แท็ก
หนี้สาธารณะ
ข่าวในประเทศ
1. แนวทางนโยบายการคลังและการบริหารหนี้สาธารณะตามแผนแม่บทฟื้นฟูเศรษฐกิจ รายงานข่าวจาก ก.คลัง เปิดเผยว่า ในการจัดทำแผนแม่บทเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ได้กำหนดกรอบแนวทางนโยบายการคลังและการบริหารหนี้สาธารณะไว้ 4 ประการคือ 1)การควบคุมการก่อหนี้สาธารณะและการขาดดุล งปม. 2)การบริหารรายได้ของรัฐโดยปรับปรุงโครงสร้างและอัตราภาษี และบริหารทรัพย์สินของภาครัฐให้มีผลตอบแทนสูงสุด 3)การบริหารรายจ่าย งปม.แผ่นดินให้เพียงพอ และ 4)การสร้างภูมิคุ้มกันและการกำกับระบบการเงินที่ดี โดยตั้งเป้าหมายที่จะจัดทำ งปม.แบบสมดุลในปี 49 และจำกัดหนี้ภาครัฐไม่ให้เกินร้อยละ 60 ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ(จีดีพี) รวมทั้งดูแลให้ภาระการชำระหนี้ใน งปม.ไม่เกินร้อยละ 15 ของ งปม. นอกจากนี้ ได้กำหนดเป้าหมายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 44 ที่ระดับร้อยละ 2-3 ส่วนแผนระยะยาวกำหนดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจช่วงปี 45-49 ในระดับเฉลี่ยร้อยละ 5 และเป้าหมายการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับร้อยละ 1-2 ต่อปี (เดลินิวส์ 16)
2. สรุปผลการหารือร่วมระหว่าง ก.คลัง และ ธปท. เกี่ยวกับแนวทางการลดภาระหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รองปลัด ก.คลัง ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และที่ปรึกษา รมว.คลัง (นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์) เกี่ยวกับแนวทางการบริหารหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินว่า ก.คลัง และ ธปท. ตกลงกันในหลักการที่จะให้กองทุนฟื้นฟูฯ ออกพันธบัตรและให้ ก.คลังเป็นผู้ค้ำประกัน โดยพันธบัตรจะมีอายุไม่ถึง 40 ปี นอกจากนี้จะบริหาร ธปท. ให้มีกำไรเพิ่มขึ้นเพื่อนำกลับมาใช้บริหารหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ (ข่าวสด 14)
3. ธปท.ทดสอบระบบบาทเนต 2 เพื่อเตรียมความพร้อมใช้งานจริงเดือน ธ.ค.44 ผู้อำนวยการอาวุโสสายระบบการชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เดือน ส.ค.44 ธปท.จะทดสอบระบบบาทเนต 2 กับสถาบันการเงินสมาชิก โดยทดสอบระบบการเชื่อมโยงการส่งข้อมูลเข้าโปรแกรมผ่านระบบบาทเนต และประมาณเดือน ก.ย.44 จะทดสอบระบบใหญ่อีกครั้ง เพื่อให้สถาบันการเงินสมาชิกเตรียมพร้อมก่อนเริ่มใช้จริงในเดือน ธ.ค 44 (โลกวันนี้ 16)
4. สัดส่วนการให้สินเชื่อใหม่ของสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นสินเชื่อรายใหม่อย่างแท้จริง ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ยอดสินเชื่อคงค้างรวมของสถาบันการเงินยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยหากพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่าการให้สินเชื่อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ต่อเดือน อาจไม่ใช่เป็นเม็ดเงินใหม่ที่สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อแก่ลูกค้ารายใหม่ทั้งหมด เพราะส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่ลูกหนี้ที่ปรับโครงสร้างสำเร็จแล้ว สถาบันการเงินจึงบันทึกสินเชื่อรายนั้นกลับเป็นสินเชื่อปกติ จึงดูเหมือนว่าเป็นสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องพิจารณารวมไปถึงการโอนหนี้เข้าบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยและมีการตัดหนี้สูญของสถาบันการเงิน ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะต้องมีการรายงานต่อ ธปท. ให้ชัดเจน (ผู้จัดการรายวัน 16)
ข่าวต่างประเทศ
