'อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ' เตรียมนำทีมคณะผู้บริหาร — ส.ส. 3 จังหวัดชายแดนใต้ ลงพื้นที่ถามความต้องการของประชาชนชายแดนใต้ เพื่อนำข้อมูลที่ได้เสนอต่อนายกฯ ยืนยัน พร้อมร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อให้สันติสุขคืนสู่ภาคใต้
วันนี้(11 ก.พ.48) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการเรียกประชุมว่าที่ ส.ส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใน ที่ล่าสุดรัฐบาลกลับออกมายืนยันจัดการปัญหาด้วยแนวทางเดิม ทั้งที่ประชาชนไม่พอใจ โดยเมื่อเวลา 11.30น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการหัวหน้าพรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รักษาการเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยว่าที่ ส.ส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมแถลงภายหลังการประชุม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้อย่างท้วมท้น ดังนั้นพรรคฯจึงอยากจะแสดงความขอบคุณโดยการสนองตอบเจตนารมย์ของประชาชนในพื้นที่ ที่ต้องการให้สันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่ ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นว่าสิ่งที่พรรคจะทำเป็นอันดับแรกหลังจากที่กรรมการการเลือกตั้งรับรองส.ส.แล้วคือ การลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อนำเสนอข้อคิดเห็นต่อรัฐบาล ซึ่งตนอยากฝากไปยังรัฐบาลและตัวนายกฯว่า พรรคประชาธิปัตย์นั้นต้องการให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหา
‘เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการประกาศรับรองส.ส.แล้ว ผู้บริหารของพรรคจะไปทำกิจกรรมในพื้นที่ เพื่อประมวลมาเป็นข้อเสนอในเชิงนโยบายต่อรัฐบาล และถือว่าจะเป็นการทำงานในฐานะพรคฝ่ายค้านในรูปแบบการเสมืองที่เราคิดว่าสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์สำหรับอนาคตด้วย’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ปัญหาความไม่สงบภาคใต้ ไม่ใช่ปัญหาในพื้นที่แต่เพียงอย่างเดียว แต่ถือเป็นปัญหาระดับชาติที่นายกฯต้องเปิดใจให้กว้าง ซึ่งหากนายกฯยืนยันที่จะใช้วิธีการแก้ปัญหาเดิมก็เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ส่วนนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่รัฐบาลจะนำแนวทางที่ประชาชนเสนอมายังพรรคประชาธิปัตย์ไปปรับปรุงแก้ไขการทำงานของรัฐบาลเพื่อให้เกิดสันติสุข ซึ่งขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ตามขอเสนอเอกสาร ‘คำประกาศปัตตานี’ ซึ่งเป็นเอกสารที่พรรคประชาธิปัตย์จัดทำขึ้น เพื่อให้รัฐบาลได้พิจารณา
‘อยากให้นายกฯคำนึงถึงการแสดงออกของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง เหมือนกับที่ท่านได้พูดเสมอว่า ประชาชนในพื้นที่ได้ให้การสนับสนุนในการเลือกตั้ง เพราะพึงพอใจในนโยบายของรัฐบาล ในกรณีของพื้นที่ที่เกี่ยวข้องตรงนี้ก็อยากให้ท่านได้มองเห็นว่า มันมีช่องว่างอยู่ ระหว่างประชาชนในพื้นที่กับรัฐบาล เพราะว่าการตัดสินใจในการเลือกตั้งก็แสดงออกถึงความไม่พึงพอใจในสภาพที่เป็นอยู่ อยากให้เปิดใจกว้าง ไม่ต้องกังวลว่าท่านไม่มีส.ส.ในพื้นที่ เพราะส.ส.ในพื้นที่ตรงนี้ตระหนักสูงสุดคือ ความต้องการของประชาชน ไม่ได้คิดถึงเรื่องของพรรคการเมืองที่ต้องการทำงานเพื่อประชาชน เพื่อนำสันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ผู้บริหารพรรคจะเดินทางไปพบนายกฯด้วยตนเอง เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากประชาชนไปเสนอต่อนายกฯหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก่อนจะไปพบนายกฯจะไปพบประชาชนก่อน ซึ่งคิดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะถือว่าประชาชนได้แสดงออกในการเลือกตั้งแล้วระดับหนึ่ง แต่การพบประชาชนครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการยืนยันให้เกิดความมั่นใจว่า สิ่งที่พรรคได้เคยประกาศไว้ในช่วงการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่เป็นความเชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ สำหรับกรอบเวลาของการพบปะประชาชนครั้งนี้จะต้องในเรื่องของจังหวะเวลา เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบว่ารัฐบาลจะมีกรอบเวลาในการตั้งคณะรัฐมนตรีและร่างนโยบายอย่างไร แต่ในส่วนของรูปแบบนั้น พรรคประชาธิปัตย์คิดว่ารูปแบบใดที่รัฐบาลสบายใจ เราก็พร้อม เพราะถือว่ารูปแบบไม่ใช่เป้าหมาย แต่เป้าหมายของพรรคประชาธิปัตย์คือ ทำอย่างไรให้เสียงของประชาชนสะท้อนไปยังผู้บริหารของประเทศ
