รายงานข่าวจากกรมการค้าต่างประเทศ แจ้งว่าสถานการณ์การส่งออกข้าวของไทยในช่วงเดือน มกราคม — เมษายน 2544 มีการส่งออกไปแล้ว ประมาณ 1.93 ล้านตันข้าวสาร มูลค่า 18,581 ล้านบาท ในขณะที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับเมื่อปีที่ผ่านมา ส่งออกไปจำนวน 1.88 ล้านตันข้าวสาร มูลค่า 20,087 ล้านบาท หรือปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 และจากตัวเลขล่าสุดตั้งแต่ 1 ม.ค.- 13 พ.ค. 44 ได้ส่งออกแล้ว 2,147,759 ตัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.92 ส่วนในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ได้มีการส่งมอบข้าวของภาคเอกชนส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ณ จังหวัดอุดรธานี ราคาสูงขึ้นจากเดือนมีนาคม 2544 จากตันละประมาณ 5,850-5,950 บาท ขยับขึ้นเป็นตันละประมาณ 5,900-6,000 บาท
สำหรับในเดือน พฤษภาคม นี้ คาดว่าตลาดจะมีความเคลื่อนไหวมากขึ้น เนื่องจากกรมการค้าต่างประเทศมีสัญญาค้างส่งมอบจำนวน 125,430 ตัน ให้แก่รัฐบาลฟิลิปปินส์ และรัฐบาลบรูไน จำนวน 5,350 ตัน ประกอบกับภาคเอกชนก็มีการทยอยการส่งมอบตามสัญญาเป็นระยะๆเช่นกัน ส่งผลให้ตลาดมีแนวโน้มเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในเชิงบวก
ในการดำเนินการส่งออกข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล(G to G) ปี 2543/44 คณะกรรมการมาตรการและนโยบายข้าว(กนข.) ได้มอบให้ กรมการค้าต่างประเทศ ดำเนินการส่งออกได้โดยไม่จำกัดจำนวน และได้ทำสัญญาขายข้าวให้รัฐบาลต่างประเทศ ดังนี้ บรูไน 26,750 ตัน ส่งมอบแล้ว 10,700 ตัน และขณะนี้ได้รับแจ้งจากบรูไนว่า จะส่งเรือเข้ามารับมอบข้าวในเดือน พฤษภาคม นี้ อีก 5,350 ตัน ฟิลิปปินส์ 150,000 ตัน ซึ่งได้ส่งมอบแล้วเมื่อเดือน เมษายน ที่ผ่านมา 24,570 ตัน และกำลังเตรียมส่งมอบลงเรืออีก 30,200 ตัน และขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศก็อยู่ระหว่างกำลังทาบทามขายข้าวให้รัฐบาลอิหร่านอยู่
จากการประมาณการผลผลิตข้าวปี 2543/44 เบื้องต้นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย คาดว่าจะมีผลผลิตรวมประมาณ 24.138 ล้านตันข้าวเปลือก(ลดลงจากปี 42/43 จำนวน 3.4 หมื่นตัน) แบ่งเป็นข้าวนาปี ประมาณ 19.042 ล้านตัน ข้าวนาปรัง ประมาณ 5.096 ล้านตัน อย่างไรก็ตามผลผลิตข้าวของโลกโดยรวมของปี 2543/44 ซึ่งกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ(USDA)คาดการณ์ไว้ว่าจะมีประมาณ 595 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 399.9 ล้านตันข้าวสาร ต่ำกว่าปี 2542/43 (607.7 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 408.6 ล้านตันข้าวสาร) ขณะที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ(FAO)ได้ปรับลดปริมาณการส่งออกของจีน อินเดีย เวียดนามลง แต่ได้ปรับเพิ่มปริมาณการส่งออกของไทย อียิปต์ และออสเตรเลีย
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤษภาคม 2544--
-อน-
สำหรับในเดือน พฤษภาคม นี้ คาดว่าตลาดจะมีความเคลื่อนไหวมากขึ้น เนื่องจากกรมการค้าต่างประเทศมีสัญญาค้างส่งมอบจำนวน 125,430 ตัน ให้แก่รัฐบาลฟิลิปปินส์ และรัฐบาลบรูไน จำนวน 5,350 ตัน ประกอบกับภาคเอกชนก็มีการทยอยการส่งมอบตามสัญญาเป็นระยะๆเช่นกัน ส่งผลให้ตลาดมีแนวโน้มเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในเชิงบวก
ในการดำเนินการส่งออกข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล(G to G) ปี 2543/44 คณะกรรมการมาตรการและนโยบายข้าว(กนข.) ได้มอบให้ กรมการค้าต่างประเทศ ดำเนินการส่งออกได้โดยไม่จำกัดจำนวน และได้ทำสัญญาขายข้าวให้รัฐบาลต่างประเทศ ดังนี้ บรูไน 26,750 ตัน ส่งมอบแล้ว 10,700 ตัน และขณะนี้ได้รับแจ้งจากบรูไนว่า จะส่งเรือเข้ามารับมอบข้าวในเดือน พฤษภาคม นี้ อีก 5,350 ตัน ฟิลิปปินส์ 150,000 ตัน ซึ่งได้ส่งมอบแล้วเมื่อเดือน เมษายน ที่ผ่านมา 24,570 ตัน และกำลังเตรียมส่งมอบลงเรืออีก 30,200 ตัน และขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศก็อยู่ระหว่างกำลังทาบทามขายข้าวให้รัฐบาลอิหร่านอยู่
จากการประมาณการผลผลิตข้าวปี 2543/44 เบื้องต้นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย คาดว่าจะมีผลผลิตรวมประมาณ 24.138 ล้านตันข้าวเปลือก(ลดลงจากปี 42/43 จำนวน 3.4 หมื่นตัน) แบ่งเป็นข้าวนาปี ประมาณ 19.042 ล้านตัน ข้าวนาปรัง ประมาณ 5.096 ล้านตัน อย่างไรก็ตามผลผลิตข้าวของโลกโดยรวมของปี 2543/44 ซึ่งกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ(USDA)คาดการณ์ไว้ว่าจะมีประมาณ 595 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 399.9 ล้านตันข้าวสาร ต่ำกว่าปี 2542/43 (607.7 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 408.6 ล้านตันข้าวสาร) ขณะที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ(FAO)ได้ปรับลดปริมาณการส่งออกของจีน อินเดีย เวียดนามลง แต่ได้ปรับเพิ่มปริมาณการส่งออกของไทย อียิปต์ และออสเตรเลีย
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤษภาคม 2544--
-อน-