นายสมพันธ์ เอี่ยมรุ่งโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคาร เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธสน. ได้ออกพันธบัตรสกุลเงินบาทโดยเลือกธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายนั้น ปรากฏว่า พันธบัตรที่เสนอขายครั้งนี้มียอดจองกว่า 2 เท่าของจำนวนที่เสนอขาย โดยประกอบด้วยพันธบัตรอายุ 3 ปี จำนวน 3,000 ล้านบาท และพันธบัตรอายุ 5 ปี จำนวน 2,000 ล้านบาท ซึ่ง ธสน. ได้ทำการ Cross Currency Swap เงินที่ได้จากการออกพันธบัตรครั้งนี้ให้เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีต้นทุนสุทธิต่ำกว่า LIBOR (Sub-LIBOR) ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับที่ ธสน. กู้เงิน โดยตรงจากธนาคารในต่างประเทศ เป็นผลให้พันธบัตรของ ธสน. ได้รับรางวัลตราสารหนี้ยอดเยี่ยมประจำปี 2000 จากนิตยสาร Finance Asia นิตยสารทางการเงินระดับภูมิภาค
รองกรรมการผู้จัดการ ธสน. กล่าวเพิ่มเติมว่า เงินทุนที่ระดมได้จากการขายพันธบัตรนี้ช่วยให้ ธสน. สามารถสนับสนุนให้ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทย ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีส่วนสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศขณะนี้ มีต้นทุนทางการเงินที่สามารถแข่งขันได้กับตลาดต่างประเทศโดยผ่านบริการต่างๆ ของ ธสน. ได้แก่ สินเชื่อเพื่อเตรียมการส่งออก สินเชื่อเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมส่งออก สินเชื่อพาณิชย์นาวี โครงการสนับสนุนการลงทุนในต่างประเทศและการส่งออกสินค้าทุนและบริการ นอกจากนี้ยังถือเป็นการช่วยพัฒนาตลาดตราสารหนี้ให้มีตราสารที่มีคุณภาพให้นักลงทุนได้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น
--Exim News ปีที่ 7 ฉบับที่ 4 ประจำเดือนเมษายน 2544--
-อน-
รองกรรมการผู้จัดการ ธสน. กล่าวเพิ่มเติมว่า เงินทุนที่ระดมได้จากการขายพันธบัตรนี้ช่วยให้ ธสน. สามารถสนับสนุนให้ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทย ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีส่วนสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศขณะนี้ มีต้นทุนทางการเงินที่สามารถแข่งขันได้กับตลาดต่างประเทศโดยผ่านบริการต่างๆ ของ ธสน. ได้แก่ สินเชื่อเพื่อเตรียมการส่งออก สินเชื่อเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมส่งออก สินเชื่อพาณิชย์นาวี โครงการสนับสนุนการลงทุนในต่างประเทศและการส่งออกสินค้าทุนและบริการ นอกจากนี้ยังถือเป็นการช่วยพัฒนาตลาดตราสารหนี้ให้มีตราสารที่มีคุณภาพให้นักลงทุนได้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น
--Exim News ปีที่ 7 ฉบับที่ 4 ประจำเดือนเมษายน 2544--
-อน-