ข่าวในประเทศ
1. อัตราดอกเบี้ยของไทยมีความเหมาะสมแล้วในขณะนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รอง นรม.และ รมว.คลังเปิดเผยกรณีที่ ธ.กลาง สรอ.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.5 เหลือร้อยละ 2.0 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 40 ปี ว่า ได้หารือร่วมกับ ผู้ว่าการ ธปท.เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวแล้ว เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยขณะนี้มีความเหมาะสมแล้ว ไม่จำเป็นต้องปรับลดลงแต่อย่างใด เพราะหากปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจะไม่เกิดผลดีกับไทย โดยสิ่งสำคัญที่ต้องทำขณะนี้คือ ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างประเทศ (เดลินิวส์,ผู้จัดการรายวัน 8)
2. ธปท.รายงานฐานะสินทรัพย์และหนี้สินของกองทุนฟื้นฟูฯ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.44 รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงฐานะสินทรัพย์และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ณ สิ้นเดือน มิ.ย.44 ว่า มีสินทรัพย์จำนวน 546,442.8 ล.บาท และหนี้สินมีจำนวน 745,737.3 ล.บาท โดยฐานะสินทรัพย์และหนี้สินดังกล่าวไม่รวมยอดภาระผูกพันในภายหน้าและการรับอาวัลตั๋วที่มีอยู่จำนวน 695,723.3 ล.บาท ทั้งนี้ หากเทียบกับสินทรัพย์และหนี้สินช่วงสิ้นปี 43 สะท้อนว่ามีการบริหารแก้ไขปัญหาหนี้สินมาโดยตลอด และจะมีการออก พธบ.เพื่อยืดอายุหนี้สินระยะสั้นเป็นระยะยาวจำนวน 3.2 แสน ล.บาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการรอ พ.ร.บ.การบริหารหนี้ผ่านการพิจารณาจากสภา (โลกวันนี้ 8)
3. ธปท.ส่งเรื่องกล่าวโทษผู้ต้องสงสัยคดีนำเงินออกนอกประเทศโดยไม่ถูกกฎหมาย 4 ราย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฝ่ายปราบปราม เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ธปท.ได้ส่งเรื่องกล่าวโทษผู้ต้องสงสัย 4 รายไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในคดีนำเงินออกนอกประเทศโดยไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 8 ทวิของกฎหมายควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน โดยบริษัททั้ง 4 แห่งมีการโอนเงินไปต่างประเทศโดยใช้เอกสารปลอมบริษัทละประมาณ 1,000 ล.บาท รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,000 ล.บาท ทั้งนี้ได้จับกุมแล้ว 1 ราย ส่วนอีก 3 รายอยู่ระหว่างวางแผนจับกุม และจากการตรวจสอบไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินทั้ง 4 ราย (โลกวันนี้, ไทยรัฐ 8)
4. รองผู้ว่าการ ธปท. จะกลับเข้าทำงานภายหลังคดียุติ รองผู้ว่าการ (นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ได้เข้าพบและชี้แจงต่อผู้ว่าการ ธปท. กรณีที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวกับการรับอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินเมื่อครั้งทำงานที่ ธ.นครธนแล้ว ซึ่งคดีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งยุติแล้ว แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นพิจารณาในชั้นศาล และต้องการให้คดีจบสิ้นเสียก่อนจึงจะกลับเข้าทำงานที่ ธปท. อีกครั้ง (ข่าวสด, มติชน 8)
5. นรม. สรุปมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ นรม. แถลงภายหลังการประชุมสรุปมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ว่า ที่ประชุมได้ออกมาตรการเชิงรุก คือ โครงการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาแบบ "3 in 1" คือ 1) แก้ปัญหาการหดตัวของภาคก่อสร้าง 2) แก้ไขปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีอุปสงค์ไม่พอ และ 3) แก้ปัญหาข้าราชการที่เกษียณอายุแต่ไม่มีบ้านเป็นของตนเอง โดยได้รับความช่วยเหลือจาก กบข. ธ.อาคารสงเคราะห์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นตั้งวงเงินสินเชื่อไว้ 5 พัน ล.บาท (ไทยรัฐ 8)
ข่าวต่างประเทศ
