กรุงเทพ--23 ก.พ.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์การทำประมงของไทยในน่านน้ำอินโดนีเซียว่า ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมามีการจับกุมเรือประมงไทยที่ได้ลักลอบทำการประมงในน่านน้ำอินโดนีเซีย จำนวนหลายลำอาทิ กรณีเรือประมงจำนวน 40 ลำ ที่ถูกจับกุมและกักไว้ที่ฐานทัพเรือเกาะซาบัง จ. สุมาตราเหนือซึ่งมีลูกเรือ 120 คนถูกควบคุมตัวอยู่ด้วยและยังไม่มีการปล่อยตัวแต่ประการใดนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้นายดอนฯ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศชัดเจนว่า ทางการอินโดนีเซียจะเข้มงวดและจับกุมการลักลอบทำการประมงต่างชาติเพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2543 รัฐบาลอินโดนีเซียก็ได้แจ้งให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตาทราบว่ายังมีเรือต่างชาติอีกกว่า 100 ลำ ที่ลักลอบเข้าไปทำการประมงในอินโดนีเซียและยังติดตามจับกุมกันอยู่ จึงขอให้ทางการไทยช่วยประชาสัมพันธ์ให้เรือประมงไทยเพิ่มความระมัดระวังในการทำประมงมิให้ รุกล้ำน่านน้ำอินโดนีเซียโดยมิได้รับอนุญาต เพราะในสถานการณ์ปัจจุบันหากมีปัญหาการจับกุมเรือเกิดเกิดขึ้นแล้ว ทางการอินโดนีเซียก็ยากที่จะปล่อยตัวประมงต่างชาติ เพราะขณะนี้ประชาชน อินโดนีเซียในบริเวณที่เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเป็นประจำมีความรู้สึกต่อต้านที่รุนแรง
อย่างไรก็ตาม ทางการอินโดนีเซียก็มีความพร้อมและสนับสนุนให้ไทย-อินโดนีเซียมีความร่วมมือด้านการประมงร่วมและอุตสาหกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ด้านประมง รวมถึงพร้อมจะแนะนำนักธุรกิจลงทุนอินโดนีเซียที่มีความสนใจที่จะร่วมลงทุนกับภาคเอกชนไทยต่อไป--จบ--
วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์การทำประมงของไทยในน่านน้ำอินโดนีเซียว่า ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมามีการจับกุมเรือประมงไทยที่ได้ลักลอบทำการประมงในน่านน้ำอินโดนีเซีย จำนวนหลายลำอาทิ กรณีเรือประมงจำนวน 40 ลำ ที่ถูกจับกุมและกักไว้ที่ฐานทัพเรือเกาะซาบัง จ. สุมาตราเหนือซึ่งมีลูกเรือ 120 คนถูกควบคุมตัวอยู่ด้วยและยังไม่มีการปล่อยตัวแต่ประการใดนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้นายดอนฯ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศชัดเจนว่า ทางการอินโดนีเซียจะเข้มงวดและจับกุมการลักลอบทำการประมงต่างชาติเพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2543 รัฐบาลอินโดนีเซียก็ได้แจ้งให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตาทราบว่ายังมีเรือต่างชาติอีกกว่า 100 ลำ ที่ลักลอบเข้าไปทำการประมงในอินโดนีเซียและยังติดตามจับกุมกันอยู่ จึงขอให้ทางการไทยช่วยประชาสัมพันธ์ให้เรือประมงไทยเพิ่มความระมัดระวังในการทำประมงมิให้ รุกล้ำน่านน้ำอินโดนีเซียโดยมิได้รับอนุญาต เพราะในสถานการณ์ปัจจุบันหากมีปัญหาการจับกุมเรือเกิดเกิดขึ้นแล้ว ทางการอินโดนีเซียก็ยากที่จะปล่อยตัวประมงต่างชาติ เพราะขณะนี้ประชาชน อินโดนีเซียในบริเวณที่เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเป็นประจำมีความรู้สึกต่อต้านที่รุนแรง
อย่างไรก็ตาม ทางการอินโดนีเซียก็มีความพร้อมและสนับสนุนให้ไทย-อินโดนีเซียมีความร่วมมือด้านการประมงร่วมและอุตสาหกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ด้านประมง รวมถึงพร้อมจะแนะนำนักธุรกิจลงทุนอินโดนีเซียที่มีความสนใจที่จะร่วมลงทุนกับภาคเอกชนไทยต่อไป--จบ--