แท็ก
บัญชี
ตามที่พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 ได้กำหนดให้ "ผู้ทำบัญชี" จะต้องจัดทำบัญชีให้ เป็นไปตาม "มาตรฐานการบัญชี" ซึ่งเป็นหลักการบัญชีและวิธีปฏิบัติทางการบัญชีที่รับรองทั่วไป โดยขณะที่ยังไม่มีกฎหมายฉบับใดกำหนดมาตรฐานการบัญชี ให้ถือว่า "มาตรฐานการบัญชี" ที่กำหนด โดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย ซึ่งคณะกรรมการควบคุมการประกอบ วิชาชีพสอบบัญชี (ก.บช.) ได้มีมติประกาศใช้แล้ว เป็นมาตรฐานการบัญชีตามพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งใน ปัจจุบันสมาคมนักบัญชี ฯ ได้กำหนดมาตรฐานการบัญชีแล้ว 30 ฉบับ
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.)และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยว กับการปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีที่ออกโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตว่าบาง ฉบับยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ ซึ่งควรจะได้มีการพิจารณาทบทวน เพราะในปัจจุบันการไม่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานการบัญชีจะมีโทษตามกฎหมาย
ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อยุติ คณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี (ก.บช.) จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองมาตรฐานการบัญชี โดยมี รองอธิบดีกรมทะเบียนการค้า เป็นประธานอนุกรรมการ คณะอนุกรรมการประกอบด้วย ผู้แทนคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ผู้แทนจากสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย ผู้ทรงคุณวุฒิทาง วิชาชีพบัญชี ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณากลั่นกรองมาตรฐานการบัญชีก่อนออกประกาศใช้
คณะอนุกรรมการ ฯ ชุดดังกล่าว ได้นำข้อคิดเห็นของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีว่ายังมีปัญหาในทางปฏิบัติ โดยได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ผู้แทนคณะกรรมการธุรกิจการเงินและการลงทุน หอการค้าไทย มาให้ข้อคิดเห็นในการประชุมหารือเพื่อหาข้อยุติ การประชุมได้ดำเนินการไปหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายประชุมเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2543 ปรากฏข้อยุติ และจะนำเสนอ ก.บช. ในวันที่ 26 ธันวาคม 2543 เพื่อพิจารณาประกาศใช้มาตรฐานการบัญชีในต้นปี 2544 ต่อไป--จบ--
-กรมทะเบียนการค้า มกราคม 2544--
-อน-
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.)และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยว กับการปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีที่ออกโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตว่าบาง ฉบับยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ ซึ่งควรจะได้มีการพิจารณาทบทวน เพราะในปัจจุบันการไม่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานการบัญชีจะมีโทษตามกฎหมาย
ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อยุติ คณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี (ก.บช.) จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองมาตรฐานการบัญชี โดยมี รองอธิบดีกรมทะเบียนการค้า เป็นประธานอนุกรรมการ คณะอนุกรรมการประกอบด้วย ผู้แทนคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ผู้แทนจากสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย ผู้ทรงคุณวุฒิทาง วิชาชีพบัญชี ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณากลั่นกรองมาตรฐานการบัญชีก่อนออกประกาศใช้
คณะอนุกรรมการ ฯ ชุดดังกล่าว ได้นำข้อคิดเห็นของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เกี่ยวกับการปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีว่ายังมีปัญหาในทางปฏิบัติ โดยได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ผู้แทนคณะกรรมการธุรกิจการเงินและการลงทุน หอการค้าไทย มาให้ข้อคิดเห็นในการประชุมหารือเพื่อหาข้อยุติ การประชุมได้ดำเนินการไปหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายประชุมเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2543 ปรากฏข้อยุติ และจะนำเสนอ ก.บช. ในวันที่ 26 ธันวาคม 2543 เพื่อพิจารณาประกาศใช้มาตรฐานการบัญชีในต้นปี 2544 ต่อไป--จบ--
-กรมทะเบียนการค้า มกราคม 2544--
-อน-