กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--ธสน.
แอฟริกาเป็นทวีปใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเอเชียเป็นที่ตั้งของ 53 ประเทศ มีประชากรประมาณ 725 ล้านคน แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มชนผิวดำซึ่งอาศัยอยู่ในภูมิภาคแอฟริกากลาง ตะวันออก ตะวันตก และใต้ (หรือที่เรียกรวมกันว่าบริเวณใต้ทะเลทรายซาฮาร่า) อีกกลุ่มคือชาวอาหรับที่นับถือศาสนาอิสลาม อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของทวีป
ประชาชนในทวีปแอฟริกาส่วนใหญ่ยังยากจน โครงสร้างทางเศรษฐกิจต้องพึ่งพาสินค้าเกษตรกรรมและทรัพยากรแร่ธาตุเป็นหลัก แม้ภูมิประเทศจะสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชงักงัน เนื่องจากปัญหาสังคมและความขัดแย้งทางการเมือง ภัยธรรมชาติ การขาดโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ขาดแคลนสถาบันทางการเงิน ขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์และเทคโนโลยี ผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรและวัตถุดิบในตลาดโลกที่ตกต่ำ รวมถึงปัญหาหนี้สินต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันผลกระทบทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศแอฟริกาที่มีต่อเศรษฐกิจไทยนั้นค่อนข้างน้อยเพราะความสัมพันธ์ระหว่างกันยังไม่มีมาก นักธุรกิจไทยไม่ค่อยให้ความสนใจที่จะทำการค้าหรือเข้าไปลงทุนเนื่องจากเห็นว่าอยู่ห่างไกล มีปัญหาความไม่สงบทางการเมือง และประชาชนยังยากจนทำให้มีอำนาจซื้อต่ำอย่างไรก็ดี และประชาชนยังยากจนทำให้มีอำนาจซื้อต่ำอย่างไรก็ดี อำนาจซื้อต่ำก่อให้เกิดความต้องการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีราคมไม่สูงนัก ซึ่งแม้จะดูเหมือนเป็นข้อด้อยของแอฟริกาแต่เท่ากับเป็นโอกาสของไทยที่จะส่งสินค้าที่มีคุณภาพไม่สูงนักแต่มีราคาถูกเข้าไปเจาะตลาดนี้ได้ นอกจากนี้ แอฟริกายังเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญ อาทิ น้ำมัน ฝ้าย ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี ไม้ สัตว์น้ำ ฯลฯ ประกอบกับหลายประเทศมีการพัฒนาการเมืองมาสู่ระบอบประชาธิปไตยและประสงค์ที่จะทำการค้าและร่วมลงทุนกับประเทศในเอเชีย จึงเป็นโอกาสดีที่ไทยจะเข้าไปแสวงหาวัตถุดิบและตลาดเพื่อขายสินค้า
นอกจากนี้ ไทยยังสามารถใช้แอฟริกาเป็นฐานขยายตลาดสินค้าและการลงทุนเข้าไปในภูมิภาคอื่นด้วย เพราะกลุ่มประเทศแอฟริกาเป็นประเทศในกลุ่ม ACPC (African, Caribbean and Pacific Countries) ซึ่งได้สิทธิพิเศษทางการค้าจากสหภาพยุโรปภายใต้ Lome' Convention โดยสินค้าจากกลุ่มประเทศแอฟริกาสามารถส่งเข้าไปจำหน่ายในตลาดสหภาพยุโรปโดยเสียภาษีในระดับต่ำมาก
ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลายประเทศในภูมิภาคแอฟริกา ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนจากต่างประเทศ และหากพิจารณาถึงข้อได้เปรียบทางด้านทรัพยากรธรรมชาติแล้วนับได้ว่าแอฟริกาเป็นตลาดหนึ่งที่นักธุรกิจไทยไม่ควรมองข้าม
Exim News, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, ปีที่ 6 ฉบับ 6 ประจำเดือน มิถุนายน 2543--
