ข่าวในประเทศ
1. ธปท. ประเมินว่าในช่วง 3 ปีข้างหน้ากองทุนฟื้นฟูฯ จะมีภาระหนี้ทั้งสิ้น 1.386 ล้านล้านบาท ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงตัวเลขความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินว่า จากการประเมินภาระหนี้ผูกพันกองทุนฟื้นฟูฯ ล่วงหน้า 3 ปีที่สามารถคำนวณความเสียหายชัดเจน กองทุนฟื้นฟูฯ จะมีความเสียหายรวม 8.86 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นความเสียหายที่เกิดจาก 1. การช่วยเหลือสภาพคล่องให้สถาบันการเงิน นอกเหนือจาก 56 แห่งที่ปิดกิจการไปแล้ว 2. ช่วยเหลือผู้ฝากเงินและสถาบันการเงินเจ้าหนี้ของสถาบันการเงิน 56 แห่ง 3. ชดเชยผลขาดทุนจากการคำนวณราคาหุ้นตามมูลค่าทางบัญชีสุทธิของสถาบันการเงินที่รัฐบาลเข้าแทรกแซง และ 4. ชดเชยความเสียหายจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของบริษัทบริหารสินทรัพย์และธพ.ของรัฐที่โอนไปบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย หลังจากหักส่วนที่ได้คืนจากองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงินแล้ว โดยกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ออก พธบ. เองและกู้เงินจากตลาดซื้อคืน พธบ. มาชดเชยความเสียหายไปแล้ว 4.32 แสน ล.บาท และจะออก พธบ. อายุ 20 ปีอีก 4.54 แสน ล. บาทเพื่อชดเชยความเสียหาย อนึ่ง หากรวมความเสียหายที่ ก.คลังออก พธบ. ชดเชยให้ก่อนหน้านี้ 5 แสน ล.บาทแล้วกองทุนฟื้นฟูฯ จะมีความเสียหายรวม 1.386 ล้านล้านบาท (มติชนรายวัน, ไทยรัฐ 24)
2. ธนาคารโลกประเมินไทยสามารถผ่านพ้นภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ธ.โลกออกรายงานประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยระบุว่า เศรษฐกิจไทยจะสามารถผ่านพ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวได้ โดยชี้ว่า ตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทยฟื้นตัวอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยอัตราส่วนของทุนสำรองเมื่อเทียบกับหนี้ระยะสั้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 57 ในปี 40 เป็นร้อยละ 137 ในปี 44 ตัวเลขหนี้ต่างประเทศลดลงจากร้อยละ 70 ของผลิตภัณฑ์ในประเทศ(จีดีพี)ในปี 40 เป็นร้อยละ 65 ในปี 44 สำหรับตัวเลขดุลการค้า แม้จะลดลงใน ไตรมาสแรกปี 44 แต่คาดว่าแนวโน้มจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีปัจจัยที่เป็นความเสี่ยง ได้แก่ การส่งออกซึ่งปัจจุบันการขยายตัวเริ่มชะลอลง ปัญหาหนี้เสียในภาคธนาคาร ปัญหาความล่าช้าในการปรับโครงสร้างภาคธุรกิจ รวมถึงปัญหาความเกี่ยวเนื่องระหว่างนโยบายระยะสั้นกับเป้าหมายระยะกลาง ซึ่งมาตรการระยะสั้นต่างๆ ของรัฐบาล ธ.โลกเห็นว่าดำเนินการในทิศทางที่ถูกต้อง แต่ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างหลักประกันเพื่อให้แน่ใจว่านโยบายระยะสั้นเหล่านั้นสอดคล้องกับเป้าหมายระยะกลาง (กรุงเทพธุรกิจ 24)
3. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายงานผลประกอบการของ บง.และ บงล.ในไตรมาส 2 ปี 44 รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 44 ของบริษัทเงินทุน (บง.) และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ (บงล.) ที่จดทะเบียนใน ตลท.ทั้ง 10 แห่ง มีกำไรสุทธิรวมจำนวน 571.17 ล.บาท ลดลง 655.10 ล.บาท หรือลดลงร้อยละ 53.42 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 44 ที่มีกำไรสุทธิ 1,226.27 ล.บาท(เดลินิวส์ 24)
ข่าวต่างประเทศ
1. นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอัตราการว่างงานของ สรอ. จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.9 ในไตรมาสที่ 4 ปี 44 รายงานจากนิวยอร์กเมื่อ 23 ก.ค.44 รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจการคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 44 อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับเฉลี่ยร้อยละ 4.7 และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.9 ในไตรมาสที่ 4 โดยจะอยู่ในระดับนี้จนถึงปี 45 ก่อนชะลอตัวมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.8 ในไตรมาสแรกของปี 46 ซึ่งเป็นการคาดการณ์ในแง่ร้ายเมื่อเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนที่คาดว่า อัตราการว่างงานจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.5 ในไตรมาสแรกปี 46 สำหรับปี 44 นักเศรษฐศาสตร์ประมาณการว่าอัตราการว่างงานเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.6 และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.9 ในปี 45 จากระดับเฉลี่ยร้อยละ 4.0 ในปี 43 ทั้งนี้ การว่างงานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ปี 44 นั้น เนื่องจากตลาดแรงงานได้รับผลกระทบจากการอ่อนแอของธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 43 และต่อเนื่องมาถึงครึ่งแรกของปี 44 (รอยเตอร์ 23)
2. ผลผลิตอุตสาหกรรมของไต้หวันลดลงร้อยละ 11.27 ในเดือน มิ.ย. 44 รายงานจากไทเปเมื่อ 23 ก.ค. 44 ก. เศรษฐกิจไต้หวัน เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมลดลงร้อยละ 11.27 ในเดือน มิ.ย. 44 เทียบต่อปี ซึ่งลดลงมากที่สุดตั้งแต่ปี 18 และสอดคล้องกับผลการสำรวจของรอยเตอร์ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่า จะลดลงร้อยละ 9.21 เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของ สรอ. ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไต้หวัน ขณะที่ความต้องการและการลงทุนในประเทศลดลง ส่วนผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ใหญ่สุดของผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวม ลดลงร้อยละ 11.8ในเดือน มิ.ย. 44 เทียบกับเดือน มิ.ย. 43 และลดลงร้อยละ 7.02 ในช่วงครึ่งแรกปี 44 ขณะเดียวกัน ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง ลดลงร้อยละ 15.2 และร้อยละ 8.75 ตามลำดับ Chang Yaw-tzong หัวหน้านักสถิติของกระทรวงฯ คาดว่า ภาคอุตสาหกรรมการผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 44 จะยังคงโน้มต่ำลงจากระดับที่เคยสูงสุดในปี 43 ในวันเดียวกัน Directorate General of Budget, Accounting and Statistics เปิดเผยว่า การว่างงานของไต้หวันในเดือน มิ.ย. 44 มีอัตราร้อยละ 4.51 เพิ่มขึ้นจากที่เคยสูงเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 4.22 ในเดือน พ.ค.44 และเป็นอัตราการว่างงานที่สูงกว่าร้อยละ 3 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 เนื่องจากโรงงานหลายแห่งปิดและปลดคนงานออก(รอยเตอร์23)
3. ดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวมของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 0.9 ในเดือน พ.ค.44 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 23 ก.ค.44 ก.เศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (METI) เปิดเผยว่า เดือน พ.ค.44 ดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวมเทียบต่อเดือน ลดลงร้อยละ 0.9 โดยภาคการก่อสร้างลดลงถึงร้อยละ 9.0 ภาคอุตสาหกรรมการผลิตลดลงร้อยละ 1.2 อย่างไรก็ตาม teriary sector index ซึ่งเป็นตัวประกอบสำคัญของดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 2.4 ในเดือน มิ.ย.44 (รอยเตอร์ 23)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 23 ก.ค. 44 45.780 (45.702)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 23 ก.