แท็ก
ธปท.
ข่าวในประเทศ
1. หลักเกณฑ์สำคัญในการอนุมัติให้ ธพ.ทำธุรกิจอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงินได้มีคำสั่งอนุมัติให้ ธพ.ทำธุรกิจอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง โดยมีหลักเกณฑ์ที่สำคัญคือ (1) ต้องมีระบบป้องกันความปลอดภัยที่ ธปท.พอใจ โดยต้องส่งระบบที่ดำเนินการมาให้ ธปท.พิจารณาก่อน เนื่องจากเป็นธุรกิจใหม่ จึงต้องให้ ธพ.เขียนหลักเกณฑ์แล้วให้ ธปท. ตรวจสอบอีกครั้ง เพราะ ธปท.มีมาตรฐานที่รู้ว่าระดับไหนมีความปลอดภัย ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป (2) ต้องเป็นลักษณะการขายที่มิใช่เชิงรุก คือ ต้องไม่มีสัญลักษณ์ของสินค้าที่จะขายอยู่บนหน้าแรกของเว็บ และไม่สามารถส่งหนังสือเชิญชวนให้ลูกค้าของ ธนาคารมาซื้อสินค้า เพียงบอกว่าในเว็บขายอะไร นอกจากนี้ การซื้อขายต้องทำในหน้าจอของคู่ค้าเท่านั้น ห้ามทำในเว็บหลักของ ธพ. แต่สามารถเชื่อมหน้าจอของ ธพ.ไปยังเว็บของคู่ค้าได้ ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าว ธพ.สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโอนเงินตามปกติ และเรียกค่าธรรมเนียมจากคู่ค้าในการช่วยขาย แต่ต้องไม่มากนัก ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งนั้น ธพ.สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องขออนุญาตจาก ธปท.ก่อน ส่วนประเด็นเรื่องความปลอดภัยนั้น หาก ธพ.รายใดมีปัญหา สามารถติดต่อกับคณะกรรมการพัฒนาสถาบันการเงินได้โดยตรง แต่สิ่งที่น่าห่วง คือประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีและบุคคลากร (กรุงเทพธุรกิจ 4)
2. ธปท.พิจารณาทางเลือกแก้ปัญหาของ บง.ธนชาติ ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ในการอนุมัติให้ บง.ธนชาติ ทำธุรกิจ ธพ.จำกัดขอบเขต (Restricted bank) นั้น ขณะนี้กำลังพิจาณาในเรื่องของโครงสร้างการจัดองค์กร เพื่อมิให้เป็นลักษณะการถือหุ้นไขว้ ซึ่งในการหารือกับผู้บริหารของ บง.ธนชาติ มีทางเลือก 2 แนวทางคือ (1) เลือก บง.ธนชาติ หรือ บง.เอกธนกิจ ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (2) เลือกถือหุ้นในบริษัทใดบริษัทหนึ่ง อาจจะเป็น บง.ธนชาติ ถือหุ้น บง.เอกชาติฝ่ายเดียว หรือ บง.เอกชาติถือหุ้น บง.ธนชาติฝ่ายเดียว แต่ต้องมิใช่การถือหุ้นไขว้กันเหมือนที่ผ่านมา เพราะจะทำให้เกิดปัญหาในอนาคตได้ สิ่งที่ ธปท.กังวลมากคือ การปั่นราคาหุ้นบริษัทใดบริษัทหนึ่งเพื่อให้มีผลกับอีกบริษัทหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การเลือกบริษัทใดบริษัทหนึ่งออกจากตลาดหลักทรัพย์ อาจก่อให้เกิดปัญหา เนื่องจากจะกระทบบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ต้องมีการรับซื้อหุ้นคืน แต่ก็เป็นแนวทางที่ดีในการป้องกันไม่ให้เกิดการปั่นราคาหุ้นของบริษัท ส่วนแนวทางที่ 2 จะดำเนินการได้ง่ายกว่าและสามารถควบคุมได้ (ไทยโพสต์,กรุงเทพธุรกิจ 4)
3. การโอนเงินรายย่อยผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้จัดการฝ่ายธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ ธ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ ธพ. 6 แห่งประกอบด้วย ธ.กรุงเทพ, กสิกรไทย, กรุงไทย, ไทยพาณิชย์, ทหารไทย และ ธ.กรุงศรีอยุธยา ได้เปิดให้บริการโอนเงินรายย่อยผ่านเครื่องเอทีเอ็มมาจนถึงขณะนี้ พบว่าปริมาณการใช้บริการของลูกค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนการเข้าทำรายการเฉลี่ยประมาณวันละ 500 รายการ ซึ่งหากมีการใช้บริการมากขึ้น ธพ.อาจพิจารณาลดค่าธรรมเนียมลงจากปัจจุบันที่เก็บในอัตรา 35 บาทต่อรายการ (แนวหน้า 4)
ข่าวต่างประเทศ
1. การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของ สรอ. ลดลง 1.05 แสนคนในเดือน ส.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 43 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ส.ค. 43 การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม ที่ปรับตัวเลขตามฤดูกาล ลดลงจำนวน 1.05 แสนคน หลังจากที่ลดลงจำนวน 51,000 คนในเดือน ก.ค. 43 ขณะเดียวกัน ในเดือน ส.ค. 43 อัตราการว่างงาน เพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 4.1 จากร้อยละ 4 ในเดือน ก.ค. 43 ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง ซึ่งใช้วัดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.3 สอดคล้องกับที่เพิ่มขึ้นในเดือน ก.ค. 43 อนึ่ง การที่ตลาดการจ้างงานของ สรอ. ชะลอตัวลง และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น น่าจะส่งผลให้ ธ. ลางคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อลงได้ (รอยเตอร์ 1)
