1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
นโยบายและมาตรการข้าวปี 2542/43 ในส่วนของกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ ได้แก่ โครงการเชื่อมโยงสินเชื่อเพื่อการผลิตและบริการตลาดข้าวของสหกรณ์ ปีการผลิต 2542/43 ซึ่งผลการรวบรวมข้าวเปลือก ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2542- 31 พฤษภาคม 2543 มีปริมาณรวม 307,759 ตัน มูลค่า 1,774.33 ล้านบาท
ส่วนการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของ ธกส. ปีการผลิต 2542/43 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2542 ถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2543 มีจำนวน 119,811 ราย ปริมาณข้าว 682,554 ตัน มูลค่า 3,409.03 ล้านบาท
ไทยผลิตเครื่องหยอดข้าวได้สำเร็จ
นายสุรเวทย์ กฤษณะเศรณี ผู้อำนวยการกองเกษตรวิศวกรรม กรมวิชาการเกษตร รายงานว่า ขณะนี้ กองเกษตรวิศวกรรมประสบความสำเร็จในการสร้างเครื่องหยอดข้าว โดยใช้เวลาในวิจัยและพัฒนาถึง 3 ปี และได้ออกแบบ 2 รุ่น คือ รุ่นติดพ่วงรถแทรกเตอร์ขนาด 60-70 แรงม้า มีขีดความสามารถในการหยอดเมล็ดข้าวได้ประมาณ 10-20 ไร่ต่อวัน และรุ่นติดพ่วงในรถไถเดินตามสามารถหยอดข้าวได้ 2-4 ไร่/วัน
สำหรับพื้นที่ที่เหมาะสมในการใช้เครื่องหยอดข้าวนั้นจะเป็นพื้นที่นาดอนโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจากการนำไปทดลองใช้ในแปลงนาของเกษตรกร ที่ทุ่งกุลาร้องไห้ จ.ร้อยเอ็ด โดยได้ใช้เครื่องหยอดข้าวทำการปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 พบว่า ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวเพียง 10 กก./ไร่ แต่ให้ผลผลิตสูงถึง 445 กก./ไร่ และยังสามารถกำจัดวัชพืชได้ง่ายอีกด้วยทำให้ต้นทุนการผลิตข้าวของเกษตรกรลดลง
ทั้งนี้ หากเกษตรกรปลูกข้าวโดยใช้วิธีการปลูกแบบหว่านข้าวแห้งฝังกลบนั้นต้องใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวถึง 20 กก./ไร่ แต่ได้ผลผลิตเพียงแค่ 350 กก./ไร่ เท่านั้น รวมทั้งยังมีปัญหาเรื่องการกำจัดวัชพืชอีกด้วย นอกจากนี้หากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง การทำนาดำหรือนาหว่าน จะสร้างความเสียหายให้แก่ข้าวค่อนข้างสูง ในขณะที่การปลูกข้าวด้วยเครื่องหยอดข้าว ดังกล่าวนอกจากจะปลูกข้าวได้อย่างรวดเร็วแล้ว หากเกิดภาวะฝน ทิ้งช่วงในภายหลังเมล็ดที่หยอดลงไปนั้นจะอยู่ได้นานนับเดือน โดยที่เปอร์เซ็นต์ความงอกไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด
เครื่องหยอดข้าวดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบขั้นสุดท้าย คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้แน่นอน หลังจากนั้นก็จะนำไปถ่ายทอดเทคโนโลยีให้บริษัทเอกชนที่มีความชำนาญงาน นำไปผลิตเพื่อจำหน่ายให้เกษตรกร ต่อไป โดยราคาเมื่อนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์แล้ว รุ่นติดพ่วงรถแทรกเตอร์จะมีราคาประมาณ 40,000 บาท ส่วนรุ่นติดพ่วงรถไถเดินตามจะมีราคาประมาณ 8,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เกษตรกรยอมรับได้
ภาวะการซื้อขายข้าวในช่วงสัปดาห์นี้ ราคามีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้เนื่องจากผู้ซื้อข้าวเพื่อการส่งออกยังรีรอในการรับซื้อ เนื่องจากปริมาณการส่งมอบให้ลูกค้ายังมีไม่มากนักเป็น lot เล็ก ๆ ประกอบกับเรือของลูกค้าที่ส่งมารับมอบข้าวก็ยังมีไม่มาก
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 7 มิถุนายน 2543 ไทยส่งออกข้าวรวม 2,542,201 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 2,416,266 ตัน ของการส่งออกช่วงระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.21ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 7,464 บาท ลดลงจากเกวียนละ 7,502 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.51
