มาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมหารือสองฝ่ายกับมาเลเซียครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 9-10 กรกฎาคม 2544 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้เป็นการหารือครั้งสุดท้ายของระยะเวลา 180 วันตามที่ระบุไว้ในพิธีสารว่าด้วยการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามระบบการใช้อัตราภาษีพิเศษที่เท่ากันสำหรับบัญชียกเว้นลดภาษีชั่วคราว โดยมีอธิบดีกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และนาย Mohd Sidek Hassan รองปลัดกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนมาเลเซีย
การประชุมครั้งนี้ ถือได้ว่าไทยประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ เพราะสามารถทำให้มาเลเซียยอมรับสถานะการเป็นผู้ส่งออกรายสำคัญของไทยและการใช้หลักการสถิติย้อนหลัง 3 ปี ซึ่งจะมีผลอย่างสำคัญต่อการคำนวณมูลค่าความเสียหายและการชดเชย
นอกจากนั้น มาเลเซียได้รับที่จะพิจารณาข้อเสนอของไทยเรื่องการชดเชยแล้วแจ้งตอบภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2544 รวมทั้งไทยยังได้สงวนสิทธิ์ที่จะประกาศเจตนาในการเพิกถอนสิทธิประโยชน์ภายใต้อาฟต้าที่ให้แก่มาเลเซียหลังจากครบกำหนด 180 วันในการหารือคือวันที่ 18 กรกฎาคม ศกนี้ ส่วนการดำเนินการต่อไปนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจในคำตอบเรื่องการชดเชยจากมาเลเซีย
อย่างไรก็ดี ได้มีความคืบหน้าประการหนึ่งเกี่ยวกับการชดเชย คือการจัดทำสัญญาซื้อขายชิ้นส่วนยานยนต์ โดยเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ศกนี้ กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสถานอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย ด้วยความร่วมมืออย่างดียิ่งจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) ได้จัดให้มีการพบปะหารือระหว่างผู้แทนจากบริษัทรถยนต์ Perodua ซึ่งป็นบริษัทรถยนต์แห่งชาติอันดับสองของมาเลเซียและคณะผู้ประกอบการสินค้ายานยนต์อื่นๆรวม 9 คนกับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยจำนวน 49 บริษัท เพื่อพิจารณาตกลงทำสัญญาซื้อขายชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย โดยมาเลเซียได้นำข้อเสนอรายละเอียดของบริษัทไทยกลับไปพิจารณาและจะแจ้งผลให้ทราบต่อไป ซึ่งกรมฯจะได้ติดตามผลการพิจารณาอย่างใกล้ชิด
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กรกฎาคม 2544--
-ปส-
การประชุมครั้งนี้ ถือได้ว่าไทยประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ เพราะสามารถทำให้มาเลเซียยอมรับสถานะการเป็นผู้ส่งออกรายสำคัญของไทยและการใช้หลักการสถิติย้อนหลัง 3 ปี ซึ่งจะมีผลอย่างสำคัญต่อการคำนวณมูลค่าความเสียหายและการชดเชย
นอกจากนั้น มาเลเซียได้รับที่จะพิจารณาข้อเสนอของไทยเรื่องการชดเชยแล้วแจ้งตอบภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2544 รวมทั้งไทยยังได้สงวนสิทธิ์ที่จะประกาศเจตนาในการเพิกถอนสิทธิประโยชน์ภายใต้อาฟต้าที่ให้แก่มาเลเซียหลังจากครบกำหนด 180 วันในการหารือคือวันที่ 18 กรกฎาคม ศกนี้ ส่วนการดำเนินการต่อไปนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจในคำตอบเรื่องการชดเชยจากมาเลเซีย
อย่างไรก็ดี ได้มีความคืบหน้าประการหนึ่งเกี่ยวกับการชดเชย คือการจัดทำสัญญาซื้อขายชิ้นส่วนยานยนต์ โดยเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ศกนี้ กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับสถานอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย ด้วยความร่วมมืออย่างดียิ่งจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) ได้จัดให้มีการพบปะหารือระหว่างผู้แทนจากบริษัทรถยนต์ Perodua ซึ่งป็นบริษัทรถยนต์แห่งชาติอันดับสองของมาเลเซียและคณะผู้ประกอบการสินค้ายานยนต์อื่นๆรวม 9 คนกับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยจำนวน 49 บริษัท เพื่อพิจารณาตกลงทำสัญญาซื้อขายชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย โดยมาเลเซียได้นำข้อเสนอรายละเอียดของบริษัทไทยกลับไปพิจารณาและจะแจ้งผลให้ทราบต่อไป ซึ่งกรมฯจะได้ติดตามผลการพิจารณาอย่างใกล้ชิด
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กรกฎาคม 2544--
-ปส-