ค. 44ซื้อ 45.6024 (45.4763) ขาย 45.9088 (45.7866)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,800 (5,800) ขาย 5,900 (5,900)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 22.95 (22.95)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 14.79 (14.799) ดีเซลหมุนเร็ว 13.64 (13.64)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท. ประเมินว่าในช่วง 3 ปีข้างหน้ากองทุนฟื้นฟูฯ จะมีภาระหนี้ทั้งสิ้น 1.386 ล้านล้านบาท ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงตัวเลขความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินว่า จากการประเมินภาระหนี้ผูกพันกองทุนฟื้นฟูฯ ล่วงหน้า 3 ปีที่สามารถคำนวณความเสียหายชัดเจน กองทุนฟื้นฟูฯ จะมีความเสียหายรวม 8.86 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นความเสียหายที่เกิดจาก 1. การช่วยเหลือสภาพคล่องให้สถาบันการเงิน นอกเหนือจาก 56 แห่งที่ปิดกิจการไปแล้ว 2. ช่วยเหลือผู้ฝากเงินและสถาบันการเงินเจ้าหนี้ของสถาบันการเงิน 56 แห่ง 3. ชดเชยผลขาดทุนจากการคำนวณราคาหุ้นตามมูลค่าทางบัญชีสุทธิของสถาบันการเงินที่รัฐบาลเข้าแทรกแซง และ 4. ชดเชยความเสียหายจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของบริษัทบริหารสินทรัพย์และธพ.ของรัฐที่โอนไปบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย หลังจากหักส่วนที่ได้คืนจากองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงินแล้ว โดยกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ออก พธบ. เองและกู้เงินจากตลาดซื้อคืน พธบ. มาชดเชยความเสียหายไปแล้ว 4.32 แสน ล.บาท และจะออก พธบ. อายุ 20 ปีอีก 4.54 แสน ล. บาทเพื่อชดเชยความเสียหาย อนึ่ง หากรวมความเสียหายที่ ก.คลังออก พธบ. ชดเชยให้ก่อนหน้านี้ 5 แสน ล.บาทแล้วกองทุนฟื้นฟูฯ จะมีความเสียหายรวม 1.386 ล้านล้านบาท (มติชนรายวัน, ไทยรัฐ 24)
2. ธนาคารโลกประเมินไทยสามารถผ่านพ้นภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ธ.โลกออกรายงานประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยระบุว่า เศรษฐกิจไทยจะสามารถผ่านพ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวได้ โดยชี้ว่า ตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทยฟื้นตัวอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยอัตราส่วนของทุนสำรองเมื่อเทียบกับหนี้ระยะสั้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 57 ในปี 40 เป็นร้อยละ 137 ในปี 44 ตัวเลขหนี้ต่างประเทศลดลงจากร้อยละ 70 ของผลิตภัณฑ์ในประเทศ(จีดีพี)ในปี 40 เป็นร้อยละ 65 ในปี 44 สำหรับตัวเลขดุลการค้า แม้จะลดลงใน ไตรมาสแรกปี 44 แต่คาดว่าแนวโน้มจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีปัจจัยที่เป็นความเสี่ยง ได้แก่ การส่งออกซึ่งปัจจุบันการขยายตัวเริ่มชะลอลง ปัญหาหนี้เสียในภาคธนาคาร ปัญหาความล่าช้าในการปรับโครงสร้างภาคธุรกิจ รวมถึงปัญหาความเกี่ยวเนื่องระหว่างนโยบายระยะสั้นกับเป้าหมายระยะกลาง ซึ่งมาตรการระยะสั้นต่างๆ ของรัฐบาล ธ.โลกเห็นว่าดำเนินการในทิศทางที่ถูกต้อง แต่ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างหลักประกันเพื่อให้แน่ใจว่านโยบายระยะสั้นเหล่านั้นสอดคล้องกับเป้าหมายระยะกลาง (กรุงเทพธุรกิจ 24)
3. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายงานผลประกอบการของ บง.และ บงล.ในไตรมาส 2 ปี 44 รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 44 ของบริษัทเงินทุน (บง.) และบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ (บงล.) ที่จดทะเบียนใน ตลท.ทั้ง 10 แห่ง มีกำไรสุทธิรวมจำนวน 571.17 ล.บาท ลดลง 655.10 ล.บาท หรือลดลงร้อยละ 53.42 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 44 ที่มีกำไรสุทธิ 1,226.27 ล.บาท(เดลินิวส์ 24)
ข่าวต่างประเทศ
1. นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอัตราการว่างงานของ สรอ. จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.9 ในไตรมาสที่ 4 ปี 44 รายงานจากนิวยอร์กเมื่อ 23 ก.ค.44 รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจการคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ว่า ไตรมาสที่ 3 ปี 44 อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับเฉลี่ยร้อยละ 4.7 และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.9 ในไตรมาสที่ 4 โดยจะอยู่ในระดับนี้จนถึงปี 45 ก่อนชะลอตัวมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.8 ในไตรมาสแรกของปี 46 ซึ่งเป็นการคาดการณ์ในแง่ร้ายเมื่อเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนที่คาดว่า อัตราการว่างงานจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.5 ในไตรมาสแรกปี 46 สำหรับปี 44 นักเศรษฐศาสตร์ประมาณการว่าอัตราการว่างงานเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.6 และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.9 ในปี 45 จากระดับเฉลี่ยร้อยละ 4.0 ในปี 43 ทั้งนี้ การว่างงานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ปี 44 นั้น เนื่องจากตลาดแรงงานได้รับผลกระทบจากการอ่อนแอของธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 43 และต่อเนื่องมาถึงครึ่งแรกของปี 44 (รอยเตอร์ 23)
2. ผลผลิตอุตสาหกรรมของไต้หวันลดลงร้อยละ 11.27 ในเดือน มิ.ย. 44 รายงานจากไทเปเมื่อ 23 ก.ค. 44 ก. เศรษฐกิจไต้หวัน เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวมลดลงร้อยละ 11.27 ในเดือน มิ.ย. 44 เทียบต่อปี ซึ่งลดลงมากที่สุดตั้งแต่ปี 18 และสอดคล้องกับผลการสำรวจของรอยเตอร์ที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่า จะลดลงร้อยละ 9.21 เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของ สรอ. ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไต้หวัน ขณะที่ความต้องการและการลงทุนในประเทศลดลง ส่วนผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ใหญ่สุดของผลผลิตอุตสาหกรรมโดยรวม ลดลงร้อยละ 11.8ในเดือน มิ.ย. 44 เทียบกับเดือน มิ.ย. 43 และลดลงร้อยละ 7.02 ในช่วงครึ่งแรกปี 44 ขณะเดียวกัน ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง ลดลงร้อยละ 15.2 และร้อยละ 8.75 ตามลำดับ Chang Yaw-tzong หัวหน้านักสถิติของกระทรวงฯ คาดว่า ภาคอุตสาหกรรมการผลิตในไตรมาสที่ 3 ปี 44 จะยังคงโน้มต่ำลงจากระดับที่เคยสูงสุดในปี 43 ในวันเดียวกัน Directorate General of Budget, Accounting and Statistics เปิดเผยว่า การว่างงานของไต้หวันในเดือน มิ.ย. 44 มีอัตราร้อยละ 4.51 เพิ่มขึ้นจากที่เคยสูงเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 4.22 ในเดือน พ.ค.44 และเป็นอัตราการว่างงานที่สูงกว่าร้อยละ 3 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 เนื่องจากโรงงานหลายแห่งปิดและปลดคนงานออก(รอยเตอร์23)
3. ดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวมของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 0.9 ในเดือน พ.ค.44 รายงานจากโตเกียวเมื่อ 23 ก.ค.44 ก.เศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (METI) เปิดเผยว่า เดือน พ.ค.44 ดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวมเทียบต่อเดือน ลดลงร้อยละ 0.9 โดยภาคการก่อสร้างลดลงถึงร้อยละ 9.0 ภาคอุตสาหกรรมการผลิตลดลงร้อยละ 1.2 อย่างไรก็ตาม teriary sector index ซึ่งเป็นตัวประกอบสำคัญของดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 2.4 ในเดือน มิ.ย.44 (รอยเตอร์ 23)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 23 ก.ค. 44 45.780 (45.702)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 23 ก.ค. 44ซื้อ 45.6024 (45.4763) ขาย 45.9088 (45.7866)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 5,800 (5,800) ขาย 5,900 (5,900)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 22.95 (22.95)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 14.79 (14.799) ดีเซลหมุนเร็ว 13.64 (13.64)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-