๑. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ คชก. อนุมัติเงินกู้ 800 ล้านบาท ให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย
จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2543 เห็นชอบให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) กู้เงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จำนวน 800 ล้านบาท เพื่อให้ใช้ในการรับซื้อเช็คค่าอ้อยขั้นต้นล่วงหน้า 100 บาท/ ตันอ้อย ให้แก่โรงงานน้ำตาลที่ฐานะการเงินไม่มั่นคง เพื่อให้ชาวไร่อ้อยได้รับเงินค่าอ้อยขั้นต้นในฤดูการผลิตปี 2542/43 ตามประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายที่ราคา 4.50 บาท/ตันอ้อย ซึ่งในการนี้จะต้องมีการแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พ.ศ. 2534 และให้กรมบัญชีกลางพิจารณาระเบียบกรมบัญชีกลางว่าด้วยการเงินและพัสดุกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พ.ศ. 2534 เพื่อให้สอดคล้องกับร่างระเบียบดังกล่าว
เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี กระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอเรื่องการกู้ยืมเงินจำนวน 800 ล้านบาท ปลอดดอกเบี้ยต่อคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2543 ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาแล้วได้มีมติอนุมัติให้จัดสรรเงินทุนหมุนเวียนจำนวน ดังกล่าว ให้แก่กระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อนำไปให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย โดยมีมติเพิ่มเติม ดังนี้
1. กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จะต้องได้รับการชำระเงินคืนจำนวนดังกล่าวก่อน เจ้าหนี้รายอื่น ๆ ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย
2. หากราคาอ้อยเกินกว่าราคา 450 บาทต่อตัน กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจะต้องจ่ายดอก เบี้ยให้แก่กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ในอัตราเดียวกับที่คิดกับโครงการอื่น ๆ
3. สำหรับราคาสินค้าที่กฏหมายกำหนดให้มีการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบอยู่แล้ว หากมีความจำเป็นจะต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
๒. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
ไม่มีรายงาน
ราคาน้ำตาลทรายดิบ
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 4 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 82.72 ปอนด์สเตอลิง (กิโลกรัมละ 4.97 บาท) ลดลงจากตันละ 83.70 ปอนด์สเตอลิง ( กิโลกรัมละ 5.06 บาท ) ของสัปดาห์ก่อนหรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 1.17
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 9 ประจำวันที่ 28 ก.พ - 5 มี.ค.2543--
จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2543 เห็นชอบให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) กู้เงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จำนวน 800 ล้านบาท เพื่อให้ใช้ในการรับซื้อเช็คค่าอ้อยขั้นต้นล่วงหน้า 100 บาท/ ตันอ้อย ให้แก่โรงงานน้ำตาลที่ฐานะการเงินไม่มั่นคง เพื่อให้ชาวไร่อ้อยได้รับเงินค่าอ้อยขั้นต้นในฤดูการผลิตปี 2542/43 ตามประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายที่ราคา 4.50 บาท/ตันอ้อย ซึ่งในการนี้จะต้องมีการแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พ.ศ. 2534 และให้กรมบัญชีกลางพิจารณาระเบียบกรมบัญชีกลางว่าด้วยการเงินและพัสดุกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พ.ศ. 2534 เพื่อให้สอดคล้องกับร่างระเบียบดังกล่าว
เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี กระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอเรื่องการกู้ยืมเงินจำนวน 800 ล้านบาท ปลอดดอกเบี้ยต่อคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2543 ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาแล้วได้มีมติอนุมัติให้จัดสรรเงินทุนหมุนเวียนจำนวน ดังกล่าว ให้แก่กระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อนำไปให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย โดยมีมติเพิ่มเติม ดังนี้
1. กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จะต้องได้รับการชำระเงินคืนจำนวนดังกล่าวก่อน เจ้าหนี้รายอื่น ๆ ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย
2. หากราคาอ้อยเกินกว่าราคา 450 บาทต่อตัน กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจะต้องจ่ายดอก เบี้ยให้แก่กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ในอัตราเดียวกับที่คิดกับโครงการอื่น ๆ
3. สำหรับราคาสินค้าที่กฏหมายกำหนดให้มีการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบอยู่แล้ว หากมีความจำเป็นจะต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
๒. สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
ไม่มีรายงาน
ราคาน้ำตาลทรายดิบ
ราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบ หมายเลข 4 ณ ตลาดลอนดอนเฉลี่ยสัปดาห์นี้ตันละ 82.72 ปอนด์สเตอลิง (กิโลกรัมละ 4.97 บาท) ลดลงจากตันละ 83.70 ปอนด์สเตอลิง ( กิโลกรัมละ 5.06 บาท ) ของสัปดาห์ก่อนหรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 1.17
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 9 ประจำวันที่ 28 ก.พ - 5 มี.ค.2543--