กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันอังคารที่ 7 มีนาคม 2543 ตามเวลาท้องถิ่นของซาอุดีอาระเบีย ฯพณฯ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในฐานะอะมีรุ้ลฮัจย์ (หัวหน้าคณะผู้แทนฮัจย์ทางการของประเทศไทย) พร้อมด้วยคณะผู้ติดตาม ได้เข้าร่วมในพิธีล้างมหาวิหารกะบะฮ์ ในบริเวณมัสยิดฮารอม เมืองมักกะฮ์ ซาอุดีอาระเบีย
มหาวิหารกะบะฮ์ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของมัสยิดฮัลฮารอม ทั้งนี้ ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม หรือชาวมุสลิมทุกคนจะต้องหันหรือผินหน้าไปยังมหาวิหารกะบะฮ์ ในขณะที่ประกอบศาสนกิจสวดมนต์ หรือกระทำพิธีละหมาด ซึ่งได้ถูกกำหนดให้เป็นหลักของศาสนาอิสลามประการหนึ่ง พิธีล้างมหาวิหารกะบะฮ์ถือเป็นประเพณีที่สำคัญและยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณ ก่อนที่จะถึงเทศกาลพิธีฮัจย์ในแต่ละปี
ในพิธีล้างมหาวิหารกะบะฮ์ ก่อนเทศกาลฮัจย์ประจำปี พ.ศ. 2543 (ฮ.ศ. 1420) ครั้งนี้ H.R.H. Prince Abdul Majeed Bin Abdul Aziz ผู้ว่าการเขตมักกะฮ์ ได้เสด็จแทนพระองค์มาเป็นองค์ประธานในพิธี และในโอกาสดังกล่าว นอกจาก ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะได้มีโอกาสพบปะสนทนากับผู้นำระดับสูงของประเทศในโลกมุสลิมต่าง ๆ แล้ว ยังได้พบและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับบุคคลสำคัญ ๆ ของฝ่ายซาอุดีอาระเบียอีกด้วยหลายท่าน อาทิเช่น H.E. Dr. Saleh Al-Obaid เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลก (Muslim World League) หรืออัล-รอบิเฎาะห์ นาย Halem Qadhi ปลัดกระทรวงกิจการฮัจย์ซาอุดีอาระเบีย รวมตลอดจนบรรดาหัวหน้าคณะผู้แทนฮัจย์จากประเทศต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน
การที่ประเทศไทยส่งผู้แทนระดับสูงเข้าร่วมในพิธีอันสำคัญยิ่งนี้ ทำให้ประเทศต่าง ๆ ตระหนักถึงความเป็นสังคมประชาธิปไตย มีความเสมอภาคและให้สิทธิ นับเป็นสิ่งที่ผู้นำประเทศมุสลิมต่าง ๆ ให้ความสนใจและชื่นชม และเป็นการสร้างความเข้าใจที่ดีต่อประเทศไทยและรัฐบาลไทย มีความนิยมชมชื่น (Goodwill) อันจะมีผลสะท้อนให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสถานภาพของมุสลิมในประเทศไทย หลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด และลดโอกาสที่จะมีการส่งเสริมความขัดแย้งแตกแยกในระยะยาวด้วย--จบ--
เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันอังคารที่ 7 มีนาคม 2543 ตามเวลาท้องถิ่นของซาอุดีอาระเบีย ฯพณฯ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในฐานะอะมีรุ้ลฮัจย์ (หัวหน้าคณะผู้แทนฮัจย์ทางการของประเทศไทย) พร้อมด้วยคณะผู้ติดตาม ได้เข้าร่วมในพิธีล้างมหาวิหารกะบะฮ์ ในบริเวณมัสยิดฮารอม เมืองมักกะฮ์ ซาอุดีอาระเบีย
มหาวิหารกะบะฮ์ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของมัสยิดฮัลฮารอม ทั้งนี้ ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม หรือชาวมุสลิมทุกคนจะต้องหันหรือผินหน้าไปยังมหาวิหารกะบะฮ์ ในขณะที่ประกอบศาสนกิจสวดมนต์ หรือกระทำพิธีละหมาด ซึ่งได้ถูกกำหนดให้เป็นหลักของศาสนาอิสลามประการหนึ่ง พิธีล้างมหาวิหารกะบะฮ์ถือเป็นประเพณีที่สำคัญและยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณ ก่อนที่จะถึงเทศกาลพิธีฮัจย์ในแต่ละปี
ในพิธีล้างมหาวิหารกะบะฮ์ ก่อนเทศกาลฮัจย์ประจำปี พ.ศ. 2543 (ฮ.ศ. 1420) ครั้งนี้ H.R.H. Prince Abdul Majeed Bin Abdul Aziz ผู้ว่าการเขตมักกะฮ์ ได้เสด็จแทนพระองค์มาเป็นองค์ประธานในพิธี และในโอกาสดังกล่าว นอกจาก ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะได้มีโอกาสพบปะสนทนากับผู้นำระดับสูงของประเทศในโลกมุสลิมต่าง ๆ แล้ว ยังได้พบและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับบุคคลสำคัญ ๆ ของฝ่ายซาอุดีอาระเบียอีกด้วยหลายท่าน อาทิเช่น H.E. Dr. Saleh Al-Obaid เลขาธิการสันนิบาตมุสลิมโลก (Muslim World League) หรืออัล-รอบิเฎาะห์ นาย Halem Qadhi ปลัดกระทรวงกิจการฮัจย์ซาอุดีอาระเบีย รวมตลอดจนบรรดาหัวหน้าคณะผู้แทนฮัจย์จากประเทศต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน
การที่ประเทศไทยส่งผู้แทนระดับสูงเข้าร่วมในพิธีอันสำคัญยิ่งนี้ ทำให้ประเทศต่าง ๆ ตระหนักถึงความเป็นสังคมประชาธิปไตย มีความเสมอภาคและให้สิทธิ นับเป็นสิ่งที่ผู้นำประเทศมุสลิมต่าง ๆ ให้ความสนใจและชื่นชม และเป็นการสร้างความเข้าใจที่ดีต่อประเทศไทยและรัฐบาลไทย มีความนิยมชมชื่น (Goodwill) อันจะมีผลสะท้อนให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสถานภาพของมุสลิมในประเทศไทย หลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด และลดโอกาสที่จะมีการส่งเสริมความขัดแย้งแตกแยกในระยะยาวด้วย--จบ--