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้การเคลื่อนไหวครั้งนี้ เพียงพอที่จะทำให้เกิดสันติสุขได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความสามารถขอฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ตอนนี้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ดังนั้นในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการคัดเลือกมาจากประชาชน เราก็จะทำหน้าที่ของเรา ฝ่ายบริหารเมื่อมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการดำเนินนโยบายก็ต้องทำในส่วนนั้น แต่สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการอยากเห็นคือ ทำอย่างไรให้ผลประโยชน์สูงสุดตกอยู่กับประเทศชาติ และสนองตอบเจตนารมย์ของคนในพื้นที่
ต่อข้อถามว่านายกฯควรรับฟังความเห็นที่ฝ่ายค้านเสนอและปรับปรุงแนวทางหรือไม่ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนไม่มีสิทธิให้นายกฯเชื่อฟัง แต่ก็ขอให้รับฟัง เพราะส่วนนี้ใช่ความเห็นของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นความเห็นของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้รับมอบหมายมาจากประชาชนในพื้นที่ ‘ผมพร้อม แต่อันนี้ต้องถามท่านนายกฯด้วย แต่ผมบอกแล้วว่าจะทำในรูปแบบที่ท่านสบายใจ เพราะคนทำงานเราก็ต้องเข้าใจ ท่านก็อาจจะมีข้อมูลหรืออื่นๆ ก็ไม่มีปัญหา เพราะเป้าหมายเราคือทำอย่างไรให้เกิดความสงบสุขได้ เพราะปัญหานี้ถือเป็นปัญหาเร่งด่วน’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 ก.พ. 2548--จบ--
-ดท-
วันนี้(11 ก.พ.48) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการเรียกประชุมว่าที่ ส.ส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใน ที่ล่าสุดรัฐบาลกลับออกมายืนยันจัดการปัญหาด้วยแนวทางเดิม ทั้งที่ประชาชนไม่พอใจ โดยเมื่อเวลา 11.30น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการหัวหน้าพรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รักษาการเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยว่าที่ ส.ส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมแถลงภายหลังการประชุม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้อย่างท้วมท้น ดังนั้นพรรคฯจึงอยากจะแสดงความขอบคุณโดยการสนองตอบเจตนารมย์ของประชาชนในพื้นที่ ที่ต้องการให้สันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่ ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นว่าสิ่งที่พรรคจะทำเป็นอันดับแรกหลังจากที่กรรมการการเลือกตั้งรับรองส.ส.แล้วคือ การลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อนำเสนอข้อคิดเห็นต่อรัฐบาล ซึ่งตนอยากฝากไปยังรัฐบาลและตัวนายกฯว่า พรรคประชาธิปัตย์นั้นต้องการให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหา
‘เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการประกาศรับรองส.ส.แล้ว ผู้บริหารของพรรคจะไปทำกิจกรรมในพื้นที่ เพื่อประมวลมาเป็นข้อเสนอในเชิงนโยบายต่อรัฐบาล และถือว่าจะเป็นการทำงานในฐานะพรคฝ่ายค้านในรูปแบบการเสมืองที่เราคิดว่าสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์สำหรับอนาคตด้วย’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ปัญหาความไม่สงบภาคใต้ ไม่ใช่ปัญหาในพื้นที่แต่เพียงอย่างเดียว แต่ถือเป็นปัญหาระดับชาติที่นายกฯต้องเปิดใจให้กว้าง ซึ่งหากนายกฯยืนยันที่จะใช้วิธีการแก้ปัญหาเดิมก็เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ส่วนนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่รัฐบาลจะนำแนวทางที่ประชาชนเสนอมายังพรรคประชาธิปัตย์ไปปรับปรุงแก้ไขการทำงานของรัฐบาลเพื่อให้เกิดสันติสุข ซึ่งขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ตามขอเสนอเอกสาร ‘คำประกาศปัตตานี’ ซึ่งเป็นเอกสารที่พรรคประชาธิปัตย์จัดทำขึ้น เพื่อให้รัฐบาลได้พิจารณา