2. ดัชนี PMI ของเยอรมนีลดลงอยู่ที่ระดับ 58.2 ในเดือน ส.ค.43 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อวันที่ 1 ก.ย.43 บริษัทวิจัย NTC รายงานว่า เดือน ส.ค.43 ดัชนี PMI (Purchasing Managers' Index) ของเยอรมนีที่ปรับฤดูกาลแล้ว ลดลงอยู่ที่ระดับ 58.2 จากระดับ 58.3 ในเดือน ก.ค.43 ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ ที่อยู่เหนือระดับ 50 ชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตอยู่ในภาวะขยายตัว ซึ่งภาคอุตสาหกรรมดังกล่าว อยู่เหนือระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15 โดยในเดือน ส.ค.43 คำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มสูงขึ้นมาก ขณะที่คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกอ่อนตัวลงในระดับต่ำที่สุดนับแต่เดือน ม.ค.43 ชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวของตลาดในประเทศ อย่างไรก็ตาม คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกแม้จะชะลอลงแต่ก็ยังนับว่าอยู่ในระดับที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งเนื่องจากยังได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินยูโรและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญที่ทำให้มีความต้องการสินค้าของเยอรมนีเพิ่มขึ้น (รอยเตอร์1)
3. เงินเฟ้อของ สรอ. มีแนวโน้มลดลงในเดือน ส.ค.43 รายงานจากนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 1 ก.ย.43 Foundation for International Business and Economic Research (FIBER) รายงานว่า เดือน ส.ค.43 ดัชนีชี้นำเงินเฟ้อซึ่งใช้เป็นเครื่องวัดความกดดันเรื่องเงินเฟ้อของ สรอ. ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 101.2 จากตัวเลขปรับใหม่ที่ระดับ 102.4 ในเดือน ก.ค.43 ขณะเดียวกัน Economic Cycle Research Institute (ECRI) รายงานว่า เครื่องวัดภาวะเงินเฟ้อล่วงหน้า (U.S. future inflation gauge = USFIG) ของ สรอ.ในเดือน ส.ค.43 ลดลงอยู่ที่ระดับ 121.1 จากตัวเลขปรับใหม่ที่ระดับ 121.7 ในเดือน ก.ค.43 ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 แต่ก็ยังลดลงในระดับที่ใกล้เคียงกับตัวเลขในเดือน เม.ย.43 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 125.1 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 11 ปี (รอยเตอร์ 1)
4. การใช้จ่ายเพื่อการก่อสร้างของ สรอ. ลดลงร้อยละ 1.6 ในเดือน ก.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 43 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ก.ค. 43 การใช้จ่ายเพื่อการก่อสร้าง ที่ปรับตัวเลขตามฤดูกาล ลดลงร้อยละ 1.6 อยู่ที่มูลค่า 789 พัน ล. ดอลลาร์ ต่อปี เทียบกับเดือน มิ.ย. 43 ที่ลดลงร้อยละ 1.3 นับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และลดลงมากสุดในรอบมากกว่า 6 ปี และตรงข้ามกับที่นักเศรษฐศาสตร์จากวอลล์สตรีทเคยคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 อนึ่ง การใช้จ่ายฯที่ลดลง น่าจะชี้ให้เห็นว่า การรณรงค์ของ ธ. กลางในการที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง อย่างมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น โดยปราศจากภาวะเงินเฟ้อ กำลังส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายเพื่อการก่อสร้าง (รอยเตอร์ 1)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 1 ก.ย. 43 40.886 (40.926)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน)ณสิ้นวันทำการ 1 ก.ย.43
