กรมการค้าต่างประเทศ คต จัดสรรปริมาณการส่งออกรถยนต์ไปไต้หวันสำหรับปี 2545 จำนวน 5,856 คันหากผู้ที่ขึ้นบัญชีเป็นผู้ขอหนังสือรับรองไว้แล้วประสงค์จะส่งออกสามารถยื่นขอรับการจัดสรรปริมาณการส่งออกได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2544 นี้
นายธรรมนูญ เชี่ยวสกุล อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ 89) พ.ศ. 2541 และระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการออกหนังสือรับรองการส่งออกและหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าสำหรับรถยนต์ที่ส่งไปไต้หวัน พ.ศ. 2541 นั้น สืบเนื่องมาจากการที่ไต้หวันได้เปิดตลาดนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนให้ไทยก่อนเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) โดยเริ่มให้โควตาแก่ไทยตั้งแต่ ปี 2541 จำนวน 4,000 คัน และให้โควตาเพิ่มขึ้นทุกปี สำหรับปี 2545 ไต้หวันให้โควตาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 5,856 คัน จากพิกัดอัตราศุลกากรไต้หวัน รวม 26 พิกัด ทั้งนี้ผู้ประสงค์จะส่งรถยนต์ไปไต้หวันจะต้องเป็นนิติบุคคล ยื่นคำขอจดแจ้งขึ้นบัญชีเป็นผู้ขอหนังสือรับรองต่อ คต. ซึ่งรถยนต์ที่จะออกหนังสือรับรองการส่งออกและหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าได้จะต้องเป็นรถยนต์ที่ผลิตหรือประกอบขึ้นในประเทศไทยเท่านั้น
การยื่นขอรับการจัดสรรให้ยื่นขอฯภายเวลาที่กำหนด โดยจัดสรรให้ไม่เกินโควตาที่มี แต่ถ้ามีผู้ยื่นขอ รับจัดสรรเกินกว่าโควตาที่มีอยู่ ก็จะเสนอให้ “คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรปริมาณรถยนต์ที่จะส่งออกไปไต้หวัน” เป็นผู้พิจารณา และหากมีผู้ยื่นขอรับจัดสรรไม่ครบตามโควตาที่มีอยู่ คต.จะนำส่วนที่เหลือไปจัดสรรใหม่ในระยะเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ห้ามโอนสิทธิที่ได้รับการจัดสรร และต้องส่งสินค้ารถยนต์ตามหนังสือรับรองทั้ง 2 ชนิดเข้าไปไต้หวันให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธันวาคม ของปีที่ออกหนังสือรับรองดังกล่าว
นายธรรมนูญฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรถยนต์ภายใต้โควตาประกอบด้วย รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินที่มีความจุไม่เกิน 1,000 ซีซี รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินที่มีความจุเกิน 1,000 ซีซี แต่ไม่เกิน 1,500 ซีซี รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินที่มีความจุเกิน 1,500 ซีซี แต่ไม่เกิน 3,000 ซีซี รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินที่มีความจุเกิน 3,000 ซีซี รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีความจุไม่เกิน 1,500 ซีซี รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีความจุไม่เกิน 1,500 ซีซี แต่ไม่เกิน 2,500 ซีซี รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีความจุเกิน 2,500 ซีซี รถยนต์อื่น ๆ รถยนต์บรรทุกที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีอุปกรณ์แช่เย็นขนาดไม่เกิน 3.5 ตัน รถยนต์บรรทุกที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินที่มีอุปกรณ์แช่เย็นขนาดไม่เกิน 3.5 ตัน แชสซีส์ที่มีเครื่องยนต์ติดตั้ง แชสซีส์ที่ไม่มีเครื่องยนต์ติดตั้ง ทั้งนี้รวมถึงรถยนต์สองหรือสี่ที่นั่ง แชสซีส์รถยนต์นั่ง รถยนต์ตรวจการณ์ แชสซีส์รถยนต์บรรทุกที่มีน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 3.5 ตัน และรถยนต์ตรวจการณ์ด้วย สอบถามรายละเอียดและติดต่อขอรับการจัดสรรได้ที่ กองการค้าสินค้าทั่วไป กรมการค้าต่างประเทศ โทร. 0 — 2547-4804 , 0 — 2547-5124 โทรสาร 0 — 2547-4802