1. ยอดการค้าปลีกโดยรวมของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2ในเดือน มิ.ย. 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 13 ก.ค.44 ก.พาณิชย์เปิดเผยว่า ยอดการค้าปลีกโดยรวม หลังปรับฤดูกาล ในเดือน มิ.ย. 44 มีจำนวน 292.9 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ในเดือน พ.ค. 44 เป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากยอดขายรถยนต์ใหม่ ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 1 ใน 4 ของยอดการค้าปลีกโดยรวม เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1.5 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน มิ.ย. 44 อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่รวมยอดขายรถยนต์ ยอดขายปลีกในเดือน มิ.ย. 44 ลดลงร้อยละ 0.2 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ในเดือน พ.ค. 44 นับเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน นักเศรษฐศาสตร์ของ Morgan Stanley (Kevin Flanagan) กล่าวว่า รายงานครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงมีส่วนเกื้อหนุนต่อการเติบโตของระบบเศรษฐกิจโดยรวม โดยการใช้จ่ายซื้อสินค้าที่มีราคาแพงยังคงมีแนวโน้มแกว่งตัวเพิ่มขึ้น ในวันเดียวกัน ก. แรงงาน เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตโดยรวม ซึ่งใช้วัดเงินเฟ้อในระดับขายส่ง ลดลงร้อยละ 0.4 ในเดือน มิ.ย. 44 หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ในเดือน พ.ค. 44 นับเป็นการลดลงต่ำสุดในรอบมากกว่า 2 ปี เนื่องจากราคาพลังงานลดลงต่ำสุดนับแต่ที่เคยลดลงร้อยละ 0.5 ในเดือน ก.พ. 42 ชี้ให้เห็นถึงภาวะเงินเฟ้อที่อ่อนตัว และจะสนับสนุนให้ ธ. กลาง มีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก (รอยเตอร์ 13)
2. บริษัทญี่ปุ่นล้มละลายช่วงครึ่งแรกปี 44 มีจำนวนสูงที่สุดในรอบ 3 ปี รายงานจากโตเกียวเมื่อ 13 ก.ค.44 บริษัทวิจัยสินเชื่อเอกชน Teikoku Databank เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 44 บริษัทญี่ปุ่นล้มละลายมีจำนวน 9,427 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 จากระยะเดียวกันปี 43 และเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อ โดยร้อยละ 75 ของบริษัทที่ล้มละลาย มีสาเหตุจากการอ่อนตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังมีแรงกดดันทางการเมือง ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศที่ให้เร่งขจัดหนี้เสียในภาคธนาคาร ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเข้มงวดในการเลือกสรรผู้กู้มากขึ้น ส่งผลให้บริษัทธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กล้มละลายเพิ่มขึ้น (รอยเตอร์13)
3. อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นในเดือน พ.ค.44 สูงถึงร้อยละ 4.9 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 13 ก.ค.44 เดือนพ.ค.44 อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นอยู่ที่ร้อยละ 4.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับปี 2496 โดยจำนวนคนว่างงานในเดือน พ.ค. มีทั้งสิ้น 3.48 ล.คน จากประชากรทั้งสิ้น 127 ล. คน โดยเป็นอัตราการว่างงานของแรงงานชายร้อยละ 5.1 และแรงงานหญิงร้อยละ 4.6 โดยอัตราการว่างงานของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจฟองสบู่แตกในช่วงต้นทศวรรษ 1990 และคาดว่าการว่างงานจะเพิ่มขึ้นอีกหากนรม.ญี่ปุ่น Junichiro Koizumi เร่งผลักดันให้มีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงการแก้ไขปัญหาหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์และการบังคับใช้กฎหมายล้มละลาย (รอยเตอร์ 13)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 13 ก.ค. 44 45.597 (45.608)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 13 ก.ค. 44ซื้อ 45.3863 (45.4006) ขาย 45.7008 (45.7095)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,750 (5,750) ขาย 5,850 (5,850)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 23.46 (23.53)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 14.99 (14.99) ดีเซลหมุนเร็ว 14.14 (14.14)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. แนวทางนโยบายการคลังและการบริหารหนี้สาธารณะตามแผนแม่บทฟื้นฟูเศรษฐกิจ รายงานข่าวจาก ก.