นายพรพจน์ มธุรพจน์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานโยบาย มาตรการและระบบสารสนเทศ กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผย ผลการประชุมร่วมระหว่างคณะอนุกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาการค้าชายแดน กับเจ้าแขวงสะหวันนะเขด (ท่านสีเหลือ บุนค้ำ)ว่า ปัจจุบันไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิด ทั้งในเรื่องการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว สำหรับการค้าชายแดนระหว่างมุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขด มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,742.2 ล้านบาท (มกราคม — เมษายน 2544) ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 2,146.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18.8 โดยไทยสามารถส่งออกได้ 1,479.5 ล้านบาท นำเข้า 262.7 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่ลดลง เนื่องจาก ตลาดส่งออกที่แท้จริงของไทย คือ เวียดนามซึ่งได้นำเข้าสินค้าคือ รถจักรยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลง โดยขณะนี้เวียดนามได้หันไปซื้อสินค้าจากจีน เนื่องจากราคาถูกกว่าสินค้าไทย ส่วนการนำเข้าที่มีมูลค่าลดลง เนื่องจาก สินค้าหลักที่นำเข้าจาก สปป. ลาว คือไม้ท่อน ซึ่งรัฐบาลสปป. ลาว มีนโยบายไม่ส่งออกไม้ท่อน จึงทำให้มูลค่าการนำเข้าลดลง
แขวงสะหวันนะเขด สปป.ลาว เป็นแขวงที่มีประชากรมากที่สุดในราว 700,000 คน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตรกรรม ทำเหมืองแร่(ทองแดง) หินแกรนิต อย่างไรก็ตามจากการศึกษาของไจก้าประเทศญี่ปุ่น ในโครงการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ระหว่างจังหวัดมุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขด นั้น จะดำเนินการจัดทำเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zones) ในบริเวณเชิงสะพานในแขวงสะหวันนะเขด เพื่อดึงดูดให้มีนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในสปป. ลาวมากยิ่งขึ้น ซึ่งนักลงทุนจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทน ทางด้านภาษี ด้านสาธารณูปโภค และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่ง ท่านสีเหลือ บุนค้ำ เจ้าแขวงสะหวันนะเขด ได้เปิดเผยว่า โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษ จะสามารถเริ่มดำเนินการใน 2-3 ปีข้างหน้า พร้อม ๆ กับการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 และสะพานดังกล่าวจะเชื่อมต่อกับเส้นทาง หมายเลข 9 จากแขวงสะหวันนะเขดถึงเมืองดานัง ในประเทศเวียดนามและจะเป็นประตูเชื่อมโยงถึง การค้า การท่องเที่ยวและการลงทุนในภูมิภาคนี้ต่อไป
อนึ่ง รัฐบาลลาวมีแผนการที่จะทำให้ประชาชนลาวหลุดพ้นจากการเป็นประเทศด้อยพัฒนาภายในปี 2020 ซึ่งจะเห็นได้ว่า สปป. ลาวได้พยายามผลักดันให้ดำเนินการโครงการต่าง ๆ รวมทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ด้วย สำหรับคณะอนุกรรมการที่มีนายพรพจน์ มธุรพจน์เป็นหัวหน้าคณะได้เดินทางไป
ดำเนินโครงการ “เปิดคลีนิคการค้าชายแดน สัญจร และ ศึกษาสำรวจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการค้าชายแดนภายใต้โครงการ ภูมิภาคก้าวหน้ากับการค้าต่างประเทศ” ณ จังหวัดมุกดาหาร และ สปป.ลาว (แขวงสะหวันนะเขด) ระหว่างวันที่ 13-15 มิถุนายน 2544
--กรมการค้าต่างประเทศ มิถุนายน 2544--
-อน-
แขวงสะหวันนะเขด สปป.ลาว เป็นแขวงที่มีประชากรมากที่สุดในราว 700,000 คน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตรกรรม ทำเหมืองแร่(ทองแดง) หินแกรนิต อย่างไรก็ตามจากการศึกษาของไจก้าประเทศญี่ปุ่น ในโครงการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ระหว่างจังหวัดมุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขด นั้น จะดำเนินการจัดทำเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zones) ในบริเวณเชิงสะพานในแขวงสะหวันนะเขด เพื่อดึงดูดให้มีนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในสปป. ลาวมากยิ่งขึ้น ซึ่งนักลงทุนจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทน ทางด้านภาษี ด้านสาธารณูปโภค และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่ง ท่านสีเหลือ บุนค้ำ เจ้าแขวงสะหวันนะเขด ได้เปิดเผยว่า โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษ จะสามารถเริ่มดำเนินการใน 2-3 ปีข้างหน้า พร้อม ๆ กับการสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 และสะพานดังกล่าวจะเชื่อมต่อกับเส้นทาง หมายเลข 9 จากแขวงสะหวันนะเขดถึงเมืองดานัง ในประเทศเวียดนามและจะเป็นประตูเชื่อมโยงถึง การค้า การท่องเที่ยวและการลงทุนในภูมิภาคนี้ต่อไป
อนึ่ง รัฐบาลลาวมีแผนการที่จะทำให้ประชาชนลาวหลุดพ้นจากการเป็นประเทศด้อยพัฒนาภายในปี 2020 ซึ่งจะเห็นได้ว่า สปป. ลาวได้พยายามผลักดันให้ดำเนินการโครงการต่าง ๆ รวมทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ด้วย สำหรับคณะอนุกรรมการที่มีนายพรพจน์ มธุรพจน์เป็นหัวหน้าคณะได้เดินทางไป
ดำเนินโครงการ “เปิดคลีนิคการค้าชายแดน สัญจร และ ศึกษาสำรวจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการค้าชายแดนภายใต้โครงการ ภูมิภาคก้าวหน้ากับการค้าต่างประเทศ” ณ จังหวัดมุกดาหาร และ สปป.ลาว (แขวงสะหวันนะเขด) ระหว่างวันที่ 13-15 มิถุนายน 2544
--กรมการค้าต่างประเทศ มิถุนายน 2544--
-อน-