ซื้อ 40.6660 (40.7302) ขาย 40.9644 (41.0277)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,300 (5,350) ขาย 5,400 (5,450)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 29.51 (29.57)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.79 (16.79) ดีเซลหมุนเร็ว 13.64 (13.89)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. หลักเกณฑ์สำคัญในการอนุมัติให้ ธพ.ทำธุรกิจอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงินได้มีคำสั่งอนุมัติให้ ธพ.ทำธุรกิจอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง โดยมีหลักเกณฑ์ที่สำคัญคือ (1) ต้องมีระบบป้องกันความปลอดภัยที่ ธปท.พอใจ โดยต้องส่งระบบที่ดำเนินการมาให้ ธปท.พิจารณาก่อน เนื่องจากเป็นธุรกิจใหม่ จึงต้องให้ ธพ.เขียนหลักเกณฑ์แล้วให้ ธปท. ตรวจสอบอีกครั้ง เพราะ ธปท.มีมาตรฐานที่รู้ว่าระดับไหนมีความปลอดภัย ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป (2) ต้องเป็นลักษณะการขายที่มิใช่เชิงรุก คือ ต้องไม่มีสัญลักษณ์ของสินค้าที่จะขายอยู่บนหน้าแรกของเว็บ และไม่สามารถส่งหนังสือเชิญชวนให้ลูกค้าของ ธนาคารมาซื้อสินค้า เพียงบอกว่าในเว็บขายอะไร นอกจากนี้ การซื้อขายต้องทำในหน้าจอของคู่ค้าเท่านั้น ห้ามทำในเว็บหลักของ ธพ. แต่สามารถเชื่อมหน้าจอของ ธพ.ไปยังเว็บของคู่ค้าได้ ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าว ธพ.สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโอนเงินตามปกติ และเรียกค่าธรรมเนียมจากคู่ค้าในการช่วยขาย แต่ต้องไม่มากนัก ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งนั้น ธพ.สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องขออนุญาตจาก ธปท.ก่อน ส่วนประเด็นเรื่องความปลอดภัยนั้น หาก ธพ.รายใดมีปัญหา สามารถติดต่อกับคณะกรรมการพัฒนาสถาบันการเงินได้โดยตรง แต่สิ่งที่น่าห่วง คือประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีและบุคคลากร (กรุงเทพธุรกิจ 4)
2. ธปท.พิจารณาทางเลือกแก้ปัญหาของ บง.ธนชาติ ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ในการอนุมัติให้ บง.ธนชาติ ทำธุรกิจ ธพ.จำกัดขอบเขต (Restricted bank) นั้น ขณะนี้กำลังพิจาณาในเรื่องของโครงสร้างการจัดองค์กร เพื่อมิให้เป็นลักษณะการถือหุ้นไขว้ ซึ่งในการหารือกับผู้บริหารของ บง.ธนชาติ มีทางเลือก 2 แนวทางคือ (1) เลือก บง.ธนชาติ หรือ บง.เอกธนกิจ ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (2) เลือกถือหุ้นในบริษัทใดบริษัทหนึ่ง อาจจะเป็น บง.ธนชาติ ถือหุ้น บง.เอกชาติฝ่ายเดียว หรือ บง.เอกชาติถือหุ้น บง.ธนชาติฝ่ายเดียว แต่ต้องมิใช่การถือหุ้นไขว้กันเหมือนที่ผ่านมา เพราะจะทำให้เกิดปัญหาในอนาคตได้ สิ่งที่ ธปท.กังวลมากคือ การปั่นราคาหุ้นบริษัทใดบริษัทหนึ่งเพื่อให้มีผลกับอีกบริษัทหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การเลือกบริษัทใดบริษัทหนึ่งออกจากตลาดหลักทรัพย์ อาจก่อให้เกิดปัญหา เนื่องจากจะกระทบบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ต้องมีการรับซื้อหุ้นคืน แต่ก็เป็นแนวทางที่ดีในการป้องกันไม่ให้เกิดการปั่นราคาหุ้นของบริษัท ส่วนแนวทางที่ 2 จะดำเนินการได้ง่ายกว่าและสามารถควบคุมได้ (ไทยโพสต์,กรุงเทพธุรกิจ 4)
3. การโอนเงินรายย่อยผ่านเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้จัดการฝ่ายธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ ธ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ ธพ. 6 แห่งประกอบด้วย ธ.กรุงเทพ, กสิกรไทย, กรุงไทย, ไทยพาณิชย์, ทหารไทย และ ธ.กรุงศรีอยุธยา ได้เปิดให้บริการโอนเงินรายย่อยผ่านเครื่องเอทีเอ็มมาจนถึงขณะนี้ พบว่าปริมาณการใช้บริการของลูกค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนการเข้าทำรายการเฉลี่ยประมาณวันละ 500 รายการ ซึ่งหากมีการใช้บริการมากขึ้น ธพ.อาจพิจารณาลดค่าธรรมเนียมลงจากปัจจุบันที่เก็บในอัตรา 35 บาทต่อรายการ (แนวหน้า 4)
ข่าวต่างประเทศ
1. การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของ สรอ. ลดลง 1.05 แสนคนในเดือน ส.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 43 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ส.ค. 43 การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม ที่ปรับตัวเลขตามฤดูกาล ลดลงจำนวน 1.05 แสนคน หลังจากที่ลดลงจำนวน 51,000 คนในเดือน ก.ค. 43 ขณะเดียวกัน ในเดือน ส.ค. 43 อัตราการว่างงาน เพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 4.1 จากร้อยละ 4 ในเดือน ก.ค. 43 ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง ซึ่งใช้วัดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.3 สอดคล้องกับที่เพิ่มขึ้นในเดือน ก.ค. 43 อนึ่ง การที่ตลาดการจ้างงานของ สรอ. ชะลอตัวลง และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น น่าจะส่งผลให้ ธ. ลางคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อลงได้ (รอยเตอร์ 1)
