ข่าวในประเทศ
1. ธปท.ไม่แทรกแซงการปรับอัตราดอกเบี้ยของ ธพ. ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ธปท.จะไม่เข้าไปแทรกแซง กรณีที่ ธพ.บางแห่งได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด การที่ ธพ.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้น เนื่องจากสินเชื่อของ ธพ.จะมีประมาณ 1 ใน 3 ที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ซึ่งคงต้องยอมรับในจุดนี้ แต่ ธพ.ก็ยังมีกำไรแม้ว่าขณะนี้จะปล่อยสินเชื่อน้อยลงก็ตาม และจากการที่ ธปท.ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยซื้อตืนพันธบัตร (อาร์พี) ประเภท 14 วัน ไว้ที่ระดับร้อยละ 1.5 เป็นการส่งสัญญาณว่าทางการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลให้ ธพ.ที่มีสภาพคล่องล้นระบบปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ธปท.กำลังศึกษาปริมาณสภาพคล่องในตลาดเงินว่ามีมากน้อยเพียงใด หากสภาพคล่องไม่สมดุล ธปท.จะดำเนินการแทรกแซงเพื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม (วัฏจักร 8)
2. ก.คลังเห็นชอบแนวทางแก้ปัญหาหนี้เสีย ธ.นครหลวงไทย ผู้ว่าการ ธปท.เปิดเผยว่า ที่ประชุมกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินรายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาของ ธ.นครหลวงไทยว่า ก.คลังได้ส่งหนังสือตอบรับแนวทางแก้ไขตามที่คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ เห็นชอบและได้เสนอ ก.คลังไปก่อนหน้านั้น โดยสรุปแนวทางการแก้ไข คือ หนี้เสียของธนาคารประมาณ 200,000 ล.บาท กองทุนฟื้นฟูฯ จะจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (เอเอ็มซี) ของ ธ.นครหลวงไทยดำเนินการบริหารด้วยตนเอง จากเดิมที่เคยมีทางเลือกให้บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) เข้ามาบริหาร ในส่วนของสินทรัพย์ดีของธนาคารนั้น ก.คลังยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้เลือกแนวทางใดระหว่าง 2 ทางเลือก ที่กองทุนฟื้นฟูฯ เสนอ คือ การบริหารเอง และการไปควบรวมกับธนาคารอื่น แต่ให้กองทุนฟื้นฟูฯ หาต้นทุนที่แท้จริงเปรียบเทียบเสนอไปยัง ก.คลัง โดยมีหลักการตรงกันว่าจะต้องเลือกแนวทางที่มีต้นทุนต่ำสุด (ไทยรัฐ 8)
3. นักเศรษฐศาสตร์การเงินของ ธพ.ต่างประเทศสนับสนุนไทยใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ นายสตีพ ไบรซ์ นักเศรษฐศาสตร์การเงินของ ธ.สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ในสิงคโปร์ กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยว่า สิ่งที่นักลงทุนกังวลมากที่สุด คือ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลต่อการนำเข้าของไทย และอาจส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อ แต่การที่ผู้ผลิตไม่สามารถผลักภาระไปให้ผู้บริโภคได้ ทำให้ต้องตรึงราคาไว้ในระยะเวลาหนึ่ง สถานการณ์เช่นนี้การตอบรับที่เหมาะสมของตลาดเงิน คือ การคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำ โดย ธปท.ตัดสินใจถูกต้องที่ไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน ซึ่งนอกจากจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไปแล้ว ยังเอื้อต่อการปรับโครงสร้างของภาคธุรกิจด้วย (กรุงเทพธุรกิจ 8)
4. สคบ.มีมติลงโทษ ธ.ไทยพาณิชย์เรื่องสัญญาบัตรเครดิต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้ลงโทษ ธ.ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โดยปรับสูงสุด 1 แสนบาท เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามประกาศของคณะกรรมการฯ ว่าด้วยสัญญาเกี่ยวกับการกำหนดให้ธุรกิจบัตรเครดิตเป็นธุรกิจควบคุมสัญญา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เช่น การยกเลิกเงื่อนไขโดยไม่บอกผู้บริโภคทราบก่อนล่วงหน้า (ไทยรัฐ,ไทยโพสต์ 8)
ข่าวต่างประเทศ
1. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองของ สรอ. ลดลงต่ำกว่าร้อยละ 8 ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 43 Freddie Mac เปิดเผยว่า สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. 43 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง อัตราคงที่ระยะ 30 ปี อยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 7.94 ลดลงจากร้อยละ 7.96 ในสัปดาห์ก่อน ซึ่งลดลงต่ำกว่าร้อยละ 8 ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยฯ ระยะ 15 ปี อยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 7.65 ลดลงจากร้อยละ 7.67 ในสัปดาห์ก่อน นับเป็นอัตราต่ำสุดตั้งแต่เคยอยู่ที่อัตราร้อยละ 7.54 ในสัปดาห์ที่ 24 ธ.ค. 42 ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับได้ระยะ 1 ปี( Adjustable Mortgage Rate = ARM) เพิ่มขึ้นอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 7.33 จากร้อยละ 7.27 ในสัปดาห์ก่อน Robert Van Order หัวหน้าเศรษฐกรของ Freddie Mac กล่าวว่า การที่อัตราการจ้างงานของ สรอ. ลดลงในเดือน ส.ค. 43 รวมทั้งสัญญาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อาจกำลังชะลอตัวลง ทำให้โอกาสที่เงินเฟ้อจะสูงขึ้นลดน้อยลง ดังนั้นจึงลดแรงกดดันที่ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองสูงขึ้น(รอยเตอร์ 7)
2. สินค้าคงคลังของผู้ขายส่งใน สรอ.เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือน ก.ค.43 รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 7 ก.ย.43 ก.พาณิชย์ สรอ. รายงานว่า เดือน ก.ค.43 สินค้าคงคลังของผู้ขายส่ง ที่ปรับตามฤดูกาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 มาอยู่ที่มูลค่า 324.15 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 ในเดือน มิ.ย.43 เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 18 ขณะที่ยอดการขายส่ง ลดลงร้อยละ 0.3 มาอยู่ที่มูลค่า 249.34 พัน ล.ดอลลาร์ จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในเดือน มิ.ย.43 ลดลงมากที่สุดนับแต่เดือน ม.ค.42 ที่ลดลงร้อยละ 0.6 ทำให้อัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อการขายส่ง เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1.30 เดือน จากระดับ 1.29 เดือน ในเดือน มิ.ย.43 นับเป็นอัตราสูงที่สุดตั้งแต่เดือน ก.ค.42 ที่เท่ากับ 1.30 เดือนเช่นกัน ทั้งนี้ ในเดือน ก.ค.43 สินค้าคงคลังประเภทสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 อยู่ที่มูลค่า 212.55 พัน ล.ดอลลาร์ จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในเดือน มิ.ย.43 เป็นการเพิ่มขึ้นในหมวดสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะเดียวกัน สินค้าไม่คงทนก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เช่นเดียวกัน อยู่ที่มูลค่า 111.60 พัน ล.ดอลลาร์ หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ในเดือน มิ.ย.43 เป็นการเพิ่มขึ้นในหมวดสินค้าประเภทยาและเครื่องนุ่งห่ม (รอยเตอร์ 7)
3. ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่ของ สรอ. ลดลงในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ย. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 43 ก. แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ย. 43 ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน อยู่ที่จำนวน 316,000 คน ลดลง 3,000 คน จากตัวเลขที่ปรับแล้วจำนวน 319,000 คนในสัปดาห์ก่อน ซึ่งตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการฯใหม่ใกล้เคียงกับที่นักเศรษฐศาสตร์ของวอลล์สตรีทเคยคาดไว้ว่าจะมีจำนวน 317,000 คน ขณะเดียวกัน ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ย. 43 ผู้ขอรับสวัสดิการฯ เฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งไม่รวมความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้นอยู่ที่จำนวน 317,500 คน จากจำนวน 313,250 คน ในสัปดาห์ก่อน นับเป็นระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 1ปีครึ่ง ตั้งแต่เคยมีจำนวน 329,000 คนใน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 ม.ค. 42 (รอยเตอร์ 7)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 7 ก.ย. 43 41.416 (41.237)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน)ณสิ้นวันทำการ 7 ก.ย.43