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤศจิกายน 2544--
-อน-
นายธรรมนูญ เชี่ยวสกุล อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ 89) พ.ศ. 2541 และระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการออกหนังสือรับรองการส่งออกและหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าสำหรับรถยนต์ที่ส่งไปไต้หวัน พ.ศ. 2541 นั้น สืบเนื่องมาจากการที่ไต้หวันได้เปิดตลาดนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนให้ไทยก่อนเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) โดยเริ่มให้โควตาแก่ไทยตั้งแต่ ปี 2541 จำนวน 4,000 คัน และให้โควตาเพิ่มขึ้นทุกปี สำหรับปี 2545 ไต้หวันให้โควตาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 5,856 คัน จากพิกัดอัตราศุลกากรไต้หวัน รวม 26 พิกัด ทั้งนี้ผู้ประสงค์จะส่งรถยนต์ไปไต้หวันจะต้องเป็นนิติบุคคล ยื่นคำขอจดแจ้งขึ้นบัญชีเป็นผู้ขอหนังสือรับรองต่อ คต. ซึ่งรถยนต์ที่จะออกหนังสือรับรองการส่งออกและหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าได้จะต้องเป็นรถยนต์ที่ผลิตหรือประกอบขึ้นในประเทศไทยเท่านั้น
การยื่นขอรับการจัดสรรให้ยื่นขอฯภายเวลาที่กำหนด โดยจัดสรรให้ไม่เกินโควตาที่มี แต่ถ้ามีผู้ยื่นขอ รับจัดสรรเกินกว่าโควตาที่มีอยู่ ก็จะเสนอให้ “คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรปริมาณรถยนต์ที่จะส่งออกไปไต้หวัน” เป็นผู้พิจารณา และหากมีผู้ยื่นขอรับจัดสรรไม่ครบตามโควตาที่มีอยู่ คต.จะนำส่วนที่เหลือไปจัดสรรใหม่ในระยะเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ห้ามโอนสิทธิที่ได้รับการจัดสรร และต้องส่งสินค้ารถยนต์ตามหนังสือรับรองทั้ง 2 ชนิดเข้าไปไต้หวันให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธันวาคม ของปีที่ออกหนังสือรับรองดังกล่าว
นายธรรมนูญฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรถยนต์ภายใต้โควตาประกอบด้วย รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินที่มีความจุไม่เกิน 1,000 ซีซี รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินที่มีความจุเกิน 1,000 ซีซี แต่ไม่เกิน 1,500 ซีซี รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินที่มีความจุเกิน 1,500 ซีซี แต่ไม่เกิน 3,000 ซีซี รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินที่มีความจุเกิน 3,000 ซีซี รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีความจุไม่เกิน 1,500 ซีซี รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีความจุไม่เกิน 1,500 ซีซี แต่ไม่เกิน 2,500 ซีซี รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีความจุเกิน 2,500 ซีซี รถยนต์อื่น ๆ รถยนต์บรรทุกที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีอุปกรณ์แช่เย็นขนาดไม่เกิน 3.5 ตัน รถยนต์บรรทุกที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินที่มีอุปกรณ์แช่เย็นขนาดไม่เกิน 3.5 ตัน แชสซีส์ที่มีเครื่องยนต์ติดตั้ง แชสซีส์ที่ไม่มีเครื่องยนต์ติดตั้ง ทั้งนี้รวมถึงรถยนต์สองหรือสี่ที่นั่ง แชสซีส์รถยนต์นั่ง รถยนต์ตรวจการณ์ แชสซีส์รถยนต์บรรทุกที่มีน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 3.5 ตัน และรถยนต์ตรวจการณ์ด้วย สอบถามรายละเอียดและติดต่อขอรับการจัดสรรได้ที่ กองการค้าสินค้าทั่วไป กรมการค้าต่างประเทศ โทร. 0 — 2547-4804 , 0 — 2547-5124 โทรสาร 0 — 2547-4802
--กรมการค้าต่างประเทศ พฤศจิกายน 2544--
-อน-