แท็ก
อุตสาหกรรม
ของเล่น เป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยสร้างรายได้และก่อให้เกิดการจ้างงานอย่างทั่วถึงทั้งในเขตเมือง ซึ่งส่วนมากจะเป็นกิจการผลิตของเล่นขนาดใหญ่ และในพื้นที่ชนบทซึ่งมักเป็นกิจการผลิตของเล่นขนาดย่อมกระจายอยู่โดยทั่วไป
ของเล่นไทยที่ผลิตและส่งออกแบ่งประเภทตามวัสดุที่ใช้เป็นวัตถุดิบได้เป็น 3 ประเภท คือ
1. ของเล่นที่ทำจากพลาสติกและโลหะ การผลิตส่วนใหญ่เป็นการรับจ้างบริษัทต่างชาติ ดังนั้น วัตถุดิบเกือบทั้งหมด เช่น เม็ดพลาสติก สี ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศตามที่บริษัทแม่กำหนด
2. ของเล่นที่ทำจากไม้ ส่วนใหญ่เป็นการผลิตจากไม้ยางพาราและเป็นสินค้าประเภทเสริมทักษะหรือพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็ก ประเทศไทยมีความสามารถสูงในการผลิตสินค้าประเภทนี้ เนื่องจาก ความได้เปรียบ ในด้านวัตถุดิบไม้ยางพาราที่มีอยู่ในประเทศเป็นจำนวนมาก ประกอบกับแรงงานไทยมีฝีมือประณีต ทำให้ของเล่นที่ทำจากไม้ของไทยมีศักยภาพในการแข่งขันสูงเมื่อเทียบกับของเล่นประเภทอื่น ๆ
3. ของเล่นที่ทำจากผ้า และเส้นใย เช่น ตุ๊กตา ทั้งที่เป็นของเล่นสำหรับเด็ก รวมทั้งตุ๊กตาที่ใช้สำหรับประดับและตกแต่ง
การผลิตของเล่นของไทยส่วนใหญ่เป็นการรับจ้างผลิต Original Equipment Manufacturer (OEM) ภายใต้ยี่ห้อหรือเครื่องหมายการค้าของลูกค้าต่างประเทศเป็นสำคัญ การส่งออกของเล่นไทยเริ่มประสบปัญหาตั้งแต่ปี 2538 เมื่อต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะ ค่าแรงงานของไทยสูงขึ้น ขณะที่คู่แข่งขัน เช่น จีน เวียดนาม สามารถพัฒนาการผลิตมากขึ้นเป็นลำดับ ประเทศผู้ซื้อ จึงลดปริมาณการสั่งซื้อจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศคู่แข่งแทน นอกจากนี้ การที่ผู้ประกอบการของไทยบางรายขายตัดราคากันเอง ทำให้ราคาของเล่นโดยทั่วไปมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในช่วงวิกฤตที่ผ่านมาผู้ประกอบการส่วนใหญ่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้ไม่สามารถพัฒนารูปแบบ และเสริมสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันได้
กลยุทธ์สำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของเล่นไทย คือ การส่งเสริมการผลิตของเล่นซึ่งใช้วัตถุดิบภายในประเทศ เช่น ของเล่นจากไม้ยางพารา ตลอดจนการพัฒนารูปแบบสินค้า การสร้างยี่ห้อสินค้า (Brand Name) เป็นของตนเอง เพื่อให้มีโอกาสในการสร้างฐานการตลาด โดยไม่ต้องหวังพึ่งแต่เพียงคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเหมือนเช่นที่ผ่านมา ผู้ผลิตของเล่นไทย จำเป็นต้องพัฒนาการผลิตจากสินค้าระดับล่างไปสู่การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงขึ้นเพื่อหนีประเทศ
