กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
การแถลงข่าวร่วมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวกับผลการหารือเรื่องการขยายผลโครงการ “ยุวทูตความดีเฉลิมพระเกียรติฯ”
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2544 ดร.สุรเกียรติ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายจำลอง ครุฑขุนทด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการหารือเรื่องการขยายผลโครงการ “ยุวทูตความดี เฉลิมพระเกียรติฯ” ดังนี้ ดร. สุรเกียรติฯ ได้กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ริเริ่มโครงการ “ยุวทูตความดี” ขึ้นเพื่อให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ โดยมีเจตนารมย์ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาให้เยาวชนไทยเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่พร้อมทั้งคุณภาพ คุณธรรม และวิสัยทัศน์กว้างไกล ทันสถานการณ์และทันคน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า มีศักยภาพ สามารถแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศได้อย่างภาคภูมิ ทั้งนี้ โครงการ “ยุวทูตความดี” เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) กระทรวงศึกษาธิการ และมีโรงเรียนระดับประถมศึกษาในสังกัด สปช. จำนวน 76 แห่งจากทุกจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการในฐานะโรงเรียนนำร่อง นอกจากนี้ ยังมีสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของ ต่างประเทศประจำประเทศไทย จำนวน 45 แห่ง สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศ จำนวน 56 แห่ง และสมาคม ชมรม และวัดไทยในต่างประเทศอีก 3 แห่งที่เข้าร่วม โครงการฯ ในฐานะ “เพื่อนยุวทูตความดี” ด้วยการจับคู่กับโรงเรียนนำร่อง และมีการติดต่อปฏิสัมพันธ์ ร่วมมือ ตลอดจนการช่วยเหลือสนับสนุนโรงเรียนในรูปแบบต่างๆ ตามความเหมาะสม
ดร. สุรเกียรติฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการหารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการในวันนี้ (3 พฤษภาคม 2544) ได้ข้อสรุปว่า จะให้มีการขยายผลไปยังโรงเรียนประถมศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) ในช่วงปี 2544-2545 เพิ่มอีกในทุกจังหวัดๆ ละไม่เกิน 20 โรงเรียน โดยพยายามให้มีโรงเรียนจากทุกอำเภอในประเทศ ทั้งนี้ จำนวนโรงเรียนที่จะเพิ่มขึ้นให้ขึ้นอยู่กับความพร้อมและขนาดของจังหวัด โดย สปช. จะเป็นผู้ดำเนินการ คัดเลือกจากโรงเรียนที่มีความสนใจ และมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการเป็นสำคัญ ซึ่งคาดว่าจะได้รับแจ้งชื่อโรงเรียนจากทั้ง 76 จังหวัดภายในเดือนพฤษภาคม 2544 ทั้งนี้ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2544 มีโรงเรียนที่แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ แล้ว รวม 392 โรงเรียนจาก 22 จังหวัด
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะทำหน้าที่เชิญชวนและติดต่อประสานกับ องค์กรของต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ต่างประเทศในไทยและของไทยในต่างประเทศ รวมทั้งสมาคม/ชมรมคนไทยในต่างประเทศ และโรงเรียนในต่างประเทศให้ร่วมสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของโรงเรียนที่อยู่ในโครงการฯ ในลักษณะที่ได้มีการดำเนินการกับโรงเรียนนำร่อง อาทิ การให้มี “เพื่อนยุวทูตความดี” จับคู่กับโรงเรียนในโครงการฯ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เคยหารือและเสนอกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และจีน ให้มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับโรงเรียนในระดับประถมและมัธยมซึ่งอาจนำไปสู่การแลกเปลี่ยนนักเรียนเพื่อให้นักเรียนไทยได้มีโอกาสเพิ่มพูนความรู้ให้กว้างยิ่งขึ้น รวมทั้งได้มีโอกาสเผยแพร่วัฒนธรรมและข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการช่วยพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวว่า เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการขยายผลโครงการฯ ภายในปีงบประมาณ 2545 ดังนั้น จะมีการจัดสัมมนาเกี่ยวกับโรงเรียนยุวทูต ความดี ในเดือนมิถุนายน 2544 โดยจะเชิญตัวแทนของโรงเรียน “ขยายผล” ที่เพิ่งเข้าร่วมโครงการฯ เข้าร่วมสัมมนาเพื่อรับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการฯ ต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
