การประชุมผู้นำอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี (อาเซียน+3) ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2542 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ --------------------- ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (นายชวน หลีกภัย) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมผู้นำอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี โดยมี H.E. Mr. Joseph Ejercito Estrada ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เป็นประธาน ฝ่ายอาเซียน ประชุมร่วมกับ H.E. Mr. Zhu Rongji ประธานาธิบดีจีน H.E. Mr. Keizo Obuchi นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และ H.E. Mr. Kim Dae Jung ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี สาระสำคัญของ การประชุมสรุปได้ดังนี้ที่ประชุมตกลงให้มีแถลงการณ์ร่วมความร่วมมือในเอเซียตะวันออก (Joint Statement on East Asia Cooperation) เพื่อใช้เป็นกรอบความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลีในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยมอบให้รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโส ที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการต่อไป และกำหนดให้ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลีในช่วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกับประเทศคู่เจรจา (PMC) ในปี 2543 ณ กรุงเทพฯ เพื่อทบทวนผลความคืบหน้าในการดำเนินงานตามกรอบแถลงการณ์ร่วม สรุปประเด็นสำคัญดังนี้ (1) ความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ ให้กระชับความร่วมมือกันในด้านการค้า การลงทุน การถ่ายทอด- เทคโนโลยี ความร่วมมือทางวิชาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การท่องเที่ยว การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจต่างๆ (รวมทั้งลุ่มแม่น้ำโขง) และการร่วมมือกับ ภาคเอกชน โดยให้หารือกันเป็นรายสาขาอุตสาหกรรม เป็นต้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนตกลงให้ เชิญจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลีร่วมหารือในช่วงการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของการประชุม รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ในเดือนพฤษภาคม 2543 ณ ประเทศพม่า (2) ผู้นำทั้งสามประเทศได้เสนอความเห็นต่อที่ประชุม ดังนี้ จีน เห็นควรเน้นกระชับความร่วมมือกันในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งจะช่วยปรับปรุงขีดความสามารถ แข่งขันของเอเซียตะวันออกได้ และเสนอให้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อศึกษาวิธีการเพิ่ม การแลกเปลี่ยนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรม และ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ญี่ปุ่น พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อกระชับความร่วมมือในภูมิภาค โดยเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ข้าราชการ และนักศึกษา รวมทั้งช่วยเหลือการดำเนินงานของสำนักเลขา ธิการอาเซียนซึ่งเป็นกลไกสำคัญของความร่วมมือในภูมิภาค สาธารณรัฐเกาหลี เสนอให้มีการหารือระหว่างภาคเอกชนเป็นรายสาขา ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศ และโทรคมนาคม วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และการเงิน โดยเน้นให้ฝึกอบรมผ่านทางอินเทอร์เน็ต และพัฒนาเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี การประชุมนี้นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำอาเซียน 10 ประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับจีน ญี่ปุ่น และ สาธารณรัฐเกาหลี ทั้งสามประเทศต่างก็มีความสำคัญต่ออาเซียนในฐานะประเทศคู่เจรจา ซึ่งความร่วมมือ ระหว่าง กันทางการค้า และการลงทุนได้ก้าวหน้าไประดับหนึ่ง ในอนาคตมีแนวโน้มที่ความร่วมมือ ระหว่างกันจะพัฒนาไปสู่การรวมกลุ่มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเซียตะวันออก โดยเฉพาะการจัดทำเขตการค้า เสรีในภูมิภาค ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมการศึกษาผลดี และผลเสียของความร่วมมือดังกล่าวให้ รอบคอบเพื่อเตรียมการปรับตัวของอาเซียน (รวมทั้งไทย) รองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อผลประโยชน์ ในภูมิภาคโดยรวม
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กุมภาพันธ์ 2543--
-ปส-
--กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ กุมภาพันธ์ 2543--
-ปส-