‘อยากให้นายกฯคำนึงถึงการแสดงออกของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง เหมือนกับที่ท่านได้พูดเสมอว่า ประชาชนในพื้นที่ได้ให้การสนับสนุนในการเลือกตั้ง เพราะพึงพอใจในนโยบายของรัฐบาล ในกรณีของพื้นที่ที่เกี่ยวข้องตรงนี้ก็อยากให้ท่านได้มองเห็นว่า มันมีช่องว่างอยู่ ระหว่างประชาชนในพื้นที่กับรัฐบาล เพราะว่าการตัดสินใจในการเลือกตั้งก็แสดงออกถึงความไม่พึงพอใจในสภาพที่เป็นอยู่ อยากให้เปิดใจกว้าง ไม่ต้องกังวลว่าท่านไม่มีส.ส.ในพื้นที่ เพราะส.ส.ในพื้นที่ตรงนี้ตระหนักสูงสุดคือ ความต้องการของประชาชน ไม่ได้คิดถึงเรื่องของพรรคการเมืองที่ต้องการทำงานเพื่อประชาชน เพื่อนำสันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ผู้บริหารพรรคจะเดินทางไปพบนายกฯด้วยตนเอง เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากประชาชนไปเสนอต่อนายกฯหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก่อนจะไปพบนายกฯจะไปพบประชาชนก่อน ซึ่งคิดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะถือว่าประชาชนได้แสดงออกในการเลือกตั้งแล้วระดับหนึ่ง แต่การพบประชาชนครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการยืนยันให้เกิดความมั่นใจว่า สิ่งที่พรรคได้เคยประกาศไว้ในช่วงการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่เป็นความเชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ สำหรับกรอบเวลาของการพบปะประชาชนครั้งนี้จะต้องในเรื่องของจังหวะเวลา เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบว่ารัฐบาลจะมีกรอบเวลาในการตั้งคณะรัฐมนตรีและร่างนโยบายอย่างไร แต่ในส่วนของรูปแบบนั้น พรรคประชาธิปัตย์คิดว่ารูปแบบใดที่รัฐบาลสบายใจ เราก็พร้อม เพราะถือว่ารูปแบบไม่ใช่เป้าหมาย แต่เป้าหมายของพรรคประชาธิปัตย์คือ ทำอย่างไรให้เสียงของประชาชนสะท้อนไปยังผู้บริหารของประเทศ
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้การเคลื่อนไหวครั้งนี้ เพียงพอที่จะทำให้เกิดสันติสุขได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความสามารถขอฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ตอนนี้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ดังนั้นในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการคัดเลือกมาจากประชาชน เราก็จะทำหน้าที่ของเรา ฝ่ายบริหารเมื่อมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการดำเนินนโยบายก็ต้องทำในส่วนนั้น แต่สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการอยากเห็นคือ ทำอย่างไรให้ผลประโยชน์สูงสุดตกอยู่กับประเทศชาติ และสนองตอบเจตนารมย์ของคนในพื้นที่
ต่อข้อถามว่านายกฯควรรับฟังความเห็นที่ฝ่ายค้านเสนอและปรับปรุงแนวทางหรือไม่ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนไม่มีสิทธิให้นายกฯเชื่อฟัง แต่ก็ขอให้รับฟัง เพราะส่วนนี้ใช่ความเห็นของพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นความเห็นของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้รับมอบหมายมาจากประชาชนในพื้นที่ ‘ผมพร้อม แต่อันนี้ต้องถามท่านนายกฯด้วย แต่ผมบอกแล้วว่าจะทำในรูปแบบที่ท่านสบายใจ เพราะคนทำงานเราก็ต้องเข้าใจ ท่านก็อาจจะมีข้อมูลหรืออื่นๆ ก็ไม่มีปัญหา เพราะเป้าหมายเราคือทำอย่างไรให้เกิดความสงบสุขได้ เพราะปัญหานี้ถือเป็นปัญหาเร่งด่วน’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 11 ก.พ. 2548--จบ--
-ดท-