การแถลงข่าวร่วมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวกับผลการหารือเรื่องการขยายผลโครงการ “ยุวทูตความดีเฉลิมพระเกียรติฯ”
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2544 ดร.สุรเกียรติ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายจำลอง ครุฑขุนทด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการหารือเรื่องการขยายผลโครงการ “ยุวทูตความดี เฉลิมพระเกียรติฯ” ดังนี้ ดร. สุรเกียรติฯ ได้กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ริเริ่มโครงการ “ยุวทูตความดี” ขึ้นเพื่อให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ โดยมีเจตนารมย์ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาให้เยาวชนไทยเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่พร้อมทั้งคุณภาพ คุณธรรม และวิสัยทัศน์กว้างไกล ทันสถานการณ์และทันคน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า มีศักยภาพ สามารถแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศได้อย่างภาคภูมิ ทั้งนี้ โครงการ “ยุวทูตความดี” เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) กระทรวงศึกษาธิการ และมีโรงเรียนระดับประถมศึกษาในสังกัด สปช. จำนวน 76 แห่งจากทุกจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการในฐานะโรงเรียนนำร่อง นอกจากนี้ ยังมีสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของ ต่างประเทศประจำประเทศไทย จำนวน 45 แห่ง สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในต่างประเทศ จำนวน 56 แห่ง และสมาคม ชมรม และวัดไทยในต่างประเทศอีก 3 แห่งที่เข้าร่วม โครงการฯ ในฐานะ “เพื่อนยุวทูตความดี” ด้วยการจับคู่กับโรงเรียนนำร่อง และมีการติดต่อปฏิสัมพันธ์ ร่วมมือ ตลอดจนการช่วยเหลือสนับสนุนโรงเรียนในรูปแบบต่างๆ ตามความเหมาะสม
ดร. สุรเกียรติฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการหารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการในวันนี้ (3 พฤษภาคม 2544) ได้ข้อสรุปว่า จะให้มีการขยายผลไปยังโรงเรียนประถมศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) ในช่วงปี 2544-2545 เพิ่มอีกในทุกจังหวัดๆ ละไม่เกิน 20 โรงเรียน โดยพยายามให้มีโรงเรียนจากทุกอำเภอในประเทศ ทั้งนี้ จำนวนโรงเรียนที่จะเพิ่มขึ้นให้ขึ้นอยู่กับความพร้อมและขนาดของจังหวัด โดย สปช. จะเป็นผู้ดำเนินการ คัดเลือกจากโรงเรียนที่มีความสนใจ และมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการเป็นสำคัญ ซึ่งคาดว่าจะได้รับแจ้งชื่อโรงเรียนจากทั้ง 76 จังหวัดภายในเดือนพฤษภาคม 2544 ทั้งนี้ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2544 มีโรงเรียนที่แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ แล้ว รวม 392 โรงเรียนจาก 22 จังหวัด
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะทำหน้าที่เชิญชวนและติดต่อประสานกับ องค์กรของต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ต่างประเทศในไทยและของไทยในต่างประเทศ รวมทั้งสมาคม/ชมรมคนไทยในต่างประเทศ และโรงเรียนในต่างประเทศให้ร่วมสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของโรงเรียนที่อยู่ในโครงการฯ ในลักษณะที่ได้มีการดำเนินการกับโรงเรียนนำร่อง อาทิ การให้มี “เพื่อนยุวทูตความดี” จับคู่กับโรงเรียนในโครงการฯ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เคยหารือและเสนอกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และจีน ให้มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับโรงเรียนในระดับประถมและมัธยมซึ่งอาจนำไปสู่การแลกเปลี่ยนนักเรียนเพื่อให้นักเรียนไทยได้มีโอกาสเพิ่มพูนความรู้ให้กว้างยิ่งขึ้น รวมทั้งได้มีโอกาสเผยแพร่วัฒนธรรมและข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการช่วยพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวว่า เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการขยายผลโครงการฯ ภายในปีงบประมาณ 2545 ดังนั้น จะมีการจัดสัมมนาเกี่ยวกับโรงเรียนยุวทูต ความดี ในเดือนมิถุนายน 2544 โดยจะเชิญตัวแทนของโรงเรียน “ขยายผล” ที่เพิ่งเข้าร่วมโครงการฯ เข้าร่วมสัมมนาเพื่อรับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการโครงการฯ ต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-