กรุงเทพฯ--28 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (26 กันยายน 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการหารือระหว่างนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีไทย และ ดร. เอมิล คอนสแตนติเนสคู ประธานาธิบดีโรมาเนีย ในโอกาสที่มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 26-27 กันยายน 2543 ว่า การเยือนในครั้งนี้ถือ เป็นการเยือนครั้งแรกของผู้นำระดับสูงของโรมาเนีย และเป็นอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยที่ผ่านมา ฝ่ายโรมาเนียเองก็เคยได้ถวายการต้อนรับพระราชวงค์ชั้นสูงของไทยในการเสด็จเยือนโรมาเนียอย่างสมพระเกียรติ
ในขณะนี้ โรมาเนียเน้นนโยบายต่างประเทศในสามภูมิภาคที่สำคัญคือ
1) ยุโรปตะวันตก โดยการพยายามเข้าร่วมเป็นสมาชิกประชาคมยุโรป และองค์การนาโต้
2) ยุโรปตะวันออก และยุโรปกลาง ซึ่งถือเป็นเสาหลักของความมั่นคงของโรมาเนีย โดยพยายามสร้างเสถียรภาพให้เกิดขึ้นในภูมิภาคดังกล่าว และ
3) เอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งแม้ว่าระยะทางจะห่างไกลกัน แต่โรมาเนียก็ตระหนักถึงศักยภาพและความสำคัญทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ ดังนั้น การมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ จึงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายหลักของโรมาเนียที่จะมาทำความ คุ้นเคยกับประเทศไทยซึ่งมีบทบาทสำคัญประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
ผู้นำของประเทศทั้งสองได้หารือถึงการเปิดเส้นทางการบินระหว่างกรุงเทพฯ - บูคาเรสต์ของโรมาเนียซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ แม้ว่าจะมีประชากรเพียง 23 ล้านคน แต่หากรวมไปถึงกลุ่มประเทศในยุโรปตะวันออกและยุโรปกลางก็จะมีประชากรรวมกว่า 200 ล้านคน อีกทั้งโรมาเนียยังมีท่าเรือที่สำคัญทั้งในทะเลดำและแม่น้ำดานูบ
นอกจากนี้ โรมาเนียยังได้สนุบสนุนไทยในการสมัครเข้าร่วมเป็น “หุ้นส่วนของความร่วมมือ” (Partners for Cooperation) ขององค์การว่าด้วยความมั่งคงและความร่วมมือใน ยุโรป (Organization for Security and Cooperation in Europe — OSCE) และได้แจ้งให้ฝ่ายไทยทราบว่า โรมาเนียมีพัฒนาการในทางการเมืองอย่างมากภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสมัครเข้าเป็นสมาชิกประชาคมยุโรปโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2007 ซึ่งต้องปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ให้สอดคล้องกับกฎหมายของประชาคมยุโรป โดยได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 65 เปอร์เซนต์ ดังนั้น ฝ่ายไทยไม่จำเป็นต้องศึกษากฎหมายของโรมาเนียอย่างลึกซึ้ง แต่สามารถใช้กฎหมายของประเทศสมาชิกยุโรปได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความสะดวกสำหรับการค้าระหว่างสองประเทศต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
วันนี้ (26 กันยายน 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการหารือระหว่างนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีไทย และ ดร. เอมิล คอนสแตนติเนสคู ประธานาธิบดีโรมาเนีย ในโอกาสที่มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 26-27 กันยายน 2543 ว่า การเยือนในครั้งนี้ถือ เป็นการเยือนครั้งแรกของผู้นำระดับสูงของโรมาเนีย และเป็นอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยที่ผ่านมา ฝ่ายโรมาเนียเองก็เคยได้ถวายการต้อนรับพระราชวงค์ชั้นสูงของไทยในการเสด็จเยือนโรมาเนียอย่างสมพระเกียรติ
ในขณะนี้ โรมาเนียเน้นนโยบายต่างประเทศในสามภูมิภาคที่สำคัญคือ
1) ยุโรปตะวันตก โดยการพยายามเข้าร่วมเป็นสมาชิกประชาคมยุโรป และองค์การนาโต้
2) ยุโรปตะวันออก และยุโรปกลาง ซึ่งถือเป็นเสาหลักของความมั่นคงของโรมาเนีย โดยพยายามสร้างเสถียรภาพให้เกิดขึ้นในภูมิภาคดังกล่าว และ
3) เอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งแม้ว่าระยะทางจะห่างไกลกัน แต่โรมาเนียก็ตระหนักถึงศักยภาพและความสำคัญทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ ดังนั้น การมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ จึงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายหลักของโรมาเนียที่จะมาทำความ คุ้นเคยกับประเทศไทยซึ่งมีบทบาทสำคัญประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
ผู้นำของประเทศทั้งสองได้หารือถึงการเปิดเส้นทางการบินระหว่างกรุงเทพฯ - บูคาเรสต์ของโรมาเนียซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ แม้ว่าจะมีประชากรเพียง 23 ล้านคน แต่หากรวมไปถึงกลุ่มประเทศในยุโรปตะวันออกและยุโรปกลางก็จะมีประชากรรวมกว่า 200 ล้านคน อีกทั้งโรมาเนียยังมีท่าเรือที่สำคัญทั้งในทะเลดำและแม่น้ำดานูบ
นอกจากนี้ โรมาเนียยังได้สนุบสนุนไทยในการสมัครเข้าร่วมเป็น “หุ้นส่วนของความร่วมมือ” (Partners for Cooperation) ขององค์การว่าด้วยความมั่งคงและความร่วมมือใน ยุโรป (Organization for Security and Cooperation in Europe — OSCE) และได้แจ้งให้ฝ่ายไทยทราบว่า โรมาเนียมีพัฒนาการในทางการเมืองอย่างมากภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสมัครเข้าเป็นสมาชิกประชาคมยุโรปโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2007 ซึ่งต้องปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ให้สอดคล้องกับกฎหมายของประชาคมยุโรป โดยได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 65 เปอร์เซนต์ ดังนั้น ฝ่ายไทยไม่จำเป็นต้องศึกษากฎหมายของโรมาเนียอย่างลึกซึ้ง แต่สามารถใช้กฎหมายของประเทศสมาชิกยุโรปได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความสะดวกสำหรับการค้าระหว่างสองประเทศต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-