คลัง เปิดเผยว่า ในการจัดทำแผนแม่บทเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ได้กำหนดกรอบแนวทางนโยบายการคลังและการบริหารหนี้สาธารณะไว้ 4 ประการคือ 1)การควบคุมการก่อหนี้สาธารณะและการขาดดุล งปม. 2)การบริหารรายได้ของรัฐโดยปรับปรุงโครงสร้างและอัตราภาษี และบริหารทรัพย์สินของภาครัฐให้มีผลตอบแทนสูงสุด 3)การบริหารรายจ่าย งปม.แผ่นดินให้เพียงพอ และ 4)การสร้างภูมิคุ้มกันและการกำกับระบบการเงินที่ดี โดยตั้งเป้าหมายที่จะจัดทำ งปม.แบบสมดุลในปี 49 และจำกัดหนี้ภาครัฐไม่ให้เกินร้อยละ 60 ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ(จีดีพี) รวมทั้งดูแลให้ภาระการชำระหนี้ใน งปม.ไม่เกินร้อยละ 15 ของ งปม. นอกจากนี้ ได้กำหนดเป้าหมายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 44 ที่ระดับร้อยละ 2-3 ส่วนแผนระยะยาวกำหนดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจช่วงปี 45-49 ในระดับเฉลี่ยร้อยละ 5 และเป้าหมายการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับร้อยละ 1-2 ต่อปี (เดลินิวส์ 16)
2. สรุปผลการหารือร่วมระหว่าง ก.คลัง และ ธปท. เกี่ยวกับแนวทางการลดภาระหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รองปลัด ก.คลัง ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และที่ปรึกษา รมว.คลัง (นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์) เกี่ยวกับแนวทางการบริหารหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินว่า ก.คลัง และ ธปท. ตกลงกันในหลักการที่จะให้กองทุนฟื้นฟูฯ ออกพันธบัตรและให้ ก.คลังเป็นผู้ค้ำประกัน โดยพันธบัตรจะมีอายุไม่ถึง 40 ปี นอกจากนี้จะบริหาร ธปท. ให้มีกำไรเพิ่มขึ้นเพื่อนำกลับมาใช้บริหารหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ (ข่าวสด 14)
3. ธปท.ทดสอบระบบบาทเนต 2 เพื่อเตรียมความพร้อมใช้งานจริงเดือน ธ.ค.44 ผู้อำนวยการอาวุโสสายระบบการชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เดือน ส.ค.44 ธปท.จะทดสอบระบบบาทเนต 2 กับสถาบันการเงินสมาชิก โดยทดสอบระบบการเชื่อมโยงการส่งข้อมูลเข้าโปรแกรมผ่านระบบบาทเนต และประมาณเดือน ก.ย.44 จะทดสอบระบบใหญ่อีกครั้ง เพื่อให้สถาบันการเงินสมาชิกเตรียมพร้อมก่อนเริ่มใช้จริงในเดือน ธ.ค 44 (โลกวันนี้ 16)
4. สัดส่วนการให้สินเชื่อใหม่ของสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นสินเชื่อรายใหม่อย่างแท้จริง ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ยอดสินเชื่อคงค้างรวมของสถาบันการเงินยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยหากพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่าการให้สินเชื่อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ต่อเดือน อาจไม่ใช่เป็นเม็ดเงินใหม่ที่สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อแก่ลูกค้ารายใหม่ทั้งหมด เพราะส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่ลูกหนี้ที่ปรับโครงสร้างสำเร็จแล้ว สถาบันการเงินจึงบันทึกสินเชื่อรายนั้นกลับเป็นสินเชื่อปกติ จึงดูเหมือนว่าเป็นสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องพิจารณารวมไปถึงการโอนหนี้เข้าบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยและมีการตัดหนี้สูญของสถาบันการเงิน ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะต้องมีการรายงานต่อ ธปท. ให้ชัดเจน (ผู้จัดการรายวัน 16)
ข่าวต่างประเทศ
