ภายหลังการประชุมคณะทำงานสำหรับการเตรียมตัวเข้าเป็นสมาชิก WTO ครั้งที่ 16 ของน ณ นครเจนีวา เมื่อเดือนกรกฎาคม 2544 ได้มีการคาดการณ์ว่าจีนอาจจะได้เข้าเป็นสมาชิก WTO ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจและการค้า ณ เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ และเมื่อจีนได้เข้าเป็นสมาชิก WTO แล้ว จะต้องดำเนินการต่างๆ ตามพันธกรณี ทั้งการปรับลดอัตราภาษีนำเข้า และลดมาตรการที่มิใช่ภาษี ซึ่งจะเป็นผลให้สินค้าจากต่างประเทศเข้าสู่ตลาดจีนได้มากขึ้น รวมถึงนักลงทุนต่างชาติจะสามารถขยายการลงทุนในจีนได้เพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะ
รถยนต์ อัตราภาษีนำเข้าจะลดจากร้อยละ 80-100 เหลือ ร้อยละ 25 ส่วนอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์จะลดลงเหลือร้อยละ 10 ซึ่งนักวิเคราะห์ของจีนคาดว่าราคารถยนต์นำเข้าของจีน จะลดลงเหลือ 1 ใน 3 จากราคาในปัจจุบัน ส่วนใหญ่สินค้าประเภทนี้ที่ไทยส่งออกไปจีนได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์รถยนต์ และเครื่องยนต์สันดาบภายในแบบลูกสูบ โดยในปี 2544 ( มค.-พค.) มีมูลค่าส่งออกไปจีน 3.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าส่งออกใกล้เคียงกับระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ เทคโนโลยีข่าวสาร จะเป็นสินค้าประเภทแรกที่ไม่มีการเก็บภาษีนำเข้า และตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นไป จะไม่มีเก็บภาษีผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม สินค้าในหมวดเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ที่ไทยส่งออกไปจีนเป็นส่วนใหญ่ได้แก่ส่วนประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยในปี 2544 ( มค.-พค. ) มีมูลค่าส่งออก 189.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 2.9
ธุรกิจโทรคมนาคม จีนจะอนุญาตให้มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในธุรกิจบริการโทรคมนาคม ร้อยละ 49 และในธุรกิจบริการเสริมรวมทั้งธุรกิจบริการติดตามตัวร้อยละ 51
ธุรกิจท่องเที่ยว บริษัทธุรกิจท่องเที่ยวจากต่างชาติสามารถที่จะเข้ามาตั้งสำนักงานในจีน เนื่องจากจีนจะต้องยกเลิกมาตรการจำกัดสถานที่ตั้งและขอบเขตการให้บริการ
ยารักษาโรค อัตราภาษีนำเข้าจะลดลงเหลือร้อยละ 5.5 — 6.5 รวมทั้งอัตราภาษีนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ก็จะลดต่ำลงด้วย
ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจการธนาคารที่ลงทุนโดยต่างชาติ จะเปิดเสรีมากขึ้น โดยใช้มาตรฐานของต่างประเทศเข้ามาดำเนินการ
การเปิดตลาดการค้าทั้งด้านสินค้าและบริการของจีนดังกล่าว จึงเป็นการสร้างโอกาสให้กับประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย ในด้านการขยายตลาดส่งออกสินค้ารวมถึงการขยายการลงทุนในจีนมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าและบริการที่ไทยมีศักยภาพ อาทิเช่น ชิ้นส่วนยานยนต์บางชนิด ชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์บางชนิดและธุรกิจท่องเที่ยว
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จีนยังได้คาดการณ์ว่าภายใน 5 ปีหลังจากจีนเข้าเป็นสมาชิก WTO การขยายตัวทางธุรกิจจะทำให้จีนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 12 ล้านคน ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยให้ประชาชนจีนมีกำลังซื้อมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเองก็จะต้องประสบกับการแข่งขันที่จะมีมากขึ้น จึงควรเร่งสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันโดยการพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มและยกระดับคุณภาพสินค้าเพื่อแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในการเข้าสู่ตลาดจีน
หมายเหตุ : -ข้อมูลจากสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โทร. 281-9723, 282-6171-9 : 1176-7 โทรสาร. 82-6623--จบ--
-สส-
รถยนต์ อัตราภาษีนำเข้าจะลดจากร้อยละ 80-100 เหลือ ร้อยละ 25 ส่วนอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์จะลดลงเหลือร้อยละ 10 ซึ่งนักวิเคราะห์ของจีนคาดว่าราคารถยนต์นำเข้าของจีน จะลดลงเหลือ 1 ใน 3 จากราคาในปัจจุบัน ส่วนใหญ่สินค้าประเภทนี้ที่ไทยส่งออกไปจีนได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์รถยนต์ และเครื่องยนต์สันดาบภายในแบบลูกสูบ โดยในปี 2544 ( มค.-พค.) มีมูลค่าส่งออกไปจีน 3.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าส่งออกใกล้เคียงกับระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ เทคโนโลยีข่าวสาร จะเป็นสินค้าประเภทแรกที่ไม่มีการเก็บภาษีนำเข้า และตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นไป จะไม่มีเก็บภาษีผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม สินค้าในหมวดเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ที่ไทยส่งออกไปจีนเป็นส่วนใหญ่ได้แก่ส่วนประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยในปี 2544 ( มค.-พค. ) มีมูลค่าส่งออก 189.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 2.9
ธุรกิจโทรคมนาคม จีนจะอนุญาตให้มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในธุรกิจบริการโทรคมนาคม ร้อยละ 49 และในธุรกิจบริการเสริมรวมทั้งธุรกิจบริการติดตามตัวร้อยละ 51
ธุรกิจท่องเที่ยว บริษัทธุรกิจท่องเที่ยวจากต่างชาติสามารถที่จะเข้ามาตั้งสำนักงานในจีน เนื่องจากจีนจะต้องยกเลิกมาตรการจำกัดสถานที่ตั้งและขอบเขตการให้บริการ
ยารักษาโรค อัตราภาษีนำเข้าจะลดลงเหลือร้อยละ 5.5 — 6.5 รวมทั้งอัตราภาษีนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ก็จะลดต่ำลงด้วย
ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจการธนาคารที่ลงทุนโดยต่างชาติ จะเปิดเสรีมากขึ้น โดยใช้มาตรฐานของต่างประเทศเข้ามาดำเนินการ
การเปิดตลาดการค้าทั้งด้านสินค้าและบริการของจีนดังกล่าว จึงเป็นการสร้างโอกาสให้กับประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย ในด้านการขยายตลาดส่งออกสินค้ารวมถึงการขยายการลงทุนในจีนมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าและบริการที่ไทยมีศักยภาพ อาทิเช่น ชิ้นส่วนยานยนต์บางชนิด ชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์บางชนิดและธุรกิจท่องเที่ยว
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จีนยังได้คาดการณ์ว่าภายใน 5 ปีหลังจากจีนเข้าเป็นสมาชิก WTO การขยายตัวทางธุรกิจจะทำให้จีนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 12 ล้านคน ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยให้ประชาชนจีนมีกำลังซื้อมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเองก็จะต้องประสบกับการแข่งขันที่จะมีมากขึ้น จึงควรเร่งสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันโดยการพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มและยกระดับคุณภาพสินค้าเพื่อแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในการเข้าสู่ตลาดจีน
หมายเหตุ : -ข้อมูลจากสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โทร. 281-9723, 282-6171-9 : 1176-7 โทรสาร. 82-6623--จบ--
-สส-