คู่แข่ง ซึ่งในปัจจุบันยังมีปัญหาค่อนข้างมาก เช่น จีนยังคงมีปัญหาเรื่องการส่งมอบสินค้าไม่ตรงตามเวลาที่กำหนด ขณะที่เวียดนามยังต้องมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และมีการปรับโครงสร้างทางด้านระบบเศรษฐกิจ และระบบภาษี--จบ--
-อน-
ของเล่นไทยที่ผลิตและส่งออกแบ่งประเภทตามวัสดุที่ใช้เป็นวัตถุดิบได้เป็น 3 ประเภท คือ
1. ของเล่นที่ทำจากพลาสติกและโลหะ การผลิตส่วนใหญ่เป็นการรับจ้างบริษัทต่างชาติ ดังนั้น วัตถุดิบเกือบทั้งหมด เช่น เม็ดพลาสติก สี ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศตามที่บริษัทแม่กำหนด
2. ของเล่นที่ทำจากไม้ ส่วนใหญ่เป็นการผลิตจากไม้ยางพาราและเป็นสินค้าประเภทเสริมทักษะหรือพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็ก ประเทศไทยมีความสามารถสูงในการผลิตสินค้าประเภทนี้ เนื่องจาก ความได้เปรียบ ในด้านวัตถุดิบไม้ยางพาราที่มีอยู่ในประเทศเป็นจำนวนมาก ประกอบกับแรงงานไทยมีฝีมือประณีต ทำให้ของเล่นที่ทำจากไม้ของไทยมีศักยภาพในการแข่งขันสูงเมื่อเทียบกับของเล่นประเภทอื่น ๆ
3. ของเล่นที่ทำจากผ้า และเส้นใย เช่น ตุ๊กตา ทั้งที่เป็นของเล่นสำหรับเด็ก รวมทั้งตุ๊กตาที่ใช้สำหรับประดับและตกแต่ง
การผลิตของเล่นของไทยส่วนใหญ่เป็นการรับจ้างผลิต Original Equipment Manufacturer (OEM) ภายใต้ยี่ห้อหรือเครื่องหมายการค้าของลูกค้าต่างประเทศเป็นสำคัญ การส่งออกของเล่นไทยเริ่มประสบปัญหาตั้งแต่ปี 2538 เมื่อต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะ ค่าแรงงานของไทยสูงขึ้น ขณะที่คู่แข่งขัน เช่น จีน เวียดนาม สามารถพัฒนาการผลิตมากขึ้นเป็นลำดับ ประเทศผู้ซื้อ จึงลดปริมาณการสั่งซื้อจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศคู่แข่งแทน นอกจากนี้ การที่ผู้ประกอบการของไทยบางรายขายตัดราคากันเอง ทำให้ราคาของเล่นโดยทั่วไปมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในช่วงวิกฤตที่ผ่านมาผู้ประกอบการส่วนใหญ่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้ไม่สามารถพัฒนารูปแบบ และเสริมสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันได้
กลยุทธ์สำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของเล่นไทย คือ การส่งเสริมการผลิตของเล่นซึ่งใช้วัตถุดิบภายในประเทศ เช่น ของเล่นจากไม้ยางพารา ตลอดจนการพัฒนารูปแบบสินค้า การสร้างยี่ห้อสินค้า (Brand Name) เป็นของตนเอง เพื่อให้มีโอกาสในการสร้างฐานการตลาด โดยไม่ต้องหวังพึ่งแต่เพียงคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเหมือนเช่นที่ผ่านมา ผู้ผลิตของเล่นไทย จำเป็นต้องพัฒนาการผลิตจากสินค้าระดับล่างไปสู่การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงขึ้นเพื่อหนีประเทศ
คู่แข่ง ซึ่งในปัจจุบันยังมีปัญหาค่อนข้างมาก เช่น จีนยังคงมีปัญหาเรื่องการส่งมอบสินค้าไม่ตรงตามเวลาที่กำหนด ขณะที่เวียดนามยังต้องมีการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และมีการปรับโครงสร้างทางด้านระบบเศรษฐกิจ และระบบภาษี--จบ--
-อน-