1. ประสิทธิภาพแรงงานนอกภาคเกตรกรรมของ สรอ. เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 ปี 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 7 พ.ย. 44 ก.แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า ประสิทธิภาพแรงงานนอกภาคเกษตรกรรมในไตรมาสที่ 3 ปี 44 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 ต่อปี หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 ในไตรมาสที่ 2 ปี 44 นับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดตั้งแต่ที่เคยเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 และเพิ่มขึ้นเกินกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ของวอลล์สตรีทคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของประสิทธิภาพฯ ในไตรมาสดังกล่าว เนื่องจากชั่วโมงการทำงานได้ลดลงถึงร้อยละ 3.6 ซึ่งลดลงมากที่สุดในรอบ 10ปี นับตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 44 ที่ สรอ. เคยประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะเดียวกัน ต้นทุนแรงงานต่อหน่วย ที่ใช้วัดแรงกดดันด้านค่าจ้าง เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ในไตรมาสที่ 3 ชะลอลงจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 ในไตรมาสที่ 2 นับเป็นการเพิ่มขึ้นต่ำที่สุดตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 43 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ชี้ให้เห็นว่าแรงงานกำลังสูญเสียอำนาจการต่อรองกับนายจ้างภายใต้ตลาดแรงงานที่กำลังอ่อนแอ (รอยเตอร์7)
2. สินค้าคงเหลือของ สรอ.ลดลงร้อยละ 0.1 ในเดือน ก.ย.44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 7 พ.ย.44 ก.พาณิชย์รายงานว่า เดือน ก.ย.44 สินค้าคงเหลือโดยรวมมีมูลค่า 297.92 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.ลดลงร้อยละ 0.1 หลังจากลดลงร้อยละ 0.2 ในเดือนก่อน ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะลดลงร้อยละ 0.4 ขณะที่ยอดขายสินค้าฯโดยรวมมีมูลค่า 226.13 พัน ล.ดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 1.3 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในเดือนก่อน สำหรับสัดส่วนยอดสินค้าคงเหลือต่อยอดขาย (ใช้วัดระยะเวลาในการจำหน่ายสินค้าคงเหลือทั้งหมด) ในเดือน ก.ย. อยู่ที่ระดับ 1.32 เดือน เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.30 เดือนในเดือน ส.ค. อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสินค้าคงเหลือโดยรวมในเดือน ก.ย.จะลดลง แต่ยอดคงเหลือของรถยนต์กลับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 เนื่องจากยอดขายลดลงร้อยละ 6.4 ส่วนสินค้าไม่คงทนมียอดคงเหลือลดลงร้อยละ 0.4 และเป็นการยากที่นักเศรษฐศาสตร์จะใช้ยอดสินค้าคงเหลือที่โน้มต่ำลงในเดือน ก.ย.เป็นปัจจัยชี้วัดว่าเศรษฐกิจ สรอ.จะมีสัญญาณในทางบวก(รอยเตอร์ 7)
3. ยอดการให้กู้ยืมของ ธพ.ของญี่ปุ่นเดือน ต.ค.44 ลดลงร้อยละ 4.1 รายงานจากโตเกียว เมื่อ 8 พ.ย.44 ธนาคารกลางญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เดือน ต.ค.44 ตัวเลขเบื้องต้นยอดคงค้างการให้กู้ยืมของ ธพ.ในประเทศ 5 แห่ง ลดลงร้อยละ 4.1 หลังจากเดือน ก.ย.44 ลดลงร้อยละ 4.2 เทียบปีต่อปี นับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 46 ขณะเดียวกัน ยอดการให้เงินกู้ของ ธพ.ต่างประเทศ (Foreign banks) ในเดือน ต.ค. 44 มีจำนวนเฉลี่ย 6.86 ล้านล้านเยน ลดลงร้อยละ 7.5 จากปีก่อน หลังจากที่ลดลงร้อยละ 6.6 ในเดือน ก.ย. สำหรับยอดคงค้างการให้กู้ยืมของ ธพ. 5 แห่ง รวมกับ City banks และ Trust banks เดือน ต.ค.44 มียอดคงค้างเฉลี่ย 439.67 ล้านล้านเยน (3,632 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.) (รอยเตอร์ 8)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 7 พ.ย.44 44.642 (44.684)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 7 พ.ย. 44ซื้อ 44.4602 (44.4834) ขาย 44.7589 (44.7772)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,850 (5,850) ขาย 5,950 (5,950)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) ดูไบ 17.67 (17.40)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 13.59 (13.59) ดีเซลหมุนเร็ว 12.59 (12.59)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. อัตราดอกเบี้ยของไทยมีความเหมาะสมแล้วในขณะนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รอง นรม.