1. ธปท.แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการกระทำความผิดของสถาบันการเงิน รายงานข่าวจาก ธปท.เปิดเผยว่า ผู้ว่าการ ธปท.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการกระทำความผิดของสถาบันการเงิน เมื่อวันที่ 8 ส.ค.43 เพื่อทำหน้าที่กลั่นกรองและตัดสินว่า จะดำเนินคดีหรือยุติคดีของสถาบันการเงิน ก่อนกล่าวโทษร้องทุกข์ต่อผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งการดำเนินคดีกับสถาบันการเงินแต่ละคดีนั้น จะต้องมีความโปร่งใส ไม่มีข้อครหา และมีความละเอียดรอบคอบมากขึ้น การแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่นี้เป็นนโยบายของผู้ว่าการ ธปท.โดยตรง ที่ต้องการให้การดำเนินคดีกับสถาบันการเงินแต่ละคดีมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีต่างๆ ของ ธปท.ในช่วงนี้มีความล่าช้า เนื่องจากต้องใช้เวลาในการสืบหาเอกสารหลักฐาน ประกอบกับมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอกับจำนวนงานที่มีมาก รวมถึงมีงานด้านนโยบายต่างๆ ที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเช่นเดียวกัน (วัฏจักร 16)
2. สศช.ยังไม่ปรับเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ยืนยันยังไม่ปรับประมาณการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจปี 43 เป็นร้อยละ 4.7 จากเป้าหมายเดิมที่ระดับร้อยละ 5 สำหรับกระแสข่าวการปรับลดตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจนั้น เป็นตัวเลขที่เกิดจากข้อมูลประมาณการของคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งตั้งสมมติฐานถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกโดยเฉลี่ยช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปี 43 ว่าจะปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 29 ดอลลาร์/บาร์เรล เทียบกับราคาเฉลี่ยสูงสุด 26 ดอลลาร์/บาร์เรล ในช่วงครึ่งแรกของปี 43 (ผู้จัดการรายวัน 16)
3. กฎหมายฟอกเงินจะมีผลบังคับใช้ทันทีในเดือน ก.ย.หลังผ่านการเห็นชอบของ ครม. เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่า กฎหมายฟอกเงินในส่วนของกฎกระทรวงว่าด้วยเรื่องรายงานการทำธุรกรรมการเงินได้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะให้ขยายเวลาการบังคับใช้จากเดิม 30 วัน เป็น 120 วัน ภายหลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ตามที่สมาคมธนาคารไทยและสมาคมประกันวินาศภัยขอมาหรือไม่ ทั้งนี้ ธุรกรรมที่สถาบันการเงินต้องรายงานต่อ ปปง.นั้น ตามกฎหมายกำหนดให้เป็นธุรกรรมเกี่ยวกับเงินสดที่มีมูลค่าเกิน 2 ล.บาทขึ้นไป แต่หากเป็นธุรกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินต้องมีมูลค่าตั้งแต่ 5 ล.บาทขึ้นไป และหากไม่มีการขยายเวลาบังคับใช้ตามที่มีการร้องขอ กฎหมายดังกล่าวจะมีผลอย่างเป็นทางการได้ภายในเดือน ก.ย.43 โดยสถาบันการเงินต้องทำรายงานธุรกรรมตามที่กฎหมายกำหนดทันที (เดลินิวส์ 16)
4. ผลการดำเนินงานของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 43 รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในงวด 6 เดือนแรกของปี 43 จำนวน 6 บริษัทจากทั้งหมด 8 บริษัท มีกำไรรวม 2,939.73 ล.บาท เทียบกับระยะเดียวกันปี 42 ซึ่งมีกำไรรวมทั้งสิ้น 1,440.20 ล.บาท คิดเป็นกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 103.55 (ไทยโพสต์ 16)
ข่าวต่างประเทศ
1. ผลผลิตอุตสาหกรรมของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4ในเดือน ก.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 43 ธ. กลาง สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ก.ค. 43 ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวม ที่ปรับตัวเลขตามฤดูกาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน มิ.ย. 43 โดยส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้น เป็นผลผลิตสินค้าด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งช่วยผลักดันให้ผลผลิตฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าสินค้าอุตสาหกรรมบางประเภท เช่นรถยนต์ลดลงอย่างมากก็ตาม ชี้ให้เห็นว่าในช่วงกลางปี43 ภาคอุตสาหกรรมการผลิตยังคงแจ่มใส ขณะเดียวกัน ในเดือน ก.ค. 43 การใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 82.3 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 82.2 ในเดือน มิ.ย. 43 นักวิเคราะห์ กล่าวว่า จากรายงานครั้งนี้ แสดงว่าภาวะอุตสาหกรรมการผลิตขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี่ขั้นสูง ซึ่งสนับสนุนให้บริษัทต่างๆเพิ่มการผลิตสินค้าโดยไม่กระตุ้นให้ภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น และจะทำให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ธ. กลางมีความมั่นใจยิ่งขึ้นในการประชุมกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 22 ส.ค. 43 (รอยเตอร์ 15)