ซื้อ 41.2079 (41.0283) ขาย 41.5096 (41.3341)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,300 (5,350) ขาย 5,400 (5,450)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 31.28 (30.75)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.79 (16.79) ดีเซลหมุนเร็ว 13.94 (13.94)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.ไม่แทรกแซงการปรับอัตราดอกเบี้ยของ ธพ. ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ธปท.จะไม่เข้าไปแทรกแซง กรณีที่ ธพ.บางแห่งได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด การที่ ธพ.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้น เนื่องจากสินเชื่อของ ธพ.จะมีประมาณ 1 ใน 3 ที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ซึ่งคงต้องยอมรับในจุดนี้ แต่ ธพ.ก็ยังมีกำไรแม้ว่าขณะนี้จะปล่อยสินเชื่อน้อยลงก็ตาม และจากการที่ ธปท.ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยซื้อตืนพันธบัตร (อาร์พี) ประเภท 14 วัน ไว้ที่ระดับร้อยละ 1.5 เป็นการส่งสัญญาณว่าทางการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลให้ ธพ.ที่มีสภาพคล่องล้นระบบปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ธปท.กำลังศึกษาปริมาณสภาพคล่องในตลาดเงินว่ามีมากน้อยเพียงใด หากสภาพคล่องไม่สมดุล ธปท.จะดำเนินการแทรกแซงเพื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม (วัฏจักร 8)
2. ก.คลังเห็นชอบแนวทางแก้ปัญหาหนี้เสีย ธ.นครหลวงไทย ผู้ว่าการ ธปท.เปิดเผยว่า ที่ประชุมกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินรายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาของ ธ.นครหลวงไทยว่า ก.คลังได้ส่งหนังสือตอบรับแนวทางแก้ไขตามที่คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ เห็นชอบและได้เสนอ ก.คลังไปก่อนหน้านั้น โดยสรุปแนวทางการแก้ไข คือ หนี้เสียของธนาคารประมาณ 200,000 ล.บาท กองทุนฟื้นฟูฯ จะจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (เอเอ็มซี) ของ ธ.นครหลวงไทยดำเนินการบริหารด้วยตนเอง จากเดิมที่เคยมีทางเลือกให้บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) เข้ามาบริหาร ในส่วนของสินทรัพย์ดีของธนาคารนั้น ก.คลังยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้เลือกแนวทางใดระหว่าง 2 ทางเลือก ที่กองทุนฟื้นฟูฯ เสนอ คือ การบริหารเอง และการไปควบรวมกับธนาคารอื่น แต่ให้กองทุนฟื้นฟูฯ หาต้นทุนที่แท้จริงเปรียบเทียบเสนอไปยัง ก.คลัง โดยมีหลักการตรงกันว่าจะต้องเลือกแนวทางที่มีต้นทุนต่ำสุด (ไทยรัฐ 8)
3. นักเศรษฐศาสตร์การเงินของ ธพ.ต่างประเทศสนับสนุนไทยใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ นายสตีพ ไบรซ์ นักเศรษฐศาสตร์การเงินของ ธ.สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ในสิงคโปร์ กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยว่า สิ่งที่นักลงทุนกังวลมากที่สุด คือ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลต่อการนำเข้าของไทย และอาจส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อ แต่การที่ผู้ผลิตไม่สามารถผลักภาระไปให้ผู้บริโภคได้ ทำให้ต้องตรึงราคาไว้ในระยะเวลาหนึ่ง สถานการณ์เช่นนี้การตอบรับที่เหมาะสมของตลาดเงิน คือ การคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำ โดย ธปท.ตัดสินใจถูกต้องที่ไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน ซึ่งนอกจากจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไปแล้ว ยังเอื้อต่อการปรับโครงสร้างของภาคธุรกิจด้วย (กรุงเทพธุรกิจ 8)
4. สคบ.มีมติลงโทษ ธ.ไทยพาณิชย์เรื่องสัญญาบัตรเครดิต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้ลงโทษ ธ.ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โดยปรับสูงสุด 1 แสนบาท เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามประกาศของคณะกรรมการฯ ว่าด้วยสัญญาเกี่ยวกับการกำหนดให้ธุรกิจบัตรเครดิตเป็นธุรกิจควบคุมสัญญา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เช่น การยกเลิกเงื่อนไขโดยไม่บอกผู้บริโภคทราบก่อนล่วงหน้า (ไทยรัฐ,ไทยโพสต์ 8)
ข่าวต่างประเทศ
1. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองของ สรอ. ลดลงต่ำกว่าร้อยละ 8 ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 43 Freddie Mac เปิดเผยว่า สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. 43 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง อัตราคงที่ระยะ 30 ปี อยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 7.94 ลดลงจากร้อยละ 7.96 ในสัปดาห์ก่อน ซึ่งลดลงต่ำกว่าร้อยละ 8 ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยฯ ระยะ 15 ปี อยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 7.65 ลดลงจากร้อยละ 7.67 ในสัปดาห์ก่อน นับเป็นอัตราต่ำสุดตั้งแต่เคยอยู่ที่อัตราร้อยละ 7.54 ในสัปดาห์ที่ 24 ธ.ค. 42 ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับได้ระยะ 1 ปี( Adjustable Mortgage Rate = ARM) เพิ่มขึ้นอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 7.33 จากร้อยละ 7.27 ในสัปดาห์ก่อน Robert Van Order หัวหน้าเศรษฐกรของ Freddie Mac กล่าวว่า การที่อัตราการจ้างงานของ สรอ. ลดลงในเดือน ส.ค. 43 รวมทั้งสัญญาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อาจกำลังชะลอตัวลง ทำให้โอกาสที่เงินเฟ้อจะสูงขึ้นลดน้อยลง ดังนั้นจึงลดแรงกดดันที่ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองสูงขึ้น(รอยเตอร์ 7)
2. สินค้าคงคลังของผู้ขายส่งใน สรอ.เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือน ก.ค.43 รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 7 ก.ย.43 ก.พาณิชย์ สรอ. รายงานว่า เดือน ก.ค.43 สินค้าคงคลังของผู้ขายส่ง ที่ปรับตามฤดูกาล เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 มาอยู่ที่มูลค่า 324.15 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.0 ในเดือน มิ.ย.43 เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 18 ขณะที่ยอดการขายส่ง ลดลงร้อยละ 0.3 มาอยู่ที่มูลค่า 249.34 พัน ล.ดอลลาร์ จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในเดือน มิ.ย.43 ลดลงมากที่สุดนับแต่เดือน ม.ค.42 ที่ลดลงร้อยละ 0.6 ทำให้อัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อการขายส่ง เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1.30 เดือน จากระดับ 1.29 เดือน ในเดือน มิ.ย.43 นับเป็นอัตราสูงที่สุดตั้งแต่เดือน ก.ค.42 ที่เท่ากับ 1.30 เดือนเช่นกัน ทั้งนี้ ในเดือน ก.ค.43 สินค้าคงคลังประเภทสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 อยู่ที่มูลค่า 212.55 พัน ล.ดอลลาร์ จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในเดือน มิ.ย.43 เป็นการเพิ่มขึ้นในหมวดสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะเดียวกัน สินค้าไม่คงทนก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เช่นเดียวกัน อยู่ที่มูลค่า 111.60 พัน ล.ดอลลาร์ หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ในเดือน มิ.ย.43 เป็นการเพิ่มขึ้นในหมวดสินค้าประเภทยาและเครื่องนุ่งห่ม (รอยเตอร์ 7)
3. ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่ของ สรอ. ลดลงในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ย. 43 รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 43 ก. แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ย. 43 ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน อยู่ที่จำนวน 316,000 คน ลดลง 3,000 คน จากตัวเลขที่ปรับแล้วจำนวน 319,000 คนในสัปดาห์ก่อน ซึ่งตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการฯใหม่ใกล้เคียงกับที่นักเศรษฐศาสตร์ของวอลล์สตรีทเคยคาดไว้ว่าจะมีจำนวน 317,000 คน ขณะเดียวกัน ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ย. 43 ผู้ขอรับสวัสดิการฯ เฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งไม่รวมความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้นอยู่ที่จำนวน 317,500 คน จากจำนวน 313,250 คน ในสัปดาห์ก่อน นับเป็นระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 1ปีครึ่ง ตั้งแต่เคยมีจำนวน 329,000 คนใน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 ม.ค. 42 (รอยเตอร์ 7)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 7 ก.ย. 43 41.416 (41.237)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน)ณสิ้นวันทำการ 7 ก.ย.43
ซื้อ 41.2079 (41.0283) ขาย 41.5096 (41.3341)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,300 (5,350) ขาย 5,400 (5,450)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 31.28 (30.75)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 16.79 (16.79) ดีเซลหมุนเร็ว 13.94 (13.94)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-