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี 5% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 4,757 บาท ลดลงจากเกวียนละ 4,868 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.34
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปรัง ความชื้น 18-19% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 3,845 บาท ลดลงจากเกวียนละ 3,893 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.23 ราคาข้าวเปลือกเจ้าที่ท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี 5% ที่ท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์ สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 4,750 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้เฉลี่ย ตันละ 6,960 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 215 ดอลลาร์สหรัฐฯ (8,336 บาท/ตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน แต่ลดลงในรูปของเงินบาทตันละ 43 บาท2. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในต่างประเทศ ราคาข้าวในตลาดโลก
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ประกาศราคาข้าวในตลาดโลก ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2543 เทียบกับที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2543 ดังนี้
ข้าวเมล็ดยาวปอนด์ละ 7.01 เซนต์ (5.98 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวเมล็ดกลางปอนด์ละ 6.20 เซนต์ (5.29 บาท/กก.) ราคาทรงตัว เท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวเมล็ดสั้นปอนด์ละ 6.52 เซนต์ (5.33 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวหักปอนด์ละ 3.51 เซนต์ (2.99 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 38.77 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 20 ประจำวันที่ 5 - 11 มิ.ย. 2543--
-สส-
นโยบายและมาตรการข้าวปี 2542/43 ในส่วนของกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ ได้แก่ โครงการเชื่อมโยงสินเชื่อเพื่อการผลิตและบริการตลาดข้าวของสหกรณ์ ปีการผลิต 2542/43 ซึ่งผลการรวบรวมข้าวเปลือก ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2542- 31 พฤษภาคม 2543 มีปริมาณรวม 307,759 ตัน มูลค่า 1,774.33 ล้านบาท
ส่วนการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของ ธกส. ปีการผลิต 2542/43 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2542 ถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2543 มีจำนวน 119,811 ราย ปริมาณข้าว 682,554 ตัน มูลค่า 3,409.03 ล้านบาท
ไทยผลิตเครื่องหยอดข้าวได้สำเร็จ
นายสุรเวทย์ กฤษณะเศรณี ผู้อำนวยการกองเกษตรวิศวกรรม กรมวิชาการเกษตร รายงานว่า ขณะนี้ กองเกษตรวิศวกรรมประสบความสำเร็จในการสร้างเครื่องหยอดข้าว โดยใช้เวลาในวิจัยและพัฒนาถึง 3 ปี และได้ออกแบบ 2 รุ่น คือ รุ่นติดพ่วงรถแทรกเตอร์ขนาด 60-70 แรงม้า มีขีดความสามารถในการหยอดเมล็ดข้าวได้ประมาณ 10-20 ไร่ต่อวัน และรุ่นติดพ่วงในรถไถเดินตามสามารถหยอดข้าวได้ 2-4 ไร่/วัน
สำหรับพื้นที่ที่เหมาะสมในการใช้เครื่องหยอดข้าวนั้นจะเป็นพื้นที่นาดอนโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจากการนำไปทดลองใช้ในแปลงนาของเกษตรกร ที่ทุ่งกุลาร้องไห้ จ.ร้อยเอ็ด โดยได้ใช้เครื่องหยอดข้าวทำการปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 พบว่า ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวเพียง 10 กก./ไร่ แต่ให้ผลผลิตสูงถึง 445 กก./ไร่ และยังสามารถกำจัดวัชพืชได้ง่ายอีกด้วยทำให้ต้นทุนการผลิตข้าวของเกษตรกรลดลง
