กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (5 ตุลาคม 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับความคืบหน้ากรณีนายวินัย ละอองสุวรรณ (อดีตพระยันตระ) ขับรถยนต์ชนคนอเมริกันเสียชีวิตว่า นายวินัยฯ ได้ขึ้นศาลเป็นครั้งแรกเพื่อรับฟังสามข้อกล่าวหาคือ 1) ขับรถโดยประมาทเลินเล่อ 2) ไม่หยุดรถในที่ที่มีป้ายสัญญาณแจ้งให้หยุดรถ และ 3) ขับรถโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง โดยข้อกล่าวสองประการแรกถือเป็นลหุโทษ ส่วนข้อกล่าวหาสุดท้ายนั้นมีโทษร้ายแรงคือ จำคุก10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการขึ้นศาลในครั้งนี้ นายวินัยฯ ได้รับการประกันตัว แต่จะต้องรายงานตัวให้ทนายทราบก่อนที่จะเดินทางไปที่ต่างๆ
ทนายให้ความเห็นว่า การตั้งข้อกล่าวหาในประการที่สามควรเป็นการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการใช้ยาเสพย์ติด หรือเสพสุรา แต่ในกรณีนี้ไม่ใช่ ในขณะที่อัยการเห็นว่า การไม่หยุดรถของนายวินัยฯ ในที่ห้ามหยุดจนเป็นเหตุให้หญิงอายุ 21 ปีต้องเสียชีวิตน่าจะได้รับโทษตามข้อกล่าวหาดังกล่าว เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุนั้น เป็นช่วงบ่าย อากาศแจ่มใส รวมทั้งมีป้ายเตือนให้หยุดรถก่อนข้ามทางแยก ทั้งนี้ นายวินัยฯ อาจได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 48 เดือน (โทษสูงสุด) ตามแนวปฏิบัติในการจำคุกของมลรัฐมินิโซตา สำหรับผู้กระทำความผิดครั้งแรกและไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน
ต่อข้อซักถามว่า หากนายวินัยฯ ถูกดำเนินคดีและโทษจำคุกสิ้นสุดลงแล้ว จะถูกเนรเทศกลับประเทศไทยหรือไม่นั้น นายดอนฯ ชี้แจงว่า กฎหมายสหรัฐกำหนดว่า บุคคลที่ไม่ใช่คนชาติอเมริกัน หากทำความผิดทางอาญาร้ายแรง จะต้องถูกเนรเทศกลับประเทศของตนเมื่อโทษ จำคุกสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของอเมริกาให้ความเห็นว่า ผู้พิพากษาอาจตัดสินใจไม่เนรเทศนายวินัยฯ กลับประเทศไทย เนื่องจากเหตุที่ว่า รัฐบาลอเมริกันได้ให้สถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองแก่นายวินัยฯ และสถานะดังกล่าวนั้นยังคงอยู่
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
วันนี้ (5 ตุลาคม 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับความคืบหน้ากรณีนายวินัย ละอองสุวรรณ (อดีตพระยันตระ) ขับรถยนต์ชนคนอเมริกันเสียชีวิตว่า นายวินัยฯ ได้ขึ้นศาลเป็นครั้งแรกเพื่อรับฟังสามข้อกล่าวหาคือ 1) ขับรถโดยประมาทเลินเล่อ 2) ไม่หยุดรถในที่ที่มีป้ายสัญญาณแจ้งให้หยุดรถ และ 3) ขับรถโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง โดยข้อกล่าวสองประการแรกถือเป็นลหุโทษ ส่วนข้อกล่าวหาสุดท้ายนั้นมีโทษร้ายแรงคือ จำคุก10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการขึ้นศาลในครั้งนี้ นายวินัยฯ ได้รับการประกันตัว แต่จะต้องรายงานตัวให้ทนายทราบก่อนที่จะเดินทางไปที่ต่างๆ
ทนายให้ความเห็นว่า การตั้งข้อกล่าวหาในประการที่สามควรเป็นการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการใช้ยาเสพย์ติด หรือเสพสุรา แต่ในกรณีนี้ไม่ใช่ ในขณะที่อัยการเห็นว่า การไม่หยุดรถของนายวินัยฯ ในที่ห้ามหยุดจนเป็นเหตุให้หญิงอายุ 21 ปีต้องเสียชีวิตน่าจะได้รับโทษตามข้อกล่าวหาดังกล่าว เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุนั้น เป็นช่วงบ่าย อากาศแจ่มใส รวมทั้งมีป้ายเตือนให้หยุดรถก่อนข้ามทางแยก ทั้งนี้ นายวินัยฯ อาจได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 48 เดือน (โทษสูงสุด) ตามแนวปฏิบัติในการจำคุกของมลรัฐมินิโซตา สำหรับผู้กระทำความผิดครั้งแรกและไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน
ต่อข้อซักถามว่า หากนายวินัยฯ ถูกดำเนินคดีและโทษจำคุกสิ้นสุดลงแล้ว จะถูกเนรเทศกลับประเทศไทยหรือไม่นั้น นายดอนฯ ชี้แจงว่า กฎหมายสหรัฐกำหนดว่า บุคคลที่ไม่ใช่คนชาติอเมริกัน หากทำความผิดทางอาญาร้ายแรง จะต้องถูกเนรเทศกลับประเทศของตนเมื่อโทษ จำคุกสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของอเมริกาให้ความเห็นว่า ผู้พิพากษาอาจตัดสินใจไม่เนรเทศนายวินัยฯ กลับประเทศไทย เนื่องจากเหตุที่ว่า รัฐบาลอเมริกันได้ให้สถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองแก่นายวินัยฯ และสถานะดังกล่าวนั้นยังคงอยู่
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-