1. ยอดการค้าปลีกโดยรวมของ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2ในเดือน มิ.ย. 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 13 ก.ค.44 ก.พาณิชย์เปิดเผยว่า ยอดการค้าปลีกโดยรวม หลังปรับฤดูกาล ในเดือน มิ.ย. 44 มีจำนวน 292.9 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ในเดือน พ.ค. 44 เป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากยอดขายรถยนต์ใหม่ ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 1 ใน 4 ของยอดการค้าปลีกโดยรวม เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1.5 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน มิ.ย. 44 อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่รวมยอดขายรถยนต์ ยอดขายปลีกในเดือน มิ.ย. 44 ลดลงร้อยละ 0.2 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ในเดือน พ.ค. 44 นับเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน นักเศรษฐศาสตร์ของ Morgan Stanley (Kevin Flanagan) กล่าวว่า รายงานครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงมีส่วนเกื้อหนุนต่อการเติบโตของระบบเศรษฐกิจโดยรวม โดยการใช้จ่ายซื้อสินค้าที่มีราคาแพงยังคงมีแนวโน้มแกว่งตัวเพิ่มขึ้น ในวันเดียวกัน ก. แรงงาน เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตโดยรวม ซึ่งใช้วัดเงินเฟ้อในระดับขายส่ง ลดลงร้อยละ 0.4 ในเดือน มิ.ย. 44 หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 ในเดือน พ.ค. 44 นับเป็นการลดลงต่ำสุดในรอบมากกว่า 2 ปี เนื่องจากราคาพลังงานลดลงต่ำสุดนับแต่ที่เคยลดลงร้อยละ 0.5 ในเดือน ก.พ. 42 ชี้ให้เห็นถึงภาวะเงินเฟ้อที่อ่อนตัว และจะสนับสนุนให้ ธ. กลาง มีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก (รอยเตอร์ 13)
2. บริษัทญี่ปุ่นล้มละลายช่วงครึ่งแรกปี 44 มีจำนวนสูงที่สุดในรอบ 3 ปี รายงานจากโตเกียวเมื่อ 13 ก.ค.44 บริษัทวิจัยสินเชื่อเอกชน Teikoku Databank เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 44 บริษัทญี่ปุ่นล้มละลายมีจำนวน 9,427 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 จากระยะเดียวกันปี 43 และเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อ โดยร้อยละ 75 ของบริษัทที่ล้มละลาย มีสาเหตุจากการอ่อนตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังมีแรงกดดันทางการเมือง ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศที่ให้เร่งขจัดหนี้เสียในภาคธนาคาร ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเข้มงวดในการเลือกสรรผู้กู้มากขึ้น ส่งผลให้บริษัทธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กล้มละลายเพิ่มขึ้น (รอยเตอร์13)
3. อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นในเดือน พ.ค.44 สูงถึงร้อยละ 4.9 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 13 ก.ค.44 เดือนพ.ค.44 อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นอยู่ที่ร้อยละ 4.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับปี 2496 โดยจำนวนคนว่างงานในเดือน พ.ค. มีทั้งสิ้น 3.48 ล.คน จากประชากรทั้งสิ้น 127 ล. คน โดยเป็นอัตราการว่างงานของแรงงานชายร้อยละ 5.1 และแรงงานหญิงร้อยละ 4.6 โดยอัตราการว่างงานของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจฟองสบู่แตกในช่วงต้นทศวรรษ 1990 และคาดว่าการว่างงานจะเพิ่มขึ้นอีกหากนรม.ญี่ปุ่น Junichiro Koizumi เร่งผลักดันให้มีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงการแก้ไขปัญหาหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์และการบังคับใช้กฎหมายล้มละลาย (รอยเตอร์ 13)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 13 ก.ค. 44 45.597 (45.608)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 13 ก.ค. 44ซื้อ 45.3863 (45.4006) ขาย 45.7008 (45.7095)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,750 (5,750) ขาย 5,850 (5,850)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 23.46 (23.53)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 14.99 (14.99) ดีเซลหมุนเร็ว 14.14 (14.14)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-