1. พันธบัตรรัฐบาลประเภทออมทรัพย์
มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้แก่ผู้มีเงินออม และขยายฐานนักลงทุนสำหรับภาครัฐ
- พันธบัตรอายุ 3 ปี วงเงิน 12,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยกำหนดโดยใช้ค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทน
พันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี ณ สิ้นวันทำการระหว่างวันที่ 2-8 สิงหาคม 2544 บวกร้อยละ 0.15 ต่อปี (ประมาณร้อยละ 4.4-4.5 ต่อปี กระทรวงการคลังจะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนในภายหลัง) ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 24 สิงหาคม 2547 จะขายหรือโอนก่อนครบกำหนดไม่ได้
- พันธบัตรอายุ 5 ปี วงเงิน 8,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยกำหนดโดยใช้ค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ณ สิ้นวันทำการระหว่างวันที่ 2-8 สิงหาคม 2544 บวกร้อยละ 0.25 ต่อปี (ประมาณ 5.15-5.25 ต่อปี กระทรวงการคลังจะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนในภายหลัง)
ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 24 สิงหาคม 2549 จะขายหรือโอนก่อนครบกำหนดไม่ได้
- ผู้มีสิทธิซื้อ
บุคคลธรรมดา
สหกรณ์
มูลนิธิ ที่จดทะเบียนไว้กับกระทรวงมหาดไทย
นิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างอื่น โดยมิได้มุ่งหาประโยชน์มาแบ่งปันกัน
- ราคาหน่วยละ 10,000 บาท ต้องซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาทต่อรุ่น และซื้อทั้ง 2 รุ่นรวมกันสูงสุดไม่เกิน 4,000,000 บาท (สหกรณ์ มูลนิธิ นิติบุคคลฯ ซื้อได้จำนวนเท่าบุคคลธรรมดา)
- จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ในวันถึงกำหนดจ่ายตามที่ระบุไว้ในพันธบัตร โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือกระแสรายวันที่ธนาคารใดก็ได้ตามที่ท่านแจ้งไว้ในใบคำเสนอขอซื้อพันธบัตร
- เสียภาษีดอกเบี้ยตามอัตราที่ประกาศในประมวลรัษฎากร
2. การซื้อพันธบัตรจะต้องใช้เอกสาร ดังนี้
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาทะเบียนบ้าน ที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องแล้ว
สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากของท่านที่ธนาคารประเภทออมทรัพย์ หรือเลขที่บัญชีกระแสรายวัน ที่ท่านต้องการให้นำดอกเบี้ยเข้าบัญชี
สำเนาหนังสือจดทะเบียนจัดตั้งสหกรณ์ มูลนิธิ หรือนิติบุคคลฯ ที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องและประทับตราสหกรณ์ มูลนิธิ หรือนิติบุคคลฯ
หนังสือมอบอำนาจจากผู้มีอำนาจของสหกรณ์ มูลนิธิ หรือนิติบุคคลฯ
กรณีซื้อพันธบัตรเพื่อวางประกันการไฟฟ้านครหลวง ต้องระบุเลขที่เครื่องวัดไฟฟ้า หรือวางประกันไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องระบุสถานที่ใช้ไฟฟ้า
3. สถานที่จำหน่าย
ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ โทร. 0-2299-8000 และสาขาทุกแห่ง
ธนาคารแห่งประเทศไทย :-
ขอนแก่น - สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ส่วนธุรกิจการธนาคาร 0-4333-3000, 0-4333-2852
สงขลา - สำนักงานภาคใต้ : ส่วนธุรกิจการธนาคาร 0-7423-6200 ต่อ 4363, 4354, 4351
เชียงใหม่ - สำนักงานภาคเหนือ : ส่วนธุรกิจการธนาคาร 0-5322-4151, 0-5322-4163
ลำปาง - สาขาจังหวัดลำปาง : ส่วนการธนาคารและธุรการ 0-5422-8013, 0-5422-8014