ทั้งนี้ หากเกษตรกรปลูกข้าวโดยใช้วิธีการปลูกแบบหว่านข้าวแห้งฝังกลบนั้นต้องใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวถึง 20 กก./ไร่ แต่ได้ผลผลิตเพียงแค่ 350 กก./ไร่ เท่านั้น รวมทั้งยังมีปัญหาเรื่องการกำจัดวัชพืชอีกด้วย นอกจากนี้หากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง การทำนาดำหรือนาหว่าน จะสร้างความเสียหายให้แก่ข้าวค่อนข้างสูง ในขณะที่การปลูกข้าวด้วยเครื่องหยอดข้าว ดังกล่าวนอกจากจะปลูกข้าวได้อย่างรวดเร็วแล้ว หากเกิดภาวะฝน ทิ้งช่วงในภายหลังเมล็ดที่หยอดลงไปนั้นจะอยู่ได้นานนับเดือน โดยที่เปอร์เซ็นต์ความงอกไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด
เครื่องหยอดข้าวดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบขั้นสุดท้าย คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้แน่นอน หลังจากนั้นก็จะนำไปถ่ายทอดเทคโนโลยีให้บริษัทเอกชนที่มีความชำนาญงาน นำไปผลิตเพื่อจำหน่ายให้เกษตรกร ต่อไป โดยราคาเมื่อนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์แล้ว รุ่นติดพ่วงรถแทรกเตอร์จะมีราคาประมาณ 40,000 บาท ส่วนรุ่นติดพ่วงรถไถเดินตามจะมีราคาประมาณ 8,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เกษตรกรยอมรับได้
ภาวะการซื้อขายข้าวในช่วงสัปดาห์นี้ ราคามีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้เนื่องจากผู้ซื้อข้าวเพื่อการส่งออกยังรีรอในการรับซื้อ เนื่องจากปริมาณการส่งมอบให้ลูกค้ายังมีไม่มากนักเป็น lot เล็ก ๆ ประกอบกับเรือของลูกค้าที่ส่งมารับมอบข้าวก็ยังมีไม่มาก
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 7 มิถุนายน 2543 ไทยส่งออกข้าวรวม 2,542,201 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 2,416,266 ตัน ของการส่งออกช่วงระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.21ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 7,464 บาท ลดลงจากเกวียนละ 7,502 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.51
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี 5% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 4,757 บาท ลดลงจากเกวียนละ 4,868 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.34
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปรัง ความชื้น 18-19% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 3,845 บาท ลดลงจากเกวียนละ 3,893 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.23 ราคาข้าวเปลือกเจ้าที่ท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี 5% ที่ท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์ สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 4,750 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้เฉลี่ย ตันละ 6,960 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 215 ดอลลาร์สหรัฐฯ (8,336 บาท/ตัน) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน แต่ลดลงในรูปของเงินบาทตันละ 43 บาท2. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในต่างประเทศ ราคาข้าวในตลาดโลก
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ประกาศราคาข้าวในตลาดโลก ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2543 เทียบกับที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2543 ดังนี้
ข้าวเมล็ดยาวปอนด์ละ 7.01 เซนต์ (5.98 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวเมล็ดกลางปอนด์ละ 6.20 เซนต์ (5.29 บาท/กก.) ราคาทรงตัว เท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวเมล็ดสั้นปอนด์ละ 6.52 เซนต์ (5.33 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวหักปอนด์ละ 3.51 เซนต์ (2.99 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 38.77 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 20 ประจำวันที่ 5 - 11 มิ.ย. 2543--
-สส-