แท็ก
บัญชี
เมื่อพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ . 2543 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 สิงหาคม 2543 ทำให้ผู้ทำบัญชีต้องมีคุณสมบัติตามที่กฏหมายกำหนด แต่กฎหมายฉบับนี้ยังให้สิทธิผู้ทำบัญชีที่ขาดคุณสมบัติ ซึ่งเป็นผู้จัดทำบัญชีมาก่อนวันที่กฎหมายนี้ใช้บังคับคือก่อนวันที่ 10 สิงหาคม 2543 ไม่น้อยกว่า 5 ปี หากประสงค์จะเป็นผู้ทำบัญชีต่อไปให้แจ้งต่ออธิบดีกรมทะเบียนการค้าตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนดภายใน 60 วันนับแต่วันที่กฎหมายบังคับใช้ ซึ่งขณะนี้ได้มีประกาศกรมทะเบียนการค้าในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งผู้แจ้งต่ออธิบดีและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทีกำหนดจะสามารถทำบัญชีได้ต่อไป อีก 8 ปี ถึงวันที่ 9 สิงหาคม 2551 โดยต้องปฏิบีติดังนี้
(1) ตรวจสอบว่าตนเองเป็นผู้มีคุณสมบัติเป็นผู้ทำบัญชีหรือไม่ ดังนี้
(ก) ธุรกิจขนาดเล็กมีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท สินทรัพย์รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท และรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท ผู้ทำบัญชีต้องมีวุฒิไม่ต่ำกว่าอนุปริญญาหรือปวส. ทางการบัญชี
(ข) ธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียน สินทรัพย์รวม หรือรายได้รวมเกินกว่าธุรกิจขนาดเล็กที่กล่าวมาแล้ว หรือบริษัทมหาชนจำกัด หรือธุรกิจที่ประกอบกิจการที่มีผลกระทบต่อ สาธารณชน หรือกิจการร่วมค้าผู้ทำบัญชีต้องมีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการบัญชี
(2) เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าตนเองขาดคุณสมบัติให้แจ้งขึ้นทะเบียนต่อกรมทะเบียนการค้า ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม — 9 ตุลาคม 2543 เพื่อเข้ารับการอบรมตามหลักสูตรที่มีระยะเวลาอบรม 60 ชั่วโมง การอบรมจะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2544 ณ สถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานที่กรมทะเบียนการค้าให้ความเห็นชอบ ดังนั้นผู้ทำบัญชีที่ขาดคุณสมบัติหากไม่แจ้งต่อกรมทะเบียนการค้าภายในเวลาที่กำหนดจะทำให้ผู้นั้นเสียสิทธิไม่สามารถเป็นผู้ทำบัญชีต่อไปได้
สำหรับการแจ้งขึ้นทะเบียนต่อกรมทะเบียนการค้าให้ใช้แบบ ส.บช.5-ก พร้อมหลักฐานสำเนาวุฒิการศึกษา สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนหรือบัตรที่ทางราชการออกให้ หนังสือรับรองการทำงานและรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป โดยยื่นด้วยตนเองหรือส่งทางไปรษณีย์ สำหรับผู้ที่มีที่อยู่หรือที่ทำงานอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ให้ยื่น ณ สำนักกำกับดูแลธุรกิจ หรือสำนักงานบริการจดทะเบียนธุรกิจ 1 — 7 จังหวัดนนทบุรีให้ยื่นที่สำนักกำกับดูแลธุรกิจ นอกเหนือจากนี้ให้ยื่น ณ สำนักงานทะเบียนการค้าจังหวัดที่มีที่อยู่หรือสถานที่ทำงานตั้งอยู่ พร้อมสำเนา 1 ชุด