** ไม่มีการจำหน่ายที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ และสำนักงานสุรวงศ์ **
4. เปิดให้จองซื้อตั้งแต่วันที่ 14-16 สิงหาคม 2544 ประกาศชื่อผู้มีสิทธิซื้อและรายชื่อสำรองวันที่ 20 สิงหาคม 2544
5. การชำระเงิน มี 2 ทางเลือก คือ
5.1 ชำระด้วยเช็ค ณ วันจองโดยขีดคร่อมและสั่งจ่ายธนาคารออมสินในกรณีจองซื้อที่ธนาคารออมสิน และสั่งจ่ายธนาคารแห่งประเทศไทยในกรณีที่จองซื้อที่ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเขียนเช็คลงวันที่ 22 สิงหาคม 2544 และเช็คนั้นจะต้องเป็นเช็คในท้องถิ่นเดียวกับสถานที่จองซื้อ ผู้ที่มิได้รับการประกาศให้มีสิทธิซื้อ จะได้รับเช็คดังกล่าวคืน
5.2 ชำระภายหลังการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิซื้อพันธบัตร โดยชำระเงินได้ 2 วิธี คือ
(1) ชำระด้วยเช็คขีดคร่อมเช่นเดียวกับกรณีที่ 5.1 ในวันที่ 21-22 สิงหาคม 2544
(2) ชำระด้วยเงินสด ภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2544 ซึ่งเป็นวันเริ่มนับอายุพันธบัตร
6. ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงิน
7. การโอนกรรมสิทธิ์ ห้ามโอนเปลี่ยนมือ เว้นแต่
การโอนเพื่อเป็นหลักประกันสาธารณูปโภค หรือเพื่อเป็นประกันตนเองหรือผู้อื่น อันเนื่องมาจากการถูกดำเนินคดีทางอาญา
การตกทอดทางมรดก หรือการแบ่งทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการหย่า
ล้มละลาย หรือการชำระบัญชี
8. การไถ่ถอนเมื่อครบกำหนด
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะส่งคำขอรับคืนต้นเงินให้ท่านกรอกก่อนวันครบกำหนดชำระต้นเงินคืนประมาณ 15 วัน เพื่อดำเนินการไถ่ถอนต่อไป
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้แก่ผู้มีเงินออม และขยายฐานนักลงทุนสำหรับภาครัฐ
- พันธบัตรอายุ 3 ปี วงเงิน 12,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยกำหนดโดยใช้ค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทน
พันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี ณ สิ้นวันทำการระหว่างวันที่ 2-8 สิงหาคม 2544 บวกร้อยละ 0.15 ต่อปี (ประมาณร้อยละ 4.4-4.5 ต่อปี กระทรวงการคลังจะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนในภายหลัง) ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 24 สิงหาคม 2547 จะขายหรือโอนก่อนครบกำหนดไม่ได้
- พันธบัตรอายุ 5 ปี วงเงิน 8,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยกำหนดโดยใช้ค่าเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ณ สิ้นวันทำการระหว่างวันที่ 2-8 สิงหาคม 2544 บวกร้อยละ 0.25 ต่อปี (ประมาณ 5.15-5.25 ต่อปี กระทรวงการคลังจะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนในภายหลัง)
ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 24 สิงหาคม 2549 จะขายหรือโอนก่อนครบกำหนดไม่ได้
- ผู้มีสิทธิซื้อ
บุคคลธรรมดา
สหกรณ์
มูลนิธิ ที่จดทะเบียนไว้กับกระทรวงมหาดไทย
นิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการสาธารณกุศล การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างอื่น โดยมิได้มุ่งหาประโยชน์มาแบ่งปันกัน
- ราคาหน่วยละ 10,000 บาท ต้องซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาทต่อรุ่น และซื้อทั้ง 2 รุ่นรวมกันสูงสุดไม่เกิน 4,000,000 บาท (สหกรณ์ มูลนิธิ นิติบุคคลฯ ซื้อได้จำนวนเท่าบุคคลธรรมดา)
- จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ในวันถึงกำหนดจ่ายตามที่ระบุไว้ในพันธบัตร โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือกระแสรายวันที่ธนาคารใดก็ได้ตามที่ท่านแจ้งไว้ในใบคำเสนอขอซื้อพันธบัตร
- เสียภาษีดอกเบี้ยตามอัตราที่ประกาศในประมวลรัษฎากร
2. การซื้อพันธบัตรจะต้องใช้เอกสาร ดังนี้
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาทะเบียนบ้าน ที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องแล้ว
สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากของท่านที่ธนาคารประเภทออมทรัพย์ หรือเลขที่บัญชีกระแสรายวัน ที่ท่านต้องการให้นำดอกเบี้ยเข้าบัญชี
สำเนาหนังสือจดทะเบียนจัดตั้งสหกรณ์ มูลนิธิ หรือนิติบุคคลฯ ที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องและประทับตราสหกรณ์ มูลนิธิ หรือนิติบุคคลฯ
หนังสือมอบอำนาจจากผู้มีอำนาจของสหกรณ์ มูลนิธิ หรือนิติบุคคลฯ
กรณีซื้อพันธบัตรเพื่อวางประกันการไฟฟ้านครหลวง ต้องระบุเลขที่เครื่องวัดไฟฟ้า หรือวางประกันไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องระบุสถานที่ใช้ไฟฟ้า
3. สถานที่จำหน่าย
ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ โทร. 0-2299-8000 และสาขาทุกแห่ง
ธนาคารแห่งประเทศไทย :-
ขอนแก่น - สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ส่วนธุรกิจการธนาคาร 0-4333-3000, 0-4333-2852
สงขลา - สำนักงานภาคใต้ : ส่วนธุรกิจการธนาคาร 0-7423-6200 ต่อ 4363, 4354, 4351
เชียงใหม่ - สำนักงานภาคเหนือ : ส่วนธุรกิจการธนาคาร 0-5322-4151, 0-5322-4163
ลำปาง - สาขาจังหวัดลำปาง : ส่วนการธนาคารและธุรการ 0-5422-8013, 0-5422-8014
** ไม่มีการจำหน่ายที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ และสำนักงานสุรวงศ์ **
4. เปิดให้จองซื้อตั้งแต่วันที่ 14-16 สิงหาคม 2544 ประกาศชื่อผู้มีสิทธิซื้อและรายชื่อสำรองวันที่ 20 สิงหาคม 2544
5. การชำระเงิน มี 2 ทางเลือก คือ
5.1 ชำระด้วยเช็ค ณ วันจองโดยขีดคร่อมและสั่งจ่ายธนาคารออมสินในกรณีจองซื้อที่ธนาคารออมสิน และสั่งจ่ายธนาคารแห่งประเทศไทยในกรณีที่จองซื้อที่ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเขียนเช็คลงวันที่ 22 สิงหาคม 2544 และเช็คนั้นจะต้องเป็นเช็คในท้องถิ่นเดียวกับสถานที่จองซื้อ ผู้ที่มิได้รับการประกาศให้มีสิทธิซื้อ จะได้รับเช็คดังกล่าวคืน
5.2 ชำระภายหลังการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิซื้อพันธบัตร โดยชำระเงินได้ 2 วิธี คือ
(1) ชำระด้วยเช็คขีดคร่อมเช่นเดียวกับกรณีที่ 5.1 ในวันที่ 21-22 สิงหาคม 2544
(2) ชำระด้วยเงินสด ภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2544 ซึ่งเป็นวันเริ่มนับอายุพันธบัตร
6. ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นนายทะเบียนและตัวแทนการจ่ายเงิน
7. การโอนกรรมสิทธิ์ ห้ามโอนเปลี่ยนมือ เว้นแต่
การโอนเพื่อเป็นหลักประกันสาธารณูปโภค หรือเพื่อเป็นประกันตนเองหรือผู้อื่น อันเนื่องมาจากการถูกดำเนินคดีทางอาญา
การตกทอดทางมรดก หรือการแบ่งทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการหย่า
ล้มละลาย หรือการชำระบัญชี
8. การไถ่ถอนเมื่อครบกำหนด
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะส่งคำขอรับคืนต้นเงินให้ท่านกรอกก่อนวันครบกำหนดชำระต้นเงินคืนประมาณ 15 วัน เพื่อดำเนินการไถ่ถอนต่อไป
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-