2. ดัชนีราคาขายส่งโดยรวมของเยอรมนีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือน ก.ค. 43 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ท เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 43 สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี เปิดเผยว่า เดือน ก.ค. 43 ดัชนีราคาขายส่งโดยรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบต่อเดือนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 เทียบต่อปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 11 ปีนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 32 และเพิ่มสูงเกินความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ ที่คาดไว้ว่า จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 และร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบต่อเดือนและต่อปีตามลำดับ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศยูโร และถ้าไม่รวมราคาพลังงาน ดัชนีราคาขายส่งโดยรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบต่อปี จากรายงานครั้งนี้ ยิ่งทำให้คาดว่า ธ. กลางยุโรปจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในช่วงหลังฤดูร้อนนี้ (รอยเตอร์ 15)
3. การสร้างบ้านใหม่ของ สรอ. คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือน ก.ค. 43 รายงานจากนิวยอร์กเมื่อวันที่ 15ส.ค. 43 เดือน ก.ค. 43 จากการสำรวจของรอยเตอร์ นักเศรษฐศาสตร์มีความเห็นสอดคล้องกันว่า ในเดือน ก.ค. 43 การสร้างบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่จำนวนเฉลี่ย 1.555 ล้านหลังต่อปี จากตัวเลขที่ปรับตามฤดูกาลแล้วในเดือน มิ.ย. 43 ที่ลดลงร้อยละ 2.6 อยู่ที่จำนวน 1.554 ล้านหลังต่อปี นับเป็ฯระดับที่ต่ำที่สุดในรอบมากกว่า 2 ปี ตั้งแต่เดือน พ.ค. 41 ที่มีจำนวน 1.536 ล้านหลัง Gregory Miller หัวหน้าเศรษฐกรของ Sun Trust Banks Inc. กล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัวลงเพียงชั่วคราว แต่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อสังหาริมทรัทย์ได้ชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ซื้อบ้านเพิ่มขึ้น (รอยเตอร์ 15)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 15 ส.ค. 43
40.713 (40.770) อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณสิ้นวันทำการ 15ส.ค.43
ซื้อ 40.5252 (40.5620) ขาย 40.8260 (40.8717)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,300 (5,300) ขาย 5,400 (5,400)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 27.36(27.75)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.79 (16.49)
ดีเซลหมุนเร็ว 13.89 (13.59)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-สส-
2. สศช.ยังไม่ปรับเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ยืนยันยังไม่ปรับประมาณการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจปี 43 เป็นร้อยละ 4.7 จากเป้าหมายเดิมที่ระดับร้อยละ 5 สำหรับกระแสข่าวการปรับลดตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจนั้น เป็นตัวเลขที่เกิดจากข้อมูลประมาณการของคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งตั้งสมมติฐานถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกโดยเฉลี่ยช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปี 43 ว่าจะปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 29 ดอลลาร์/บาร์เรล เทียบกับราคาเฉลี่ยสูงสุด 26 ดอลลาร์/บาร์เรล ในช่วงครึ่งแรกของปี 43 (ผู้จัดการรายวัน 16)
3. กฎหมายฟอกเงินจะมีผลบังคับใช้ทันทีในเดือน ก.ย.หลังผ่านการเห็นชอบของ ครม. เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่า กฎหมายฟอกเงินในส่วนของกฎกระทรวงว่าด้วยเรื่องรายงานการทำธุรกรรมการเงินได้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะให้ขยายเวลาการบังคับใช้จากเดิม 30 วัน เป็น 120 วัน ภายหลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ตามที่สมาคมธนาคารไทยและสมาคมประกันวินาศภัยขอมาหรือไม่ ทั้งนี้ ธุรกรรมที่สถาบันการเงินต้องรายงานต่อ ปปง.นั้น ตามกฎหมายกำหนดให้เป็นธุรกรรมเกี่ยวกับเงินสดที่มีมูลค่าเกิน 2 ล.บาทขึ้นไป แต่หากเป็นธุรกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินต้องมีมูลค่าตั้งแต่ 5 ล.บาทขึ้นไป และหากไม่มีการขยายเวลาบังคับใช้ตามที่มีการร้องขอ กฎหมายดังกล่าวจะมีผลอย่างเป็นทางการได้ภายในเดือน ก.ย.43 โดยสถาบันการเงินต้องทำรายงานธุรกรรมตามที่กฎหมายกำหนดทันที (เดลินิวส์ 16)
4. ผลการดำเนินงานของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 43 รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในงวด 6 เดือนแรกของปี 43 จำนวน 6 บริษัทจากทั้งหมด 8 บริษัท มีกำไรรวม 2,939.73 ล.บาท เทียบกับระยะเดียวกันปี 42 ซึ่งมีกำไรรวมทั้งสิ้น 1,440.20 ล.บาท คิดเป็นกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 103.55 (ไทยโพสต์ 16)
ข่าวต่างประเทศ
1. ผลผลิตอุตสาหกรรมของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4ในเดือน ก.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 43 ธ. กลาง สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ก.ค. 43 ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวม ที่ปรับตัวเลขตามฤดูกาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน มิ.ย. 43 โดยส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้น เป็นผลผลิตสินค้าด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งช่วยผลักดันให้ผลผลิตฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าสินค้าอุตสาหกรรมบางประเภท เช่นรถยนต์ลดลงอย่างมากก็ตาม ชี้ให้เห็นว่าในช่วงกลางปี43 ภาคอุตสาหกรรมการผลิตยังคงแจ่มใส ขณะเดียวกัน ในเดือน ก.ค. 43 การใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 82.3 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 82.2 ในเดือน มิ.ย. 43 นักวิเคราะห์ กล่าวว่า จากรายงานครั้งนี้ แสดงว่าภาวะอุตสาหกรรมการผลิตขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี่ขั้นสูง ซึ่งสนับสนุนให้บริษัทต่างๆเพิ่มการผลิตสินค้าโดยไม่กระตุ้นให้ภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น และจะทำให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ธ. กลางมีความมั่นใจยิ่งขึ้นในการประชุมกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 22 ส.ค. 43 (รอยเตอร์ 15)
2. ดัชนีราคาขายส่งโดยรวมของเยอรมนีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือน ก.ค. 43 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ท เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 43 สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี เปิดเผยว่า เดือน ก.ค. 43 ดัชนีราคาขายส่งโดยรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบต่อเดือนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 เทียบต่อปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 11 ปีนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 32 และเพิ่มสูงเกินความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ ที่คาดไว้ว่า จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 และร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบต่อเดือนและต่อปีตามลำดับ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศยูโร และถ้าไม่รวมราคาพลังงาน ดัชนีราคาขายส่งโดยรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบต่อปี จากรายงานครั้งนี้ ยิ่งทำให้คาดว่า ธ. กลางยุโรปจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในช่วงหลังฤดูร้อนนี้ (รอยเตอร์ 15)
3. การสร้างบ้านใหม่ของ สรอ. คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือน ก.ค. 43 รายงานจากนิวยอร์กเมื่อวันที่ 15ส.ค. 43 เดือน ก.ค. 43 จากการสำรวจของรอยเตอร์ นักเศรษฐศาสตร์มีความเห็นสอดคล้องกันว่า ในเดือน ก.ค. 43 การสร้างบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่จำนวนเฉลี่ย 1.555 ล้านหลังต่อปี จากตัวเลขที่ปรับตามฤดูกาลแล้วในเดือน มิ.ย. 43 ที่ลดลงร้อยละ 2.6 อยู่ที่จำนวน 1.554 ล้านหลังต่อปี นับเป็ฯระดับที่ต่ำที่สุดในรอบมากกว่า 2 ปี ตั้งแต่เดือน พ.ค. 41 ที่มีจำนวน 1.536 ล้านหลัง Gregory Miller หัวหน้าเศรษฐกรของ Sun Trust Banks Inc. กล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัวลงเพียงชั่วคราว แต่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อสังหาริมทรัทย์ได้ชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ซื้อบ้านเพิ่มขึ้น (รอยเตอร์ 15)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 15 ส.ค. 43
40.713 (40.770) อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณสิ้นวันทำการ 15ส.ค.43
ซื้อ 40.5252 (40.5620) ขาย 40.8260 (40.8717)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,300 (5,300) ขาย 5,400 (5,400)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 27.36(27.75)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.79 (16.49)
ดีเซลหมุนเร็ว 13.89 (13.59)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-สส-