28/11/44 นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเดินทางไปเยือนประเทศอินเดียว่า ได้มีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของอินเดีย โดยได้เห็นชอบร่วมกันในเรื่องของการจัดตั้งเขตการค้าเสรีไทย-อินเดียซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานร่วมขึ้นมาเพื่อศึกษารายละเอียดของความร่วมมือกันในเรื่องดังกล่าวทันที ส่วนเรื่องของการค้าแบบหักบัญชี หรือ Account Trade นั้นทางอินเดียยินดีที่จะลงนามร่วมกับไทย ขณะที่ความร่วมมือกันในด้านของการค้าข้าวนั้นก็คาดว่าจะไม่มีปัญหาเพราะอินเดียยินดีที่จะร่วมมือกันไทยโดยทั้งสามเรื่องนั้นมีการลงนามในคำประกาศของผู้นำทั้งสองประเทศว่าจะร่วมมือกัน
นายอดิศัยกล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการของรัฐบาลในการทำข้อตกลงร่วมกับเวียดนาม อินเดีย ปากีสถาน และพม่าในการร่วมมือกันค้าข้าวโดยแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันนั้น ส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกดีขึ้น และในช่วงต้นปี 2545 จะเชิญทั้ง 4 ประเทศมาหารือที่ประเทศไทย นอกจากนี้ ได้หารือกับผู้ส่งออกว่าจะเชิญจีนเข้าร่วมด้วย รวมทั้งสหรัฐฯ ที่จะขอความร่วมมือว่าอย่าขายข้าวตัดราคาในตลาด
"ที่ผ่านมาเมื่อผู้นำเข้าจะซื้อข้าวก็มาติดต่อกับผู้ส่งออกของไทย โดยมีการต่อรองราคากับไทยก่อนแล้วก็ไปติดต่อเวียดนามบอกว่าได้ติดต่อกับไทยแล้ว เมื่อเวียดนามรู้และอยากได้ออร์เดอร์ก็ให้ราคาต่ำกว่า แต่วันนี้ไม่มีอย่างนั้นอีกแล้ว หากผู้นำเข้าต้องการซื้อข้าวก็ให้เสนอราคามา เราก็จะหารือกับเวียดนามว่าราคาที่เสนอมาได้หรือไม่ หากรับไม่ได้ก็จะปฏิเสธทั้งคู่"
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายในความร่วมมือดังกล่าวนั้นไม่ได้หมายความว่าทุกประเทศจะต้องจำหน่ายข้าวในราคาเดียวกันทั้งหมด เนื่องจากต้นทุนและคุณภาพข้าวของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน ดังนั้นราคาที่จะจำหน่ายต้องเป็นราคาที่สูงกว่าต้นทุน ซึ่งแนวทางความร่วมมือกันดังกล่าวไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะเอาเปรียบผู้บริโภค และจะไม่มีการฮั้วราคากันอย่างเด็ดขาด แต่สิ่งที่ดำเนินการนั้นก็เพื่อให้ราคาข้าวในตลาดโลกมีความเป็นธรรมมากขึ้น
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ ธันวาคม 2544--
-ปส-
นายอดิศัยกล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการของรัฐบาลในการทำข้อตกลงร่วมกับเวียดนาม อินเดีย ปากีสถาน และพม่าในการร่วมมือกันค้าข้าวโดยแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันนั้น ส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกดีขึ้น และในช่วงต้นปี 2545 จะเชิญทั้ง 4 ประเทศมาหารือที่ประเทศไทย นอกจากนี้ ได้หารือกับผู้ส่งออกว่าจะเชิญจีนเข้าร่วมด้วย รวมทั้งสหรัฐฯ ที่จะขอความร่วมมือว่าอย่าขายข้าวตัดราคาในตลาด
"ที่ผ่านมาเมื่อผู้นำเข้าจะซื้อข้าวก็มาติดต่อกับผู้ส่งออกของไทย โดยมีการต่อรองราคากับไทยก่อนแล้วก็ไปติดต่อเวียดนามบอกว่าได้ติดต่อกับไทยแล้ว เมื่อเวียดนามรู้และอยากได้ออร์เดอร์ก็ให้ราคาต่ำกว่า แต่วันนี้ไม่มีอย่างนั้นอีกแล้ว หากผู้นำเข้าต้องการซื้อข้าวก็ให้เสนอราคามา เราก็จะหารือกับเวียดนามว่าราคาที่เสนอมาได้หรือไม่ หากรับไม่ได้ก็จะปฏิเสธทั้งคู่"
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายในความร่วมมือดังกล่าวนั้นไม่ได้หมายความว่าทุกประเทศจะต้องจำหน่ายข้าวในราคาเดียวกันทั้งหมด เนื่องจากต้นทุนและคุณภาพข้าวของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน ดังนั้นราคาที่จะจำหน่ายต้องเป็นราคาที่สูงกว่าต้นทุน ซึ่งแนวทางความร่วมมือกันดังกล่าวไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะเอาเปรียบผู้บริโภค และจะไม่มีการฮั้วราคากันอย่างเด็ดขาด แต่สิ่งที่ดำเนินการนั้นก็เพื่อให้ราคาข้าวในตลาดโลกมีความเป็นธรรมมากขึ้น
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ ธันวาคม 2544--
-ปส-