และ รมว.คลังเปิดเผยกรณีที่ ธ.กลาง สรอ.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.5 เหลือร้อยละ 2.0 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 40 ปี ว่า ได้หารือร่วมกับ ผู้ว่าการ ธปท.เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวแล้ว เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยขณะนี้มีความเหมาะสมแล้ว ไม่จำเป็นต้องปรับลดลงแต่อย่างใด เพราะหากปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจะไม่เกิดผลดีกับไทย โดยสิ่งสำคัญที่ต้องทำขณะนี้คือ ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างประเทศ (เดลินิวส์,ผู้จัดการรายวัน 8)
2. ธปท.รายงานฐานะสินทรัพย์และหนี้สินของกองทุนฟื้นฟูฯ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.44 รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงฐานะสินทรัพย์และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ณ สิ้นเดือน มิ.ย.44 ว่า มีสินทรัพย์จำนวน 546,442.8 ล.บาท และหนี้สินมีจำนวน 745,737.3 ล.บาท โดยฐานะสินทรัพย์และหนี้สินดังกล่าวไม่รวมยอดภาระผูกพันในภายหน้าและการรับอาวัลตั๋วที่มีอยู่จำนวน 695,723.3 ล.บาท ทั้งนี้ หากเทียบกับสินทรัพย์และหนี้สินช่วงสิ้นปี 43 สะท้อนว่ามีการบริหารแก้ไขปัญหาหนี้สินมาโดยตลอด และจะมีการออก พธบ.เพื่อยืดอายุหนี้สินระยะสั้นเป็นระยะยาวจำนวน 3.2 แสน ล.บาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการรอ พ.ร.บ.การบริหารหนี้ผ่านการพิจารณาจากสภา (โลกวันนี้ 8)
3. ธปท.ส่งเรื่องกล่าวโทษผู้ต้องสงสัยคดีนำเงินออกนอกประเทศโดยไม่ถูกกฎหมาย 4 ราย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฝ่ายปราบปราม เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ธปท.ได้ส่งเรื่องกล่าวโทษผู้ต้องสงสัย 4 รายไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในคดีนำเงินออกนอกประเทศโดยไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 8 ทวิของกฎหมายควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน โดยบริษัททั้ง 4 แห่งมีการโอนเงินไปต่างประเทศโดยใช้เอกสารปลอมบริษัทละประมาณ 1,000 ล.บาท รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,000 ล.บาท ทั้งนี้ได้จับกุมแล้ว 1 ราย ส่วนอีก 3 รายอยู่ระหว่างวางแผนจับกุม และจากการตรวจสอบไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินทั้ง 4 ราย (โลกวันนี้, ไทยรัฐ 8)
4. รองผู้ว่าการ ธปท. จะกลับเข้าทำงานภายหลังคดียุติ รองผู้ว่าการ (นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ได้เข้าพบและชี้แจงต่อผู้ว่าการ ธปท. กรณีที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวกับการรับอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินเมื่อครั้งทำงานที่ ธ.นครธนแล้ว ซึ่งคดีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งยุติแล้ว แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นพิจารณาในชั้นศาล และต้องการให้คดีจบสิ้นเสียก่อนจึงจะกลับเข้าทำงานที่ ธปท. อีกครั้ง (ข่าวสด, มติชน 8)
5. นรม. สรุปมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ นรม. แถลงภายหลังการประชุมสรุปมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ว่า ที่ประชุมได้ออกมาตรการเชิงรุก คือ โครงการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาแบบ "3 in 1" คือ 1) แก้ปัญหาการหดตัวของภาคก่อสร้าง 2) แก้ไขปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีอุปสงค์ไม่พอ และ 3) แก้ปัญหาข้าราชการที่เกษียณอายุแต่ไม่มีบ้านเป็นของตนเอง โดยได้รับความช่วยเหลือจาก กบข. ธ.อาคารสงเคราะห์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นตั้งวงเงินสินเชื่อไว้ 5 พัน ล.บาท (ไทยรัฐ 8)
ข่าวต่างประเทศ