ในขณะนี้ยังมีผู้ทำบัญชีอีกจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจผิดคิดว่าผู้ทำบัญชีต้องแจ้งขึ้นทะเบียนทุกคน ความจริงแล้วผู้ทำบัญชีที่ต้องแจ้งขึ้นทะเบียน ในขณะนี้คือผู้ที่ขาดคุณสมบัติเท่านั้น ส่วนผู้ที่มีคุณสมบัติครบอยู่แล้วคือ ผู้จบปริญญาตรีทางการบัญชีจะต้องแจ้งขึ้นทะเบียนเมื่อกฎหมายใช้บังคับไปแล้ว 1 ปี คือตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2544 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมอาจดูทาง Internet ได้ในเว็บไซด์ www.moc.go.th/thai/dcr หัวข้อข่าวกรมทะเบียนการค้า หรือสอบถามทางโทรศัพท์ได้ที่ 547-4404-7, 547-4394-96--จบ--
-อน-
(1) ตรวจสอบว่าตนเองเป็นผู้มีคุณสมบัติเป็นผู้ทำบัญชีหรือไม่ ดังนี้
(ก) ธุรกิจขนาดเล็กมีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท สินทรัพย์รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท และรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท ผู้ทำบัญชีต้องมีวุฒิไม่ต่ำกว่าอนุปริญญาหรือปวส. ทางการบัญชี
(ข) ธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียน สินทรัพย์รวม หรือรายได้รวมเกินกว่าธุรกิจขนาดเล็กที่กล่าวมาแล้ว หรือบริษัทมหาชนจำกัด หรือธุรกิจที่ประกอบกิจการที่มีผลกระทบต่อ สาธารณชน หรือกิจการร่วมค้าผู้ทำบัญชีต้องมีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการบัญชี
(2) เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าตนเองขาดคุณสมบัติให้แจ้งขึ้นทะเบียนต่อกรมทะเบียนการค้า ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม — 9 ตุลาคม 2543 เพื่อเข้ารับการอบรมตามหลักสูตรที่มีระยะเวลาอบรม 60 ชั่วโมง การอบรมจะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2544 ณ สถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานที่กรมทะเบียนการค้าให้ความเห็นชอบ ดังนั้นผู้ทำบัญชีที่ขาดคุณสมบัติหากไม่แจ้งต่อกรมทะเบียนการค้าภายในเวลาที่กำหนดจะทำให้ผู้นั้นเสียสิทธิไม่สามารถเป็นผู้ทำบัญชีต่อไปได้
สำหรับการแจ้งขึ้นทะเบียนต่อกรมทะเบียนการค้าให้ใช้แบบ ส.บช.5-ก พร้อมหลักฐานสำเนาวุฒิการศึกษา สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนหรือบัตรที่ทางราชการออกให้ หนังสือรับรองการทำงานและรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป โดยยื่นด้วยตนเองหรือส่งทางไปรษณีย์ สำหรับผู้ที่มีที่อยู่หรือที่ทำงานอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ให้ยื่น ณ สำนักกำกับดูแลธุรกิจ หรือสำนักงานบริการจดทะเบียนธุรกิจ 1 — 7 จังหวัดนนทบุรีให้ยื่นที่สำนักกำกับดูแลธุรกิจ นอกเหนือจากนี้ให้ยื่น ณ สำนักงานทะเบียนการค้าจังหวัดที่มีที่อยู่หรือสถานที่ทำงานตั้งอยู่ พร้อมสำเนา 1 ชุด
ในขณะนี้ยังมีผู้ทำบัญชีอีกจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจผิดคิดว่าผู้ทำบัญชีต้องแจ้งขึ้นทะเบียนทุกคน ความจริงแล้วผู้ทำบัญชีที่ต้องแจ้งขึ้นทะเบียน ในขณะนี้คือผู้ที่ขาดคุณสมบัติเท่านั้น ส่วนผู้ที่มีคุณสมบัติครบอยู่แล้วคือ ผู้จบปริญญาตรีทางการบัญชีจะต้องแจ้งขึ้นทะเบียนเมื่อกฎหมายใช้บังคับไปแล้ว 1 ปี คือตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2544 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมอาจดูทาง Internet ได้ในเว็บไซด์ www.moc.go.th/thai/dcr หัวข้อข่าวกรมทะเบียนการค้า หรือสอบถามทางโทรศัพท์ได้ที่ 547-4404-7, 547-4394-96--จบ--
-อน-