจำนำเมล็ดกาแฟ ปริมาณ 20,000 ตันในราคากิโลกรัมละ 32.30 บาท ระหว่างมกราคม-10 เมษายน 2543 และในส่วนของเมล็ดกาแฟที่คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน ให้ดำเนินการช่วยเหลือตามโครงการรับซื้อเมล็ดกาแฟในโครงการปรับปรุงคุณภาพเพื่อส่งออก โดยช่วยเหลือให้เกษตรกรจำหน่ายเมล็ดกาแฟได้กิโลกรัมละ 25 บาท ระยะเวลาดำเนินการระหว่าง 23 มีนาคม -18 เมษายน 2543 นั้น ผลการดำเนินการมีดังนี้
1. ปริมาณเมล็ดกาแฟที่รับจำนำไว้ทั้งสิ้น 16,985 ตัน เพื่อให้มีการระบายเมล็ดกาแฟที่รับจำนำไว้ออกสู่ตลาดต่างประเทศในเวลาที่เหมาะสม คณะทำงานจำหน่ายเมล็ดกาแฟ ได้พิจารณาเห็นชอบให้จำหน่ายเมล็ดกาแฟให้แก่สมาชิกสมาคมผู้ส่งออกกาแฟ จำนวน 8,000 ตัน ตามสภาพ ณ คลังสินค้าที่ อคส. ฝากเก็บ โดยใช้ราคาล่วงหน้าตลาดลอนดอนเฉลี่ยย้อนหลัง 5 วัน วันที่ 12-20 เมษายน 2543 ได้ราคาเฉลี่ยตันละ 939.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน (อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 37.754 บาท/ ดอลลาร์สหรัฐฯ) คิดเป็นเงินตันละ 35,466.11 บาท และหักค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงคุณภาพ ค่าขนส่ง โกดัง ที่รับจำนำถึงโกดังกรุงเทพฯ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อส่งออกกิโลกรัมละ 4.50 บาท จึงคิดเป็นราคาเมล็ดกาแฟที่จะขายให้ผู้ส่งออกกิโลกรัมละ 21.53 บาท ให้สมาคมผู้ส่งออกกาแฟทำสัญญาและชำระเงินภายใน 7 วันทำการ นับจากวันทำสัญญาและต้องมารับมอบสินค้าภายใน 60 วันนับแต่วันทำสัญญา ซึ่งขณะนี้สมาชิกสมาคมผู้ส่งออกกาแฟที่ได้รับจัดสรรได้ทำสัญญาและชำระเงินให้แก่ อคส. เรียบร้อยแล้ว และผู้ส่งออกได้เริ่มทยอยขนเมล็ดกาแฟออกจากคลังสินค้าบ้างแล้ว
2. การรับซื้อเมล็ดกาแฟ ในโครงการปรับปรุงคุณภาพเมล็ดกาแฟเพื่อการส่งออก เกษตรกรได้นำเมล็ดกาแฟไปส่งมอบให้ผู้ส่งออกที่คลังสินค้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม - 18 เมษายน 2543 เป็นปริมาณ 1,293.09 ตัน คิดเป็นร้อยละ 25.86 ของปริมาณที่กำหนดส่งมอบตามโครงการ (5,000 ตัน) คิดเป็นเงินค่าชดเชยปรับปรุงคุณภาพ 9.05 ล้านบาท สาเหตุที่เกษตรกรนำเมล็ดกาแฟไปส่งมอบน้อย เนื่องจากในช่วงดังกล่าว มีพ่อค้าท้องถิ่นเข้าไปรับซื้อกาแฟในพื้นที่ ทำให้ราคากาแฟปรับตัวสูงขึ้น ปริมาณเมล็ดกาแฟที่จะเข้าโครงการจึงลดลง
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 20 ประจำวันที่ 5 - 11 มิ.ย. 2543--
-สส-
1.1 สินค้าที่มีปัญหา
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่มีปัญหา
1.2 สินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
ถั่วเหลือง : หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับผู้นำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองรายใหม่
สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น ครั้งที่ 3/2542 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2542 อนุมัติในหลักการให้ 3 สมาคม คือ สมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อเพื่อการส่งออก สมาคมปศุสัตว์ไทย และสมาคมส่งเสริมผู้ใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ เป็นผู้นำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองเพิ่มเติม โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข คือ เป็นสมาชิกสมาคมที่ได้รับอนุมัติ มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ใบอนุญาตผลิตอาหารสัตว์และหนังสือรับรองการจดทะเบียน และในคราวประชุมคณะกรรมการนโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น ครั้งที่ 1/2543 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2543 ได้อนุมัติให้ 3 สมาคมดังกล่าวเป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองเพิ่มเติมโดยกำหนดให้ สมาคมผู้นำเข้าจะต้องทำสัญญารับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองที่ผลิตภายในประเทศทั้งหมด ต่อกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจะต้องรับซื้อในราคาเป้าหมายไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 10.00 บาท ณ ไร่นา หรือไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 11.00 บาท ณ .