บริษัทวีซ่าอินเตอร์เนชั่นแนลสหรัฐอเมริกา มีแผนจะยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลญี่ปุ่นหันมาใช้ระบบชำระเงิน หรือโอนเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ในกองทุนต่างๆ ของรัฐบาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปริมาณธุรกรรมทางการเงินให้สูงขึ้น ทั้งนี้ เพราะปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐของประเทศญี่ปุ่นยังคงใช้สื่อชำระเงิน Paper Based ในการชำระหนี้ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกองทุนของรัฐบาล ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการฉ้อโกงในประเทศญี่ปุ่นซึ่งอยู่ในขั้นวิกฤต โดยการสนับสนุนให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นหันมาใช้วิธีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านทางระบบการ์ดอิเล็กทรอนิกส์แทน ยิ่งไปกว่านั้น การค้าขายผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตในปัจจุบันก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก และจำเป็นต้องผูกพันอยู่กับระบบการ์ดอิเล็กทรอนิกส์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุนี้บริษัทวีซ่าและบริษัทสมาชิก รวมทั้งองค์กรธุรกิจที่เกี่ยวข้อง จึงต้องการให้รัฐบาลญี่ปุ่นยอมรับระบบการ์ดชำระเงินนี้
ตามรายงานของบริษัทวีซ่ากล่าวว่า ปัจจุบันการซื้อสินค้าด้วยการ์ดอิเล็กทรอนิกส์ได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีจากคณะรัฐบาลของ 14 ประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา และเกาหลี เป็นต้น ซึ่งเอกสารของ แฟรงค์ จี คาร์ริโก้ (Frank G. Carrico) เจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ประจำสถานฑูตอเมริกา ได้รายงานว่า รัฐบาลอเมริกาได้เปิดรับระบบการชำระเงินผ่านการ์ดอีเล็กทรอนิคส์มาตั้งแต่ปี 1994 สามารถลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมทางการเงินลงได้ถึง 54 ดอลลาร์ต่อธุรกรรม จากเดิม 500 ดอลลาร์เหลือ 446 ดอลลาร์ต่อธุรกรรม
--จุลสารระบบการชำระเงิน/พฤศจิกายน 2544--
-ยก-
ตามรายงานของบริษัทวีซ่ากล่าวว่า ปัจจุบันการซื้อสินค้าด้วยการ์ดอิเล็กทรอนิกส์ได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีจากคณะรัฐบาลของ 14 ประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา และเกาหลี เป็นต้น ซึ่งเอกสารของ แฟรงค์ จี คาร์ริโก้ (Frank G. Carrico) เจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ประจำสถานฑูตอเมริกา ได้รายงานว่า รัฐบาลอเมริกาได้เปิดรับระบบการชำระเงินผ่านการ์ดอีเล็กทรอนิคส์มาตั้งแต่ปี 1994 สามารถลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมทางการเงินลงได้ถึง 54 ดอลลาร์ต่อธุรกรรม จากเดิม 500 ดอลลาร์เหลือ 446 ดอลลาร์ต่อธุรกรรม
--จุลสารระบบการชำระเงิน/พฤศจิกายน 2544--
-ยก-