2. ดัชนี PMI ของเยอรมนีลดลงอยู่ที่ระดับ 58.2 ในเดือน ส.ค.43 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อวันที่ 1 ก.ย.43 บริษัทวิจัย NTC รายงานว่า เดือน ส.ค.43 ดัชนี PMI (Purchasing Managers' Index) ของเยอรมนีที่ปรับฤดูกาลแล้ว ลดลงอยู่ที่ระดับ 58.2 จากระดับ 58.3 ในเดือน ก.ค.43 ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ ที่อยู่เหนือระดับ 50 ชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตอยู่ในภาวะขยายตัว ซึ่งภาคอุตสาหกรรมดังกล่าว อยู่เหนือระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15 โดยในเดือน ส.ค.43 คำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มสูงขึ้นมาก ขณะที่คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกอ่อนตัวลงในระดับต่ำที่สุดนับแต่เดือน ม.ค.43 ชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวของตลาดในประเทศ อย่างไรก็ตาม คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกแม้จะชะลอลงแต่ก็ยังนับว่าอยู่ในระดับที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งเนื่องจากยังได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินยูโรและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญที่ทำให้มีความต้องการสินค้าของเยอรมนีเพิ่มขึ้น (รอยเตอร์1)
3. เงินเฟ้อของ สรอ. มีแนวโน้มลดลงในเดือน ส.ค.43 รายงานจากนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 1 ก.ย.43 Foundation for International Business and Economic Research (FIBER) รายงานว่า เดือน ส.ค.43 ดัชนีชี้นำเงินเฟ้อซึ่งใช้เป็นเครื่องวัดความกดดันเรื่องเงินเฟ้อของ สรอ. ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 101.2 จากตัวเลขปรับใหม่ที่ระดับ 102.4 ในเดือน ก.ค.43 ขณะเดียวกัน Economic Cycle Research Institute (ECRI) รายงานว่า เครื่องวัดภาวะเงินเฟ้อล่วงหน้า (U.S. future inflation gauge = USFIG) ของ สรอ.ในเดือน ส.ค.43 ลดลงอยู่ที่ระดับ 121.1 จากตัวเลขปรับใหม่ที่ระดับ 121.7 ในเดือน ก.ค.43 ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 แต่ก็ยังลดลงในระดับที่ใกล้เคียงกับตัวเลขในเดือน เม.ย.43 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 125.1 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 11 ปี (รอยเตอร์ 1)
4. การใช้จ่ายเพื่อการก่อสร้างของ สรอ. ลดลงร้อยละ 1.6 ในเดือน ก.ค. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 43 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า เดือน ก.ค. 43 การใช้จ่ายเพื่อการก่อสร้าง ที่ปรับตัวเลขตามฤดูกาล ลดลงร้อยละ 1.6 อยู่ที่มูลค่า 789 พัน ล. ดอลลาร์ ต่อปี เทียบกับเดือน มิ.ย. 43 ที่ลดลงร้อยละ 1.3 นับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และลดลงมากสุดในรอบมากกว่า 6 ปี และตรงข้ามกับที่นักเศรษฐศาสตร์จากวอลล์สตรีทเคยคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 อนึ่ง การใช้จ่ายฯที่ลดลง น่าจะชี้ให้เห็นว่า การรณรงค์ของ ธ. กลางในการที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง อย่างมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น โดยปราศจากภาวะเงินเฟ้อ กำลังส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายเพื่อการก่อสร้าง (รอยเตอร์ 1)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 1 ก.ย. 43 40.886 (40.926)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน)ณสิ้นวันทำการ 1 ก.ย.43
ซื้อ 40.6660 (40.7302) ขาย 40.9644 (41.0277)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,300 (5,350) ขาย 5,400 (5,450)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 29.51 (29.57)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.79 (16.79) ดีเซลหมุนเร็ว 13.64 (13.89)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-