โรงงานอาหารสัตว์ตลาดกรุงเทพฯ ซึ่งจะอำนวยประโยชน์ต่อเกษตรกรให้ขายผลผลิตของตนเองได้ในราคายุติธรรม และได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประชาสัมพันธ์ให้สหกรณ์ทราบถึงมาตรการดังกล่าว และประสานงานกับผู้นำเข้าให้ออกไปรับซื้อ ณ แหล่งผลิตของสมาชิกสหกรณ์โดยตรง และขอให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบแหล่งจำหน่ายเมล็ดถั่วเหลืองที่ตลาดทรงวาดว่ารับซื้อมาจากแหล่งใด เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้นำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้ามาใช้ผิดวัตถุประสงค์
กาแฟ : อคส.จำหน่ายเมล็ดกาแฟที่รับจำนำ
ตามที่คณะกรรมการ คชก. ได้มีมติให้ดำเนินการแทรกแซงตลาดเมล็ดกาแฟฤดูการผลิตปี 2542/43 โดยให้ อคส. และ ธกส. รับจำนำเมล็ดกาแฟ ปริมาณ 20,000 ตันในราคากิโลกรัมละ 32.30 บาท ระหว่างมกราคม-10 เมษายน 2543 และในส่วนของเมล็ดกาแฟที่คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน ให้ดำเนินการช่วยเหลือตามโครงการรับซื้อเมล็ดกาแฟในโครงการปรับปรุงคุณภาพเพื่อส่งออก โดยช่วยเหลือให้เกษตรกรจำหน่ายเมล็ดกาแฟได้กิโลกรัมละ 25 บาท ระยะเวลาดำเนินการระหว่าง 23 มีนาคม -18 เมษายน 2543 นั้น ผลการดำเนินการมีดังนี้
1. ปริมาณเมล็ดกาแฟที่รับจำนำไว้ทั้งสิ้น 16,985 ตัน เพื่อให้มีการระบายเมล็ดกาแฟที่รับจำนำไว้ออกสู่ตลาดต่างประเทศในเวลาที่เหมาะสม คณะทำงานจำหน่ายเมล็ดกาแฟ ได้พิจารณาเห็นชอบให้จำหน่ายเมล็ดกาแฟให้แก่สมาชิกสมาคมผู้ส่งออกกาแฟ จำนวน 8,000 ตัน ตามสภาพ ณ คลังสินค้าที่ อคส. ฝากเก็บ โดยใช้ราคาล่วงหน้าตลาดลอนดอนเฉลี่ยย้อนหลัง 5 วัน วันที่ 12-20 เมษายน 2543 ได้ราคาเฉลี่ยตันละ 939.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน (อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 37.754 บาท/ ดอลลาร์สหรัฐฯ) คิดเป็นเงินตันละ 35,466.11 บาท และหักค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงคุณภาพ ค่าขนส่ง โกดัง ที่รับจำนำถึงโกดังกรุงเทพฯ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อส่งออกกิโลกรัมละ 4.50 บาท จึงคิดเป็นราคาเมล็ดกาแฟที่จะขายให้ผู้ส่งออกกิโลกรัมละ 21.53 บาท ให้สมาคมผู้ส่งออกกาแฟทำสัญญาและชำระเงินภายใน 7 วันทำการ นับจากวันทำสัญญาและต้องมารับมอบสินค้าภายใน 60 วันนับแต่วันทำสัญญา ซึ่งขณะนี้สมาชิกสมาคมผู้ส่งออกกาแฟที่ได้รับจัดสรรได้ทำสัญญาและชำระเงินให้แก่ อคส. เรียบร้อยแล้ว และผู้ส่งออกได้เริ่มทยอยขนเมล็ดกาแฟออกจากคลังสินค้าบ้างแล้ว
2. การรับซื้อเมล็ดกาแฟ ในโครงการปรับปรุงคุณภาพเมล็ดกาแฟเพื่อการส่งออก เกษตรกรได้นำเมล็ดกาแฟไปส่งมอบให้ผู้ส่งออกที่คลังสินค้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม - 18 เมษายน 2543 เป็นปริมาณ 1,293.09 ตัน คิดเป็นร้อยละ 25.86 ของปริมาณที่กำหนดส่งมอบตามโครงการ (5,000 ตัน) คิดเป็นเงินค่าชดเชยปรับปรุงคุณภาพ 9.05 ล้านบาท สาเหตุที่เกษตรกรนำเมล็ดกาแฟไปส่งมอบน้อย เนื่องจากในช่วงดังกล่าว มีพ่อค้าท้องถิ่นเข้าไปรับซื้อกาแฟในพื้นที่ ทำให้ราคากาแฟปรับตัวสูงขึ้น ปริมาณเมล็ดกาแฟที่จะเข้าโครงการจึงลดลง
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 20 ประจำวันที่ 5 - 11 มิ.ย. 2543--
-สส-