กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (30 มิถุนายน 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ตามที่เรือประมงไทยจำนวน 40 ลำและลูกเรือไทยจำนวน 120 คน ถูกทางการอินโดนีเซียจับกุมเมื่อประมาณ 7 เดือนที่ผ่านมา นั้น ในระหว่างการเยือนอินโดเนีซียเมื่อวันที่ 25-26 ธันวาคม 2542
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้บัญชาการกองทัพอินโดนีเซีย เพื่อขอให้ทางการอินโดนีเซีย ปล่อยเรือและลูกเรือประมงไทยดังกล่าว นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2543 นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีได้หารือกับนายอับดุลย์เราะห์มาน วาฮิด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เพื่อขอให้รัฐบาล อินโดนีเซียเร่งดำเนินการพิจารณาโดยเร็ว กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งกรมประมงและสมาคมประมงนอกน่านน้ำแห่ง ประเทศไทยขอให้แจ้งเจ้าของเรือประมงไทย 40 ลำดังกล่าวให้ส่งตัวแทนไปเจรจาในรายละเอียด กับทางการอินโดนีเซียซึ่งตั้งเงื่อนไขให้เจ้าของเรือประมงไทยมอบเรือ 40 ลำเป็นการทดแทน
อย่างไรก็ดี เจ้าของเรือประมงไทยแต่ละกลุ่มยังรอดูท่าทีและไม่ส่งตัวแทนไปเจรจากับทางการอินโดนีเซียโดยตรง แต่ใช้นายหน้าชาวอินโดนีเซียเป็นตัวแทนเจรจา การค้างคาของการเจรจา ทำให้มีการกล่าวหาว่ามีการเรียกเงินค่าไถ่เรือจำนวน 1.1 ล้านบาท ต่อลำ ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศจึงขอยืนยันว่า การพาดพิงถึงกระทรวงการต่างประเทศในเรื่องนี้ถือเป็นการกล่าวหาที่เลื่อนลอย อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพร้อมที่จะรับหลักฐานใดๆ (หากมี) ซึ่งแสดงความพัวพันของใครก็ตามที่อยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อจัดการอย่างเด็ดขาดต่อไป เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2543 ดร.สุรินทร์ ฯ ได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย เพื่อขอให้มีการพิจารณาคดีดังกล่าวด้วยความอะลุ้มอะล่วยอีกครั้งหนึ่ง โดย ขอให้พิจารณาบนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่าง 2 ประเทศ นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดส่งคณะผู้แทนเดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย เพื่อแก้ไขปัญหาการ ทำประมงร่วม พร้อมทั้งดูแลสวัสดิการชาวประมงไทยที่เกาะโมลุกกะของอินโดนีเซียอีกด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-
วันนี้ (30 มิถุนายน 2543) นายดอน ปรมัตถ์วินัย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ตามที่เรือประมงไทยจำนวน 40 ลำและลูกเรือไทยจำนวน 120 คน ถูกทางการอินโดนีเซียจับกุมเมื่อประมาณ 7 เดือนที่ผ่านมา นั้น ในระหว่างการเยือนอินโดเนีซียเมื่อวันที่ 25-26 ธันวาคม 2542
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้บัญชาการกองทัพอินโดนีเซีย เพื่อขอให้ทางการอินโดนีเซีย ปล่อยเรือและลูกเรือประมงไทยดังกล่าว นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2543 นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีได้หารือกับนายอับดุลย์เราะห์มาน วาฮิด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เพื่อขอให้รัฐบาล อินโดนีเซียเร่งดำเนินการพิจารณาโดยเร็ว กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งกรมประมงและสมาคมประมงนอกน่านน้ำแห่ง ประเทศไทยขอให้แจ้งเจ้าของเรือประมงไทย 40 ลำดังกล่าวให้ส่งตัวแทนไปเจรจาในรายละเอียด กับทางการอินโดนีเซียซึ่งตั้งเงื่อนไขให้เจ้าของเรือประมงไทยมอบเรือ 40 ลำเป็นการทดแทน
อย่างไรก็ดี เจ้าของเรือประมงไทยแต่ละกลุ่มยังรอดูท่าทีและไม่ส่งตัวแทนไปเจรจากับทางการอินโดนีเซียโดยตรง แต่ใช้นายหน้าชาวอินโดนีเซียเป็นตัวแทนเจรจา การค้างคาของการเจรจา ทำให้มีการกล่าวหาว่ามีการเรียกเงินค่าไถ่เรือจำนวน 1.1 ล้านบาท ต่อลำ ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศจึงขอยืนยันว่า การพาดพิงถึงกระทรวงการต่างประเทศในเรื่องนี้ถือเป็นการกล่าวหาที่เลื่อนลอย อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพร้อมที่จะรับหลักฐานใดๆ (หากมี) ซึ่งแสดงความพัวพันของใครก็ตามที่อยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อจัดการอย่างเด็ดขาดต่อไป เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2543 ดร.สุรินทร์ ฯ ได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย เพื่อขอให้มีการพิจารณาคดีดังกล่าวด้วยความอะลุ้มอะล่วยอีกครั้งหนึ่ง โดย ขอให้พิจารณาบนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่าง 2 ประเทศ นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดส่งคณะผู้แทนเดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย เพื่อแก้ไขปัญหาการ ทำประมงร่วม พร้อมทั้งดูแลสวัสดิการชาวประมงไทยที่เกาะโมลุกกะของอินโดนีเซียอีกด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7Press Division, Department of Information Tel. 643-5105 Fax. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th-- จบ--
-อน-