1. ประสิทธิภาพแรงงานนอกภาคเกตรกรรมของ สรอ. เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 ปี 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 7 พ.ย. 44 ก.แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า ประสิทธิภาพแรงงานนอกภาคเกษตรกรรมในไตรมาสที่ 3 ปี 44 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 ต่อปี หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 ในไตรมาสที่ 2 ปี 44 นับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดตั้งแต่ที่เคยเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 ในไตรมาสที่ 2 ปี 43 และเพิ่มขึ้นเกินกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ของวอลล์สตรีทคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของประสิทธิภาพฯ ในไตรมาสดังกล่าว เนื่องจากชั่วโมงการทำงานได้ลดลงถึงร้อยละ 3.6 ซึ่งลดลงมากที่สุดในรอบ 10ปี นับตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 44 ที่ สรอ. เคยประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะเดียวกัน ต้นทุนแรงงานต่อหน่วย ที่ใช้วัดแรงกดดันด้านค่าจ้าง เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 ในไตรมาสที่ 3 ชะลอลงจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 ในไตรมาสที่ 2 นับเป็นการเพิ่มขึ้นต่ำที่สุดตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 43 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ชี้ให้เห็นว่าแรงงานกำลังสูญเสียอำนาจการต่อรองกับนายจ้างภายใต้ตลาดแรงงานที่กำลังอ่อนแอ (รอยเตอร์7)
2. สินค้าคงเหลือของ สรอ.ลดลงร้อยละ 0.1 ในเดือน ก.ย.44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 7 พ.ย.44 ก.พาณิชย์รายงานว่า เดือน ก.ย.44 สินค้าคงเหลือโดยรวมมีมูลค่า 297.92 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.ลดลงร้อยละ 0.1 หลังจากลดลงร้อยละ 0.2 ในเดือนก่อน ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะลดลงร้อยละ 0.4 ขณะที่ยอดขายสินค้าฯโดยรวมมีมูลค่า 226.13 พัน ล.ดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 1.3 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในเดือนก่อน สำหรับสัดส่วนยอดสินค้าคงเหลือต่อยอดขาย (ใช้วัดระยะเวลาในการจำหน่ายสินค้าคงเหลือทั้งหมด) ในเดือน ก.ย. อยู่ที่ระดับ 1.32 เดือน เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.30 เดือนในเดือน ส.ค. อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสินค้าคงเหลือโดยรวมในเดือน ก.ย.จะลดลง แต่ยอดคงเหลือของรถยนต์กลับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 เนื่องจากยอดขายลดลงร้อยละ 6.4 ส่วนสินค้าไม่คงทนมียอดคงเหลือลดลงร้อยละ 0.4 และเป็นการยากที่นักเศรษฐศาสตร์จะใช้ยอดสินค้าคงเหลือที่โน้มต่ำลงในเดือน ก.ย.เป็นปัจจัยชี้วัดว่าเศรษฐกิจ สรอ.จะมีสัญญาณในทางบวก(รอยเตอร์ 7)
3. ยอดการให้กู้ยืมของ ธพ.ของญี่ปุ่นเดือน ต.ค.44 ลดลงร้อยละ 4.1 รายงานจากโตเกียว เมื่อ 8 พ.ย.44 ธนาคารกลางญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เดือน ต.ค.44 ตัวเลขเบื้องต้นยอดคงค้างการให้กู้ยืมของ ธพ.ในประเทศ 5 แห่ง ลดลงร้อยละ 4.1 หลังจากเดือน ก.ย.44 ลดลงร้อยละ 4.2 เทียบปีต่อปี นับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 46 ขณะเดียวกัน ยอดการให้เงินกู้ของ ธพ.ต่างประเทศ (Foreign banks) ในเดือน ต.ค. 44 มีจำนวนเฉลี่ย 6.86 ล้านล้านเยน ลดลงร้อยละ 7.5 จากปีก่อน หลังจากที่ลดลงร้อยละ 6.6 ในเดือน ก.ย. สำหรับยอดคงค้างการให้กู้ยืมของ ธพ. 5 แห่ง รวมกับ City banks และ Trust banks เดือน ต.ค.44 มียอดคงค้างเฉลี่ย 439.67 ล้านล้านเยน (3,632 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.) (รอยเตอร์ 8)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 7 พ.ย.44 44.642 (44.684)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 7 พ.ย. 44ซื้อ 44.4602 (44.4834) ขาย 44.7589 (44.7772)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,850 (5,850) ขาย 5,950 (5,950)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) ดูไบ 17.67 (17.40)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 13.59 (13.59) ดีเซลหมุนเร็ว 12.59 (12.59)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-