-อน-
แอฟริกาเป็นทวีปใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเอเชียเป็นที่ตั้งของ 53 ประเทศ มีประชากรประมาณ 725 ล้านคน แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มชนผิวดำซึ่งอาศัยอยู่ในภูมิภาคแอฟริกากลาง ตะวันออก ตะวันตก และใต้ (หรือที่เรียกรวมกันว่าบริเวณใต้ทะเลทรายซาฮาร่า) อีกกลุ่มคือชาวอาหรับที่นับถือศาสนาอิสลาม อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของทวีป
ประชาชนในทวีปแอฟริกาส่วนใหญ่ยังยากจน โครงสร้างทางเศรษฐกิจต้องพึ่งพาสินค้าเกษตรกรรมและทรัพยากรแร่ธาตุเป็นหลัก แม้ภูมิประเทศจะสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชงักงัน เนื่องจากปัญหาสังคมและความขัดแย้งทางการเมือง ภัยธรรมชาติ การขาดโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ขาดแคลนสถาบันทางการเงิน ขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์และเทคโนโลยี ผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรและวัตถุดิบในตลาดโลกที่ตกต่ำ รวมถึงปัญหาหนี้สินต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันผลกระทบทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศแอฟริกาที่มีต่อเศรษฐกิจไทยนั้นค่อนข้างน้อยเพราะความสัมพันธ์ระหว่างกันยังไม่มีมาก นักธุรกิจไทยไม่ค่อยให้ความสนใจที่จะทำการค้าหรือเข้าไปลงทุนเนื่องจากเห็นว่าอยู่ห่างไกล มีปัญหาความไม่สงบทางการเมือง และประชาชนยังยากจนทำให้มีอำนาจซื้อต่ำอย่างไรก็ดี และประชาชนยังยากจนทำให้มีอำนาจซื้อต่ำอย่างไรก็ดี อำนาจซื้อต่ำก่อให้เกิดความต้องการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีราคมไม่สูงนัก ซึ่งแม้จะดูเหมือนเป็นข้อด้อยของแอฟริกาแต่เท่ากับเป็นโอกาสของไทยที่จะส่งสินค้าที่มีคุณภาพไม่สูงนักแต่มีราคาถูกเข้าไปเจาะตลาดนี้ได้ นอกจากนี้ แอฟริกายังเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญ อาทิ น้ำมัน ฝ้าย ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี ไม้ สัตว์น้ำ ฯลฯ ประกอบกับหลายประเทศมีการพัฒนาการเมืองมาสู่ระบอบประชาธิปไตยและประสงค์ที่จะทำการค้าและร่วมลงทุนกับประเทศในเอเชีย จึงเป็นโอกาสดีที่ไทยจะเข้าไปแสวงหาวัตถุดิบและตลาดเพื่อขายสินค้า
นอกจากนี้ ไทยยังสามารถใช้แอฟริกาเป็นฐานขยายตลาดสินค้าและการลงทุนเข้าไปในภูมิภาคอื่นด้วย เพราะกลุ่มประเทศแอฟริกาเป็นประเทศในกลุ่ม ACPC (African, Caribbean and Pacific Countries) ซึ่งได้สิทธิพิเศษทางการค้าจากสหภาพยุโรปภายใต้ Lome' Convention โดยสินค้าจากกลุ่มประเทศแอฟริกาสามารถส่งเข้าไปจำหน่ายในตลาดสหภาพยุโรปโดยเสียภาษีในระดับต่ำมาก
ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลายประเทศในภูมิภาคแอฟริกา ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนจากต่างประเทศ และหากพิจารณาถึงข้อได้เปรียบทางด้านทรัพยากรธรรมชาติแล้วนับได้ว่าแอฟริกาเป็นตลาดหนึ่งที่นักธุรกิจไทยไม่ควรมองข้าม
Exim News, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, ปีที่ 6 ฉบับ 6 ประจำเดือน มิถุนายน 2543--
-อน-